อนุรักษ์และฟื้นฟูป่า ดูแลสังคม-สิ่งแวดล้อมยั่งยืน


เพิ่มเพื่อน    

10 พฤษภาคมของทุกปี ตรงกับ “วันป่าชายเลนแห่งชาติ” เป็นการเตือนให้ทุกภาคส่วนร่วมกันปกป้อง ดูแลรักษา ปลูก ฟื้นฟู ทรัพยากรป่าชายเลนให้คงความสมบูรณ์ เนื่องจากป่าชายเลนเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญ เป็นต้นทางของการสร้างความมั่นคงทางอาหารของมนุษย์และสัตว์ทุกชีวิต และยังเป็นแหล่งรายได้ของผู้ประกอบอาชีพด้านการประมงอีกด้วย
    

นายวุฒิชัย สิทธิปรีดานันท์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร หรือซีพีเอฟ กล่าวว่า จากการประเมินผลกระทบด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ที่เกิดขึ้นจากโครงการซีพีเอฟ ปลูก ปัน ป้อง ป่าชายเลน ปี 2561-2562 เทียบกับก่อนเริ่มโครงการ ในด้านเศรษฐกิจพบว่า คนในชุมชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และมีรายได้เฉลี่ยเพิ่มขึ้น อาทิ รายได้จากการทำประมง โดยในพื้นที่ ต.บางหญ้าแพรก จ.สมุทรสาคร รายได้เฉลี่ยเพิ่มขึ้น 1.7 เท่า และในพื้นที่ ต.ปากน้ำกระแส จ.ระยอง รายได้เฉลี่ยเพิ่มขึ้น 2.2 เท่า ด้านสังคม กลุ่มผู้สูงวัยมีสุขภาพจิตดีขึ้น จากการที่ได้ใช้เวลาว่างในการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ และผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ป่าชายเลนป้องกันการกัดเซาะแนวชายฝั่ง เป็นแหล่งเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำตามธรรมชาติ และช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
    

ทั้งนี้โครงการ “ซีพีเอฟ ปลูก ปัน ป้อง ป่าชายเลน” ยังสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (Sustainable Development Goal : SDGs) ในประเด็นการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน ส่งเสริมการใช้ประโยชน์ที่ยั่งยืนของระบบนิเวศบนบก
  

 “ซีพีเอฟ ดำเนินธุรกิจด้วยวิสัยทัศน์ “ครัวของโลกที่ยั่งยืน” พร้อมดูแลสิ่งแวดล้อมด้วยความใส่ใจตลอดกระบวนการผลิต ตระหนักและรู้คุณค่าของป่าชายเลน จึงได้ร่วมกันปกป้อง อนุรักษ์และฟื้นฟูป่า ซึ่งผลจากการดำเนินโครงการระยะที่ 1 (ปี 2557-2561) ช่วยอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชายเลนรวม 2,388 ไร่ ในพื้นที่ จ.ระยอง สมุทรสาคร ชุมพร สงขลา และพังงา” นายวุฒิชัยกล่าว
    

สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 เป็นอีกหนึ่งสัญญาณเตือนว่าถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องคืนความสมดุลให้กับธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ป่า ป่าไม้ ต้นไม้ เพราะสิ่งที่ตามมาคือ การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของมนุษย์ ซีพีเอฟตระหนักดีถึงความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะป่าชายเลนที่เป็นทั้งแหล่งอาหาร แหล่งรายได้ และเป็นความมั่นคงทางอาหารของชุมชน จึงมุ่งมั่นเป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ประเทศ และรักษาให้คงอยู่อย่างยั่งยืนต่อไป
  

 นายวัฒนา พรประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า พื้นที่ป่าชายเลน จ.สมุทรสาคร เป็นพื้นที่อ่าวตัว ก ที่มีปัญหาพื้นที่ชายฝั่งถูกกัดเซาะ แต่จากความร่วมมือของภาคเอกชนและชุมชนในพื้นที่ดำเนินโครงการซีพีเอฟ ปลูก ปัน ป้อง ป่าชายเลน ทำให้ผืนป่าชายเลนบริเวณนี้กลับมาอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง เป็นป่าชายเลนมีคุณค่าทางเศรษฐกิจ เป็นที่ดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งจากการปลูกไม้ป่าชายเลน คือ ต้นแสม ซึ่งเป็นต้นไม้ที่เติบโตได้ดีในพื้นที่ ปริมาณต้นไม้ที่เพิ่มขึ้นมีผลให้เกิดการทับถมของตะกอนเลนเป็นแนว ทำให้สามารถปลูกต้นไม้ได้มากขึ้น ซึ่งเป็นผลโดยตรงของการอนุรักษ์และฟื้นฟูที่ทำให้มีพื้นที่ป่าเพิ่มขึ้น.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"