16 พ.ค. 2564  นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวภายหลังการลงตรวจพื้นที่ตรวจสอบแคมป์คนงานของบริษัทอิตาเลียนไทย จำกัด ที่ตั้งอยู่ตรงซอยแจ้งวัฒนะ 5 ซึ่งจากการตรวจหาเชื้อโควิด  599 คน พบผู้ติดเชื้อ 482 คน ว่า แคมป์คนงานอิตาเลียนไทย ตรงบริเวณนี้ถือเป็นแหล่งชุมชน มีทั้ง รพ.จุฬาภรณ์ ตรงซอยศูนย์ราชการ,เคหะหลักสี่,แฟลตพนักงานแคท,แฟลตตำรวจ และตลาดตรงบ้านพักการรถไฟ จนถึงขณะนี้มีประชาชนเขตหลักสี่จำนวนมากได้รับผล กระทบ ติดเชื้อจากแค้มป์คนงานดังกล่าวแล้ว ขอเรียกร้องความรับผิดชอบไปยังบริษัทอิตาเลียนไทย จำกัด ที่ผ่านมาบริษัทอิตาเลียนไทย มีลักษณะเหมือนจงใจปกปิดข้อมูลใช่หรือไม่ ยังไม่เข้ามาดูแลคนงานของตัวเอง อย่างเช่นวานนี้ปล่อยให้คนงานในแคมป์ ออกมาจากพื้นที่อาศัย บางคนออกไปเข้าร้านสะดวกซื้อ บางคนออกไปตลาดซื้อของกินกลับมา ประชาชน ในพื้นที่ร้องเรียน บริษัทอิตาเลียนไทยจะเข้ามาดูแลพื้นที่ในช่วงเวลาที่มีคนมาตรวจสอบเท่านั้น พอข่าวเงียบก็ปล่อยทิ้ง ไม่มีการส่งอาหาร หรือให้ปัจจัยในการดำรงชีวิตกับผู้ที่กักตัวอยู่ สิ่งที่เกิดขึ้นบริษัทอิตาเลียนไทยต้องออกมาชี้แจงต่อสังคม เพราะมันสร้างความกังวลให้กับประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ใกล้กับแคมป์คนงานเป็นอย่างมาก 

นายสิระกล่าวว่า มีความกังวลในเรื่องการเคลื่อนย้ายคนงานในแค้มป์ ออกนอกพื้นที่ เพื่อไปตรวจหาเชื้อโควิด ว่าระหว่างการเดินทางมีการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างถูกต้องหรือไม่ และที่สำคัญคือ คนงานเหล่านั้นจะถูกพาย้ายไปที่เค้มป์คนงานพื้นที่อื่นหรือไม่ เพราะเมื่อพื้นที่ตรงนี้ถูกสั่งปิดห้ามเข้าออก จนมีการขนย้ายแรงงานไปอาศัยที่อื่น เพื่อที่จะสามารถทำงานต่อไปได้ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น เชื้อโควิดจะกระจายตัวไปที่แค้มป์คนงานอีกหลายพันแห่ง ขอวิงวอนให้นายจ้างทั้งหลายอย่าปกปิดข้อมูลผู้ติดเชื้อโควิด เพราะกังวลถึงเรื่องแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมาย เพราะเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ตะกระทบกับคนไทยทั้งประเทศ ขอให้มีความรับผิดชอบต่อสังคมด้วย ในส่วนของแค้มป์คนงานที่หลักสี่นี้ ต้องขอขอบคุณนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน เมื่อประสานยังท่านแล้ว ก็ทำงานเชิงรุกอย่างรวดเร็ว ประสานงานกันอยู่ตลอด 24 ชม.เพื่อที่จะหยุดการแพร่ระบาดของคลัสเตอร์แห่งนี้ให้ได้ 

นายสิระกล่าวอีกว่า ขอฝากไปยังรัฐบาลและ ศบค.ให้เร่งตรวจสอบแค้มป์คนงานทั่วประเทศ เพราะตนเชื่อว่ายังมีอีกหลายแห่งที่มีการปกปิดข้อมูลผู้ป่วย และลักษณะความเป็นอยู่ของคนงานในแคมป์ค่อนข้างหนาแน่น มีการใช้พื้นที่ส่วนกลางร่วมกันในหลายจุด เช่น ห้องน้ำ และพื้นที่รับประทานอาหาร รวมทั้งพฤติกรรมของคนงานจะมีการเดินทางไปตลาดในชุมชนเพื่อจับจ่ายซื้อของและดำเนินชีวิต และพบว่ามีการเดินทางข้ามพื้นที่ในแคมป์คนงานพื้นที่อื่นๆ ด้วย ซึ่งตนมองว่า รัฐต้องออกมาตรการเอาผิดกับบริษัทผู้รับผิดชอบคนงานเหล่านี้ เพื่อเป็นการป้องกันการปล่อยปะละเลย ไม่รับผิดชอบต่อสังคมของบรรดานายจ้าง