“ในดีก็มีเสีย ในเสียก็มีดี” หลักของการมองโลกในแง่บวก โดยการหยิบเอาประโยชน์จากสิ่งที่เป็นลบมาปรับในชีวิต โดยเฉพาะโรคโควิด-19 ที่หลายคนทั่วโลกมองว่าเป็นมหันตภัยร้าย ที่ทำร้ายสุขภาพ ชีวิต และฉุดเศรษฐกิจให้ย่ำแย่ลง หากมองอีกแง่การระบาดของไวรัสโควิด-19 เป็นเครื่องย้ำเตือนให้มนุษย์ทุกคนรู้ เรากำลังใช้ชีวิตไปในเชิงออกนอกลู่นอกทาง หรือ ผิดธรรมชาติมากขึ้นในทุกๆด้าน เริ่มตั้งแต่ผิดธรรมะ การเห็นแก่ตัว การคดโกง และการทำร้ายธรรมชาติมากเกินไป อย่างการตัดไม้ทำลายป่า ทำลายสิ่งแวดล้อมฯลฯ ก็จะทำให้เรามีความสุข และใช้ชีวิตได้อย่างมีปาฏิหาริย์ ซึ่งไม่ใช่การเหาะเหินเดินอากาศ แต่เป็นการดำเนินชีวิตตามรอย “ในหลวงรัชกาลที่ 9” อย่างเรื่อง “เศรษฐกิจพอเพียง” ที่สามารถนำมาปรับใช้ เพื่อให้มนุษย์อยู่กับธรรมชาติได้อย่างสมดุลไม่เป็นทุกข์
การใช้มุมมองโควิด-19 ให้เป็นเรื่องบวกนี้ “พันเอก นพ.พงศ์ศักดิ์ ตั้งคณา” ประธานมูลนิธิ “จิตเป็นผู้ให้ ใจเป็นนิพพาน” อธิบายว่า “ หลักคำสอนของพระพุทธเจ้านั้น ได้อธิบายไว้ว่าถ้าเราเข้าใจธรรมะจริงๆแล้ว เราก็จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร และนั่นจะทำให้เราไม่เป็นทุกข์ โดยเฉพาะเรื่องของโรควิด-19 ที่กำลังระบาดไปทั่วโลก อีกทั้งบ้านเรากำลังประสบปัญหา ในการรับมือกับระลอกที่สามอยู่ในขณะนี้ ยกตัวอย่างง่ายๆว่าโรคระบาดดังกล่าว ในทางธรรมะถือว่าเป็นเครื่องมือจากฟ้า ที่ต้องการบอกหรือสะท้อนให้คนทั่วโลกเห็นว่า ตอนนี้เราทุกคนกำลังใช้ชีวิตแบบผิดครรลอง หรือผิดธรรมชาติมากขึ้น เพราะสิ่งที่ธรรมชาติกำหนดมาให้เรา คือการใช้ชีวิตอย่างพอดี แต่ทุกวันนี้อาจจะไม่ใช่อย่างนั้น
“ยกตัวอย่างสิ่งที่เปลี่ยนไป และเกิดจากน้ำมือมนุษย์ในด้านสิ่งแวดล้อมที่เห็นภาพชัดๆ คือ เราจะเห็นน้ำในแม่น้ำลำคลองเน่าเสียมากขึ้น ขยะมากขึ้น สิ่งแวดล้อมทางทะเลถูกทำลายมากขึ้น หรือคนในสังคมแก่งแย่ง แบ่งฝักฝ่ายกันมากขึ้น กระทั่งแม้แต่ข่าวการฆ่าฟันกัน และลักทรัพย์กันสูงขึ้น และสิ่งที่ให้คนใช้ชีวิตแบบขาดสมดุลที่ธรรมชาติกำหนดมาให้ หรือการใช้ชีวิตอย่างพอดีนั้น มีตัวแปรมาจากกิเลส อีกทั้งเมื่อมนุษย์ดำเนินชีวิตแบบออกนอกลู่นอกทางดังกล่าวสูงขึ้น ดังนั้นโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้น จึงเป็นคำเตือนที่รุนแรง หรือเป็นคำสั่งของฟ้าที่สั่งมา เพื่อกระตุ้นให้คนกลับมาใช้ชีวิตที่เหมาะสม ตามแบบที่ธรรมชาติเป็นผู้กำหนดมา นั่นคือความพอดีและการช่วยเหลือแบ่งปันกันไม่ละโมบโลภมาก ไม่อยากมีอยากได้จนเกินไป กระทั่งไปกระทบต่อสังคมสิ่งแวดล้อม และมนุษย์ด้วยกันเอง
“และข้อดีของโรคโควิด-19 อีกเรื่องที่เรามองเห็น คือ ตอนนี้อากาศบ้านสะอาดขึ้น เพราะมลพิษน้อยลง คนทำงานที่บ้านมากขึ้น หรือแม้แต่สถานที่ท่องเที่ยวอย่างทะเลนั้น น้ำทะเลใสขึ้น ปะการังสวยงามขึ้น และเราก็จะเห็นปลาโลมาว่ายไปมา เพราะธรรมชาติได้ฟื้นตัวจากโรคระบาดดังกล่าว เนื่องจากนักท่องเที่ยว งดการเดินทางมาประเทศไทยชั่วคราว ที่สำคัญอีกอย่างนั้นโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่กระตุ้นให้คนกลับไปดำเนินชีวิต อยู่ในครรลองครองธรรมมากขึ้น แต่ยังทำให้เรากลับไปนำคำสอนของ “ในหลวงรัชกาลที่ 9” อย่างเรื่องของความพอเพียง มาปรับใช้เช่นเดียวกัน ถ้าเราไม่มีเงินทองเราก็ไม่ทุกข์ เพราะหลักเศรษฐกิจพอเพียงนั้น คือการที่เรามีชีวิตอยู่ได้บนพื้นฐานความพอดี แต่ถ้าวันไหนเรามีมาก เราก็ช่วยเหลือผู้อื่นได้มากขึ้น และถ้าย้อนกลับไปตอนที่โควิด-19 ระบาดรอบแรกนั้น เราจะเห็นคนไทยนำของมาบริจาคที่ตู้ปันสุข ซึ่งสิ่งดีๆเหล่านี้มันเกิดจากความรักความเมตตา และเมื่อไรที่สังคมมีทั้งความรักและความเมตตา เมื่อนั้นโรคโควิด-19 ก็จะหายไป นั่นเป็นเพราะคนในสังคมกลับมาใช้ชีวิตที่ถูกทาง และไม่ผิดต่อธรรมชาติ ตรงกันข้ามคือการที่คนในสังคม อยู่กันอย่างเอื้ออารีนั่นเอง เพราะโควิด-19 เป็นสิ่งเตือนจากฟ้าหรือเบื้องบนเท่านั้น”
“คุณหมอนักพูดด้านธรรมะ” กล่าวเสริมว่า “ทั้งนี้การที่เราดำเนินชีวิตได้อย่างพอดีและพอเพียงนั้น หมายความว่าการที่เรารู้จักเตรียมตัวเตรียมใจ เพื่อดำเนินชีวิตอยู่แบบให้ชีวิตมีปาฏิหาริย์ ซึ่งไม่ใช่การเหาะเหินเดินอากาศ เนื่องจากพระพุทธเจ้าไม่ได้สรรเสริญการกระทำดังกล่าว แต่ชีวิตมีปาฏิหาริย์หมายความว่า เราใช้ชีวิตในปัจจุบันอย่างไม่เป็นทุกข์ในทุกๆวันของเรา เช่น กินอาหารปกติที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ซึ่งไม่ใช่อาหาราคาแพงเกินที่เราจะจ่ายได้ หรือเลือกใช้รถยนต์ที่สมกับฐานะ ที่เราจะสามารถซื้อมันได้ หรือถ้าเราว่างในช่วงนี้เราก็ไปออกกำลังกาย หรือ ถ้าสามารถช่วยเหลือคนอื่นในเรื่องต่างๆได้ เช่น การบริจาคของ บริจาค ก็ให้ทำตามกำลังของเรา เพราะการที่ชีวิตมีปาฏิหาริย์ ก็คือการอยู่บนพื้นฐานของความพอดีไม่โลภนั่นเอง”
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |