"บิ๊กตู่" เปิด รพ.บุษราคัมพร้อมหนุนทุกด้าน ขอบคุณบุคลากรแพทย์-จนท.เสียสละ ปลุกอย่าท้อแท้เอาชนะโรคร้ายได้แน่ ขอประชาชนฉีดวัคซีน ชี้สถานการณ์ยังวางใจไม่ได้ แฮปปี้ตรวจจุดฉีดวัคซีนเดอะมอลล์บางกะปิ ชูสัญลักษณ์ "V" ชนะโควิดคู่กับ "Love" ให้คนไทยรักกัน ปรามภาคเอกชนพูดในทางเดียวกับรัฐ จ่อปรับมาตรการทั่วถึงทุกกลุ่ม สธ.แย้มสัปดาห์หน้าเปิดลงทะเบียนคนอายุต่ำกว่า 60 ปี
ที่อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม เวลา 09.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดโรงพยาบาลบุษราคัม ซึ่งจะสามารถรองรับผู้ป่วยได้ประมาณ 1,200 คน และสามารถเพิ่มเติมได้ 3,000-5,000 เตียง รองรับผู้ป่วยสีเหลืองที่เล็กน้อยจนถึงปานกลาง ทั้งจากโรงพยาบาลสนาม และสายด่วนใน กทม.และปริมณฑล หากผู้ป่วยอาการหนักจะส่งไปยังโรงพยาบาลที่มีความพร้อม ทั้งนี้ยังมีเจ้าหน้าที่หมุนเวียนปฏิบัติงานรวม 780 คน
โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า รัฐบาลได้ประกาศไปแล้วให้เป็นวาระแห่งชาติ ขอขอบคุณทุกคนและแสดงความชื่นชมบุคลากรสาธารณสุข แพทย์ พยาบาล รวมถึงเจ้าหน้าที่ทุกคน วันนี้มีปัญหาตามสถานการณ์ แต่เรามีการประเมินสถานการณ์ที่ดีขึ้น เลวร้ายมากขึ้น ภาวะวิกฤติ เป็นการวางแผนไว้ทั้งหมดและทำตามขั้นตอนที่มีสถานการณ์เป็นตัวชี้วัดว่าจะทำอย่างไร รวมถึงการจัดหาวัคซีน การจัดสถานที่คัดกรอง และสถานที่ฉีดวัคซีน ทุกอย่างต้องมีการวางแผนที่ดี ทั้งนี้ถือเป็นความสามาถที่เรายังรับได้เมื่อเปรียบเทียบกับหลายประเทศในโลกนี้ ดังนั้นขอให้ทุกคนอย่าท้อแท้ อย่าสิ้นหวัง และอย่ามัวขัดแย้ง วันนี้คิดว่าเราทำดีที่สุดแล้ว ขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ทุกคน และยังมีอีกหลายหมื่นคนทำงานในท้องถนนในพื้นที่และในชุมชนต่างๆ ขอให้กำลังใจท่านเหล่านั้นที่เสียสละเป็นด่านหน้าและพร้อมจะติดเชื้อตลอดเวลา ซึ่งอะไรที่จะเป็นกำลังใจให้กับคนเหล่านี้ก็ขอให้สร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ด้วย ซึ่งนี่คือคนไทย นี่คือตัวแทนของเราและระบบสาธารณสุขของเรา
นายกฯ กล่าวว่า มีผู้นำหลายประเทศ ผู้แทนทูตหลายประเทศพูดถึงประเทศไทย ชื่นชมในการจัดการของประเทศไทยในการแก้ปัญหาโควิด ซึ่งหลายประเทศยังควบคุมไม่ได้มากนัก และเราพร้อมแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวทางที่ไทยเคยปฏิบัติ มีอะไรช่วยเหลือแนะนำได้ นอกจากนี้ขอบคุณฝ่ายความมั่นคงดูแลชายแดนถือว่าควบคุมสถานการณ์ได้อย่างดี สิ่งที่สะท้อนใจคือ การเห็นภาพของบุคลากรทางการแพทย์ หมอ พยาบาล นั่งและนอนหลับอยู่บนพื้นสถานพยาบาล สะท้อนให้เห็นถึงการทำงานที่ทุ่มเท ซึ่งขอชื่นชมจากใจจริงในการทำงานเพื่อส่วนรวม และถือเป็นบุคคลที่มีความเสี่ยงสูง ประเทศไทยของเราต้องเอาชนะโรคร้ายนี้ให้ได้อย่างแน่นอน
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 นั้น เรายังวางใจกันไม่ได้ ยืนยันว่าเราจะต้องฉีดวัคซีนให้ครบให้ได้ในเวลาที่กำหนดไว้ ซึ่งต้องเข้าหมอพร้อม อยากรณรงค์ให้ทุกคนเข้าให้เร็วที่สุด แต่ไม่ใช่แย่งกันจนเข้าไม่ได้ ซึ่งต้องแก้ไป หากเข้าไม่ได้ พรุ่งนี้มะรืนค่อยเข้า ซึ่งเดิมกำหนดเฉพาะกลุ่มแพทย์ พยาบาล ด่านหน้า แต่วันนี้มีกลุ่มย่อยๆ ลงไปอีกเยอะแยะ ซึ่งจะจัดเวลาให้เหมาะสมกับการรับวัคซีนที่มาจากต่างประเทศ ซึ่งเดือนนี้เข้ามาเพิ่มเติมได้อย่างที่ต้องการ และจะเพิ่มปริมาณวัคซีนจากตรงนี้ไป ขอฝากทุกคนด้วยให้ช่วยกันไปฉีดวัคซีน ไม่ต้องให้ใครมาเรียก ไม่ต้องให้ใครเขามาจ้าง ไม่ต้องให้ใครมาให้อะไร เพราะเพื่อตัวเราเอง เพื่อครอบครัวของเรา รัฐบาลทำอย่างเต็มที่
เมื่อถามว่านักเรียนใกล้เปิดเทอมจะมีการฉีดวัคซีนให้กับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เดี๋ยวถามกระทรวงสาธารณสุข เพราะเป็นเรื่องของวัคซีนที่จะฉีดให้คนอายุไหน เป็นช่องทางทางการแพทย์ที่มีข้อกำหนดอยู่แล้ว
บิ๊กตู่แฮปปี้ชู "V" ชนะโควิด
ต่อมาเวลา 15.00 น. ที่ศูนย์การค้าเดอะมอลล์บางกะปิ เขตบางกะปิ พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมคณะ ตรวจเยี่ยมหน่วยความร่วมมือบริการวัคซีนโควิด-19 ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกรุงเทพมหานคร (กทม.) สภาหอการค้าไทย โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี และศูนย์การค้าเดอะมอลล์บางกะปิ โดยทันทีที่นายกฯ เดินทางมาถึง ได้มีกลุ่มพนักงานของเดอะมอลล์กรุ๊ป นำโดย น.ส.ศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป ร่วมกันตะโกนสโลแกนว่า “หัวใจไทย ไทยช่วยไทย ไทยสู้ๆ” สร้างความพอใจให้กับ พล.อ.ประยุทธ์อย่างมาก โดย พล.อ.ประยุทธ์ได้ร่วมกล่าวสโลแกนดังกล่าว พร้อมชูนิ้วและส่งเสียงเฮ้ พร้อมกล่าวว่า “แฮปปี้ แฮปปี้”
จากนั้นนายกฯ ตรวจเยี่ยมพร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ โดยกล่าวว่า ขอบคุณทุกคนที่ร่วมทำกุศลไปด้วยกันให้ประชาชนและประเทศชาติ ขอบคุณทุกคนจริงๆ ถ้าแบบนี้เราแก้ได้ จะร้ายแรงยังไง เราแก้ได้ วันนี้มาด้วยใจ และขอย้ำว่าวันนี้วัคซีนต้องกระจายไปทั่วประเทศและกระจายไปจุดที่มีความเสี่ยงสูงก่อน ขณะนี้มีสถานที่ 25 แห่ง ซึ่งเป็นความร่วมมือของภาคเอกชนต้องจำเป็นในการกระจายวัคซีนไปให้ทั่วถึง
"การต่อสู้กับวิกฤติโควิด-19 ของประเทศไทย เราต้องร่วมแรงร่วมใจกัน เดินหน้าไปในทิศทางเดียวกัน ไม่โทษกันไปมา เพราะไม่ได้ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น แต่กลับแย่ลง รัฐบาลไม่เคยโทษประชาชนตามที่มีบางกลุ่มนำไปบิดเบือน พยายามสร้างความขัดแย้ง ประชาชนคือคนที่รัฐต้องดูแลและดูแลให้ดีที่สุด สัญลักษณ์ที่เราใช้ในวันนี้ “V” หมายถึงวัคซีนที่จะเอาชนะโควิด-19 ควบคู่ไปกับสัญลักษณ์ “Love” ที่พวกเราต้องรัก สามัคคีกัน รักตัวเอง ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ ด้วยสองสิ่งนี้ ประเทศไทยจึงจะฝ่าฟันผ่านพ้นวิกฤติโควิด-19 นี้ไปได้" พล.อ.ประยุทธ์ระบุ
นอกจากนี้ นายกฯ กล่าวทิ้งท้ายอย่างอารมณ์ดีว่า “รักทุกคนจากหัวใจของนายกฯ ทั้งหมดเราคือประเทศไทย เราต้องเอาชนะและสู้ไปด้วยกัน" พร้อมชู 2 นิ้ว สู้ๆ และทำมินิฮาร์ตให้กับบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ และผู้เข้ารับวัคซีน
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวภายหลังการตรวจเยี่ยมว่า วันนี้มีการขึ้นทะเบียนวัคซีนโมเดอร์นา และกำลังเจรจาระดับผู้นำกับต่างประเทศอยู่ว่าจะมีอะไรสามารถนำเข้ามาได้เพิ่มอีก ต้องเตรียมเผื่อไว้ ซึ่งเรามีวัคซีนเกณฑ์มาตรฐานอยู่แล้วตามแผนเดิม ทั้งแอสตร้าเซนเนก้าและซิโนแวค ที่เข้ามาเป็นระยะๆ ทำให้เรามีวัคซีนเพิ่มมาอีก 3.5 ล้านโดส ซึ่งบางจังหวัดอาจจะได้มากได้น้อยขึ้นอยู่สถานการณ์การแพร่ระบาด ขณะเดียวกันจะพิจารณาจำนวนวัคซีนที่เรามี 63 ล้านโดส โดยให้แนวทางไปแล้วว่าจะมีการปรับกลุ่มให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องให้บริการสาธารณะหรือที่ต้องพบปะคนจำนวนมาก
"ขอบคุณในความเข้าใจและขอบคุณในหลายๆ เรื่อง ภาคเอกชนเมื่อร่วมมือกับรัฐบาลก็ต้องพูดไปในทางเดียวกัน ผมบังคับท่านไม่ได้ เพราะท่านก็คุยอยู่กับผมทุกอาทิตย์นั่นแหละ เรื่องวัคซีนผมก็อธิบายไป ให้หมออธิบายก็เข้าใจ แต่ออกมาพูดอีกอย่างผมไม่แฮปปี้เท่าไหร่ ผมจำเป็นต้องพูดตรงนี้จะได้เข้าใจร่วมกัน" นายกฯ กล่าว และว่า หลังจากนี้จะมีกลุ่มรับจ้างสาธารณะ รถเมล์ มอเตอร์ไซค์ Grab และคนที่ต้องเดินทางไปมาที่จะต้องหาวัคซีนตรงนี้เพิ่มให้อีก รวมถึงครู นักธุรกิจในประเทศและนักธุรกิจต่างประเทศที่เข้ามาอยู่ในประเทศ แรงงานในระบบ 16 ล้านคน ดังนั้นต้องบริหารจัดการทีละขั้นตอน ตรงไหนฉีดมากฉีดน้อย
เมื่อถามถึงกรณีที่ จ.บุรีรัมย์ ออกคำสั่งใหม่ให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่อาจจะติดเชื้อหรืออาจจะรับเชื้อให้ฉีดวัคซีน หากฝ่าฝืนมีโทษทั้งจำและปรับนั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับผู้ว่าราชการจังหวัด แต่ไม่ได้มุ่งหมายต้องไปทำร้ายประชาชน ซึ่งอาจจะเป็นการเตือนไว้ เหมือนกับค่าปรับ ขึ้นอยู่กับการพิจารณา และบางจังหวัดต้องมีการห้ามบ้าง ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคณะกรรมการจังหวัดพิจารณาภายใต้กฎหมายที่มีอยู่
นายกฯ กล่าวในช่วงท้ายด้วยว่า หลายจังหวัดยังรออยู่ วัคซีนยังกระจายไปไม่หมด จึงต้องให้ศูนย์กระจายวัคซีนภูมิภาคลดภาระส่วนกลาง ซึ่งปัญหาทุกปัญหาแก้ได้หมดด้วยความเข้าใจที่ตรงกัน เราจะสู้ไปด้วยกัน ก่อนกล่าวว่า "วัคซีนไอเลิฟยู" และชู 2 นิ้ว
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าจังหวัดบุรีรัมย์ได้รับวัคซีนเป็นสิทธิพิเศษว่า ไม่เกี่ยว ไม่ว่าจังหวัดใดให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัดทำเรื่องร้องขอตามจำนวนที่ต้องการ เพื่อให้ สธ.จัดจำนวนให้ โดยจัดไปตามกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มต่างๆ ถ้าบริหารแค่ สธ.โดยลำพังไม่มีปัญญาที่จะทำได้ครบทั้งหมดทั่วประเทศ
ต่ำ 60 ปีจองวัคซีนสัปดาห์หน้า
ทางด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวผ่านรายการ NBT รวมใจสู้ภัยโควิด-19 @ทำเนียบรัฐบาล กล่าวถึงการเข้ารับการฉีดวัคซีนแบบวอล์กอินว่า กำหนดให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนได้ 3 รูปแบบคือ นัดหมายผ่านแอปพลิเคชันหมอพร้อม, นัดหมายโดยตรงกับโรงพยาบาล อสม. หรือผ่านองค์กร และเดินเข้ารับวัคซีนแบบไม่ได้นัดหมาย หรือวอล์กอิน โดยรัฐบาลจะเริ่มฉีดให้ประชาชนทั่วไปอย่างเป็นทางการในเดือน มิ.ย. ส่วนในช่วงนี้จะเป็นการทดลองการฉีด เนื่องจากกลางเดือน พ.ค.จะมีวัคซีนเข้ามาเร็วกว่ากำหนด จากเดิมที่จะเข้ามาในเดือน มิ.ย. จำนวน 3 ล้านโดส จึงจะมีการเปิดทดลองฉีดในสถานที่ต่างๆ
สำหรับผู้ที่ต้องการฉีดวัคซีนแบบวอล์กอินจะให้แต่ละจังหวัดเป็นผู้กำหนดหลักเกณฑ์และสถานที่การฉีด โดยสาธารณสุขต้องการให้เป็นสถานที่กว้างขวาง เดินทางสะดวก มีที่จอดรถ เช่น สถานีกลางบางซื่อ หรือสามย่านมิตรทาวน์ เป็นต้น โดยเบื้องต้นรูปแบบประชาชนจะต้องนำบัตรประชาชนมายืนยันตัวตน ส่วนการกำหนดจุดและปริมาณการฉีดวัคซีนแต่ละวันจะมีการแจ้งให้ทราบ อย่างไรก็ตาม หากเป็นไปได้อยากให้ประชาชนลงทะเบียนการฉีดวัคซีนผ่านแอปพลิเคชันหมอพร้อม ซึ่งจะง่ายต่อการบริหารจัดการ นอกจากนี้ประชาชนที่มีอายุ 18-59 ปี จะมีการเปิดให้ลงทะเบียนในแอปพลิเคชันหมอพร้อมเพิ่มเติมในสัปดาห์หน้า ซึ่งต้องรอประกาศอีกครั้ง
นพ.โอภาสกล่าวว่า ทางรัฐบาลต้องการให้คนในประเทศไทยเข้ารับการฉีดวัคซีน โดยหลักการชาวต่างชาติสามารถวอล์กอินได้ ซึ่งจะมีการคุยกับกระทรวงการต่างประเทศเพื่อหาจุดฉีดแยกเฉพาะออกไป เนื่องจากต้องใช้พาสปอร์ตในการแสดงตน ส่วนกรณีผู้หญิงตั้งครรภ์นั้น อยากให้ป้องกันด้วยวิธีอื่น เนื่องจากยังไม่มีผลวิจัยยืนยันในเรื่องความปลอดภัยของการฉีดวัคซีนของผู้ตั้งครรภ์ แต่แม่ที่ให้นมบุตรสามารถฉีดวัคซีนได้ ขณะที่เยาวชนที่อายุต่ำว่า 18 ปี ขอให้รอฉีดในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ที่จะมีการนำเข้าวัคซีนไฟเซอร์ที่สามารถฉีดให้กับบุคคลตั้งแต่อายุ 12 ปีขึ้นไปได้
ที่ซอยแจ้งวัฒนะ 10 เขตหลักสี่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า จะนำมติคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ เสนอเข้าที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ในการประชุมนัดหน้า เพื่อขอให้ผู้พิการได้เข้ารับการฉีดวัคซีนในลำดับต้นๆ เหมือนกับกลุ่มผู้สูงอายุ ขณะเดียวกันเร่งรัดให้มีการเปิดโรงพยาบาลสนามสำหรับผู้พิการที่ติดเชื้อโควิด-19 ที่อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จังหวัดปทุมธานี โดยจะไปตรวจความพร้อมในวันที่ 26 พ.ค. และจะเปิดให้บริการในวันที่ 1 มิ.ย.นี้
นพ.เฉลิม หาญพาณิชย์ นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชนไทย เปิดเผยถึงการจัดหาวัคซีนทางเลือกเข้ามาฉีดให้กับคนไทย ภายหลัง อย.รับรองการจดทะเบียนวัคซีนโมเดอร์นาว่า วันและเวลาที่ชัดเจนสำหรับการนำเข้าวัคซีนดังกล่าวยังไม่ชัดเจน แต่เบื้องต้นล็อตแรกจะเข้ามาน่าจะประมาณ 4 ล้านโดสภายในปีนี้ ทั้งนี้อย่าเพิ่งไปหลงเชื่อกระแสข่าวที่วัคซีนจะมีราคา 3,000-3,500 บาท เนื่องจากขณะนี้ราคาต้นทุนการนำเข้ามายังไม่ชัดเจน หรือหากโรงพยาบาลที่เปิดการลงทะเบียนและรับชำระเงินแล้วอาจถือเป็นความผิด.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |