“จุรินทร์” ยันประชาธิปัตย์นั่งเรือแป๊ะ ยังไม่มีแนวคิดโดดลงกลางทางแน่ “ยุทธพงศ์” ประเดิมซ้อมซักฟอกอัดงบประมาณ 2565 กลาโหมได้มากกว่าสาธารณสุข พิธาซัด “บิ๊กตู่” วันแมนโชว์พาลงเหว
เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ยังคงมีความต่อเนื่องในกรณีพรรคร่วมฝ่ายค้านจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลบริหารสถานการณ์โควิด-19 ล้มเหลว โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าญัตติที่ฝ่ายค้านจะยื่นนั้นเป็นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ หรือญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติ แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ในฐานะที่เป็นรัฐบาล เชื่อมั่นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม จะสามารถนำทีมรัฐบาลตอบคำถามของฝ่ายค้านได้ และหากมีประเด็นใดที่ลงลึกเกี่ยวกับแต่ละกระทรวง รัฐมนตรีแต่ละกระทรวงก็มีหน้าที่ช่วยตอบคำถามแทนนายกฯ ซึ่งถือเป็นเรื่องดีที่ฝ่ายค้านก็ทำหน้าที่ในการตรวจสอบรัฐบาล เป็นวิถีทางปกติในระบอบประชาธิปไตย และไม่มีความจำเป็นใดที่จะไปสกัดกั้นหรือต่อต้านการทำหน้าที่ของฝ่ายค้าน
"ผมคิดว่าเป็นเรื่องปกติที่คนทำงานก็จะต้องมีข้อบกพร่องบ้าง อันนี้เป็นเรื่องที่ไม่ว่าใครมาทำหน้าที่บริหารประเทศ ก็จะต้องมีข้อบกพร่องเป็นเรื่องปกติธรรมดา เพราะฉะนั้นไม่คิดจะมีปัญหา เพราะข้อบกพร่องใดๆ รัฐบาลพยายามแก้ไข และวันนั้นก็ถือเป็นโอกาสของรัฐบาลในการทำความเข้าใจกับประชาชนด้วย" นายจุรินทร์กล่าว
เมื่อถามถึงกระแสกดดันให้ ปชป.ทบทวนการร่วมรัฐบาล นายจุรินทร์ตอบว่า สถานการณ์ปัจจุบัน สิ่งที่พรรคต้องทำคือจับมือร่วมกับทุกฝ่ายนำพาประเทศฝ่าวิกฤติ ซึ่งเป็นปณิธานของพรรคที่จะต้องร่วมมือกับทุกฝ่าย และรัฐบาล โดยได้กำชับไปทุกภาคส่วนของพรรคให้ทำหน้าที่ของตัวเองให้สมบูรณ์ที่สุด ไม่ว่าจะทำหน้าที่ในฝ่ายบริหารหรือนิติบัญญัติ และเชื่อว่าประชาชนทั้งประเทศมีใจเป็นธรรม ปชป. ก็จะปวารณาตัวทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด
เมื่อถามย้ำ หมายความว่าพรรค ปชป.จากนี้จะไปไหนไปกัน ไม่โดดลงเรือกลางคัน พร้อมสนับสนุนรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ต่อไปใช่หรือไม่ นายจุรินทร์ย้ำว่า สถานการณ์ปัจจุบันสิ่งที่ประชาชนส่วนใหญ่อยากเห็น การจับมือในการแก้ปัญหา และในสถานการณ์โควิดไม่แม้แต่ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านประชาชนก็ต้องร่วมมือกันในการฟันฝ่าวิกฤตินี้ไปด้วยกัน
ถามอีกว่าจุดไหนที่จะทำให้ ปชป.ทบทวนการร่วมรัฐบาลนั้น นายจุรินทร์ตอบสั้นๆ ว่า ยังไม่ได้คิด
ด้านนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีสภาผู้แทนราษฎรเตรียมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 วันที่ 31 พ.ค. และวันที่ 1-2 มิ.ย. ว่าพรรคจะชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลจัดงบประมาณเป็นอย่างไร โดยเฉพาะงบประมาณของกระทรวงสาธารณสุขลดลงจากปี 2564 ที่ได้งบประมาณ 158,000 ล้านบาท ขณะที่ปี 2565 โควิดกำลังระบาดหนัก ได้งบเพียง 153,000 ล้านบาท ทั้งที่ต้องได้งบเพิ่ม พล.อ.ประยุทธ์กลับไปจัดงบให้กระทรวงกลาโหม 203,000 ล้านบาท มากกว่า สธ. 5 หมื่นล้านบาท เป็นไปได้อย่างไรในภาวะโควิดระบาด และอยากรู้ว่าจะมีการจัดซื้อเรือดำน้ำอีกหรือไม่ เพราะงบ 64 พรรคคัดค้านไม่ให้ซื้อ แต่ปี 65 มีการของบมาอีกแล้ว โดยกองทัพเรือได้งบประมาณ 41,307 ล้านบาท
“คนไม่มีกิน จะอดตาย มีคนฆ่าตัวตาย คนตายจากโควิดทุกวัน โรงพยาบาลไม่มีที่จะรักษา พล.อ.ประยุทธ์กลับไปให้ความสำคัญกับกองทัพในการจัดซื้ออาวุธ ทำไมไม่เอาเงินพวกนี้มาดูแลบุคลากรทางการแพทย์ อสม. นักรบด่านหน้าที่จะต้องสู้กับโควิด เมื่อเปิดสภามา คุณประยุทธ์อย่าหนีผมออกไปไหนก็แล้วกัน จะซักฟอก เวลาอภิปรายกรุณาช่วยมานั่งฟัง แล้วบอกว่าฝ่ายค้านไม่มีข้อมูล อันนี้แค่น้ำจิ้มเท่านั้น ยังมีกองทัพบก กองทัพอากาศอีกที่ ยังไม่ได้ออกมาเปิดเผย” นายยุทธพงศ์กล่าว
ส่วนนายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษก พท. กล่าวถึงการระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่เรือนจำว่า ขอเรียกร้องให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องออกมาแสดงความรับผิดชอบกรณีปล่อยปละละเลยให้เกิดคลัสเตอร์เรือนจำ และขอให้เร่งฉีดวัคซีนให้ผู้ต้องขังทั้ง 100% โดยเร็วที่สุด
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ ขอย้ำอีกครั้ง พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ขาดอำนาจ แต่ขาดความสามารถ ว่าเป็นเวลา 20 วันเต็มแล้วที่เราต้องอยู่ภายใต้การบริหารแบบรวบอำนาจของนายกฯ ที่รวบอำนาจหน้าที่ 31 พ.ร.บ.จากรัฐมนตรีคนอื่นมาไว้ในมือ เป็นการรวบอำนาจที่มีเจตนาเพื่อแก้ไขวิกฤติโควิดแบบวันแมนโชว์ ซึ่งผลที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยในรอบ 20 วันนี้ก็คือ ผู้ติดเชื้อสะสมทะลุ 100,000 รายเป็นวันแรก เฉลี่ยติดเชื้อเพิ่มวันละ 2,197 ราย ผู้เสียชีวิตสะสมในรอบ 20 วันแห่งการรวบอำนาจ อยู่ที่ 436 ราย เพิ่มขึ้น 295% เมื่อเทียบกับยอดผู้เสียชีวิตสะสมช่วงก่อนหน้านี้ที่สะสมมากว่า 400 วัน อัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 0.58% หมายถึงความเสี่ยงในการเสียชีวิตเมื่อตรวจพบเชื้อ เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม 2.2 เท่า ภายในระยะเวลา 20 วัน
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคก้าวไกล (กก.) กล่าวว่า พรรคมีข้อเสนอที่ต้องเร่งดำเนินทันที 1.รัฐบาลควรใช้ Rapid Anitgen Test ที่ผ่านมาตรฐาน อย. ในการตรวจคัดกรองให้กับประชาชนที่มีอาการเข้าข่ายว่าอาจติดเชื้อโควิด-19 2.รัฐบาลควรให้ประชาชนสามารถเข้าถึง Rapid Antigen Test ที่ผ่านมาตรฐาน อย. ผ่านการซื้อได้ตามร้านขายยามาตรฐานทั่วไป 3.รัฐบาลควรยกเลิกนโยบายที่โรงพยาบาลไหนที่ตรวจพบ จะต้องเป็นผู้จัดหาเตียงให้กับผู้ป่วยเอง 4.รัฐบาลต้องเร่งปรับปรุงกระบวนการในการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 5.รัฐบาลต้องเร่งจัดสรรงบประมาณ หรืออนุมัติงบกลางในการจัดซื้อเครื่องมือที่จำเป็น 6.รัฐบาลต้องกระจายความเสี่ยง และสำรองยาที่จำเป็น และ 7.รัฐบาลต้องเร่งจัดส่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่มีความชำนาญ เข้าไปจัดการควบคุมสถานการณ์การระบาดในในเรือนจำเขตลาดยาวอย่างเร่งด่วน
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ผู้ก่อตั้งพรรคไทยสร้างไทย โพสต์เฟซบุ๊กว่า เวลานี้คนไทยกำลังเผชิญกับมหาวิกฤติทั้ง COVID-19 และพิษเศรษฐกิจ โดยวิธีการที่จะเอาชนะ COVID ได้ถาวร ดังเช่นที่เราเคยเอาชนะโรคอื่นๆ เช่นฝีดาษหรือโปลิโอมาแล้ว คือการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้เกิดขึ้นกับประชาชนเท่านั้น และวิธีการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ที่ปลอดภัย ประหยัดเวลา และมีประสิทธิภาพมากที่สุด คือการฉีดวัคซีนให้ได้ 70% ของประชากรหรืออย่างน้อย 50 ล้านคนสำหรับประเทศไทย
“การฉีดวัคซีนคือทางออกทางเดียวที่จะทำให้ให้มหาวิกฤตินี้จบลงโดยเร็วที่สุด จึงขอวิงวอนทุกท่านค่ะ แม้เราจะโกรธ จะเกลียด จะไม่พอใจรัฐบาลนี้อย่างไร แต่คนไทยเราจะต้องผ่านพ้นจากมหาวิกฤติครั้งนี้ไปให้ได้ก่อน ซึ่งมีเพียงวิธีเดียวก็คือ เราต้องร่วมมือร่วมร่วมใจกันไปฉีดวัคซีนให้เร็วที่สุดเท่านั้น” คุณหญิงสุดารัตน์โพสต์.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |