ไทยพบติดเชื้อใหม่อีก 2,256 ราย เสียชีวิต 30 ราย รับ “กทม.-ปริมณฑล” ยังแรง ผู้ป่วยพุ่งเป็นสามเท่าของทั่วประเทศ 11 เขตยังต้องจับตาโดยเฉพาะแคมป์คนงาน “หมอทวีศิลป์” เผย “ประยุทธ์” เตรียมนั่งประชุม ศบค.ชุดใหญ่ 15 พ.ค. ผ่อนคลายมาตรการโซนสี “แดงเข้ม” 6 จังหวัดให้นั่งกินในร้านได้ 25% ถึง 3 ทุ่ม สั่งกลับได้ถึง 5 ทุ่ม ส่วนพื้นที่สีอื่นๆ ลดหลั่นกันไป “บิ๊กตู่” ชี้ปรับตามสถานการณ์ เอาใจคน 66 ล้านคงไม่ได้ แรงงานจ่อชงหั่นเงินสมทบ 50% ยาว 3 เดือน
เมื่อวันศุกร์ที่ 14 พฤษภาคม นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,256 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,068 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 1,523 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุก 545 ราย มาจากการคัดกรองเชิงรุกในเรือนจำ 183 ราย และเป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 5 ราย ทำให้มียอดผู้ ติดเชื้อสะสม 96,050 ราย หายป่วยสะสม 62,316 ราย อยู่ระหว่างรักษา 33,186 ราย อาการหนัก 1,203 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 408 ราย
“มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม 30 ราย เป็นผู้ชาย 16 ราย ผู้หญิง 14 ราย อยู่ใน กทม. 11 ราย, ราชบุรี 4 ราย
ปทุมธานี และสระแก้ว จังหวัดละ 2 ราย, สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี สุโขทัย มหาสารคาม เชียงราย สุพรรณบุรี นนทบุรี ร้อยเอ็ด พัทลุง และสุราษฎร์ธานี จังหวัดละ 1 ราย ปัจจัยเสี่ยงส่วนใหญ่เป็นการติดเชื้อมาจากคนในครอบครัวและคนขับรถแท็กซี่ 2 ราย ซึ่งข้อมูลตรงนี้จะนำเข้าสู่ที่ประชุม ศปก.ศบค. เพื่อทำสถิติจัดลำดับการฉีดวัคซีนด้วย ทำให้ปัจจุบันไทยมียอดผู้เสียชีวิตสะสม 548 ราย” นพ.ทวีศิลป์กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ยังกล่าวถึงจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุด 5 จังหวัดในวันที่ 14 พ.ค.ว่า ได้แก่ กทม. 1,087 ราย, ปทุมธานี 157 ราย, นนทบุรี 131 ราย, สมุทรปราการ 121 ราย และชลบุรี 64 ราย โดยวันเดียวกัน มี 16 จังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ ได้แก่ ลำพูน, ลพบุรี, สุรินทร์, ตราด, ตาก, น่าน, กาฬสินธุ์, พะเยา, เลย, ชัยนาท, หนองคาย, แม่ฮ่องสอน, หนองบัวลำภู, บึงกาฬ, อุทัยธานี และสตูล ขณะที่ข้อมูลผู้ติดเชื้อใน กทม.และปริมณฑลมีถึง 1,563 ราย ส่วนอีก 71 จังหวัด มีเพียง 505 ราย กทม.และปริมณฑลถือเป็นสามเท่าของจังหวัดอื่นๆ โดยในที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กมีการพูดถึงการค้นหาเชิงรุกในพื้นที่ กทม.ของวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านว่ามียอดทั้งสิ้น 7,247 ราย พบเชื้อ 359 ราย หรือ 4.95% จึงขอเตือนว่าโควิด-19 ใกล้เข้า ขอให้ประชาชนระมัดระวังตัว
“การค้นหาเชิงรุกในพื้นที่เข้มข้น 11 เขตของ กทม. ที่ประกอบด้วย ดินแดง, วัฒนา, คลองเตย, หลักสี่, ลาดพร้าว, ราชเทวี, พระนคร, ดุสิต, ป้อมปราบศัตรูพ่าย, สวนหลวง และจตุจักร พบว่าบางจุด เช่น แคมป์คนงานก่อสร้างในเขตหลักสี่มีผู้ติดเชื้อถึง 21.99% แคมป์คนงานก่อสร้างในเขตวัฒนามีผู้ติดเชื้อ 14.25% ดังนั้น จึงขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้ระมัดระวังสอดส่องคนงาน โดยหลังจากนี้ กทม.จะเข้าไปค้นหาเชิงรุกในแคมป์คนงานก่อสร้างทั่วทุกเขตใน กทม. นอกจากนี้ ในส่วนของสำนักงานประกันสังคมจะกระจายการค้นหาเชิงรุกให้กับผู้ประกันตนใน 9 จังหวัด คือ กทม., ปทุมธานี, สมุทรปราการ, นนทบุรี, ชลบุรี, เชียงใหม่, สมุทรสาคร, ภูเก็ต และระยอง
นพ.ทวีศิลป์กล่าวอีกว่า มีข้อมูลการค้นหาเชิงรุกในชุมชนที่มีการระบาดหนักก่อนหน้านี้ ทั้งปทุมวัน, สาทร, ป้อมปราบศัตรูพ่าย, สัมพันธวงศ์ และจตุจักร ซึ่งชุมชนบ่อนไก่ เขตปทุมวัน มีผู้ติดเชื้อสะสม 131 ราย สัมผัสเสี่ยงสูง 400 ราย สัมผัสเสี่ยงต่ำ 12,500 ราย ค้นหาเชิงรุกแล้ว 8,872 ราย ถือว่าแนวโน้มควบคุมการระบาดได้ เช่นเดียวกับเขตอื่นๆ ก็มีแนวโน้มควบคุมการระบาดได้เช่นเดียวกัน มีเพียงเขตจตุจักรที่มีการตรวจบริษัทรถทัวร์ ซึ่งมีการติดเชื้อในที่ทำงานที่มีผู้ติดเชื้อสะสม 28 ราย สัมผัสเสี่ยงสูง 393 ราย ค้นหาเชิงรุกแล้วทั้งหมด ขณะนี้กักกันผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเป็นเวลา 14 วัน และอยู่ระหว่างเฝ้าระวังผู้ป่วยเพิ่มเติม
นพ.ทวีศิลป์ยังแถลงถึงมาตรการการผ่อนคลายมาตรการป้องกันควบคุมโรค โควิด-19 และระดับของพื้นที่สถานการณ์ย่อยในพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร ตามที่คณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (อีโอซี) กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ศปก.ศบค. โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค.ได้สั่งให้พิจารณา เนื่องจากเห็นถึงเรื่องของผู้ประกอบการบางพื้นที่ จึงให้พิจารณาดูว่ามีส่วนใดที่จะพอผ่อนปรนให้ได้บ้าง เพื่อผู้ประกอบการรายย่อยหรือรายเล็ก ผู้ที่ค้าขายอาหารซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ของประชาชน ดังนั้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข จึงได้หารือกับปลัด สธ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมองวัตถุประสงค์ตามที่นายกฯ มอบหมาย เพื่อลดผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจและสังคม และให้สอดคล้องกับการระบาดในปัจจุบัน การปรับโซนสีจึงต้องเกิดขึ้น ศปก.ศบค. จึงสรุปหลักเกณฑ์ได้ 5 ข้อ ดังนี้ 1.ลักษณะการระบาดในชุมชนโดยพิจารณาจากจำนวนและความต่อเนื่อง 2.จังหวัดที่มีพื้นที่ติดกับพื้นที่ที่พบการระบาดต่อเนื่องและเสี่ยงต่อการแพร่กระจายเชื้อ 3.จังหวัดที่มีการระบาดในกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสแพร่เชื้อได้ง่าย 4.จังหวัดที่ติดกับชายแดนหรือเคยมีผู้เดินทางเข้าในพื้นที่ติดเชื้อ และ 5.สัดส่วนการได้รับวัคซีนของประชากรในพื้นที่
นพ.ทวีศิลป์กล่าวต่อว่า เมื่อพิจารณาแล้วจะทำให้เกิดการผ่อนคลายมาตรการตามระดับของพื้นที่สถานการณ์ย่อยในพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร ได้แก่ พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด จะมีการให้บริโภคในร้านได้ โดยนั่งได้ไม่เกิน 25% เท่ากับว่าโต๊ะ 4 คน นั่งได้ 1 คน เปิดได้ไม่เกิน 21.00 น. สั่งกลับบ้านได้ไม่เกิน 23.00 น. งดจำหน่ายสุราและเครื่องดื่มในร้าน ส่วนการใช้อาคารสถานที่เพื่อจัดการเรียนการสอน ยังขอให้งดอยู่ ยกเว้นมาขอเป็นรายกรณี เช่น การสอบเข้า-จับสลาก เข้า ป.1, ม.1 และ ม.4 ที่กระทรวงศึกษาธิการขอมา, พื้นที่ควบคุมสูงสุด บริโภคในร้านได้ไม่เกิน 23.00 น. งดการจำหน่ายและดื่มสุราในร้าน นอกจากนี้ในส่วนของสถานศึกษาทุกระดับ สถาบันกวดวิชา ให้ใช้อาคารสถานที่เพื่อจัดการเรียนการสอนกิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมาก โดยผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด, พื้นที่ควบคุมบริโภคในร้านได้ตามปกติงดการจำหน่ายและงดดื่มสุรา นอกจากนี้ ให้ใช้อาคารสถานที่เพื่อการจัดการเรียนการสอน กิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมากตามมาตราที่กำหนด
“รายชื่อจังหวัดใดบ้างที่จะอยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พื้นที่ควบคุมสูงสุด และพื้นที่ควบคุม ที่ประชุมยังหารือไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากยังมีข้อหารือสุดท้ายก่อนที่จะนำเสนอต่อนายกฯ ในฐานะ ผอ.ศบค. และในที่ 15 พ.ค.นี้จะได้แถลงประกาศให้ทราบกันอีกครั้ง” นพ.ทวีศิลป์กล่าว
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์กล่าวเรื่องนี้ในระหว่างลงพื้นที่ตรวจสถานที่ฉีดวัคซีนภาคเอกชนที่ศูนย์การค้าเดอะมอลล์บางกะปิ ว่ารับเรื่องมาหลายวันแล้ว และได้ให้แนวทาง ศบค.ไปพิจารณาร่วมกับ สธ. ซึ่งวันนี้มีมาตรการออกมาแล้วให้ผ่อนผันให้เปิดได้ แต่ต้องมีแนวทางปฏิบัติให้ถูกต้อง ซึ่งในระยะแรกได้เสนอมาให้คนเข้ามากินภายในร้านได้ 25% หรือ 1 ใน 4 ก่อน แล้วหลังจากนี้จะทำอย่างไรให้ลูกจ้างมีการฉีดวัคซีน ดังนั้นแผนต้องปรับตลอดเวลาหากปล่อยไปเรื่อยๆ อะไรก็ได้ก็จะเป็นปัญหา เพราะคนมีจำนวนมากกว่า 66 ล้านคน จะให้ทุกคนพอใจคงเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว แต่ขอให้ช่วยกัน ไม่จำเป็นต้องรักหรือชอบตน แต่จะดูแลทุกคนอยู่แล้ว
สำหรับการแบ่งโซนสีนั้น พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือสีแดงเข้มมี 6 จังหวัด ได้แก่ กทม., นนทบุรี, ชลบุรี, เชียงใหม่, ปทุมธานี และสมุทรปราการ โดยมีมาตรการควบคุมคือ 1.ห้ามจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่า 20 คน 2.ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มให้จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มในลักษณะนำกลับไปบริโภคที่อื่นได้เท่านั้น และเปิดให้บริการได้จนถึงเวลา 21.00 น. 3.สนามกีฬา สถานที่เพื่อการออกกำลังกาย ยิม ฟิตเนส ให้ปิดบริการ ส่วนสนามกีฬาหรือสถานที่เพื่อการออกกำลังกายประเภทกลางแจ้ง หรือที่ตั้งอยู่ในพื้นที่โล่งแจ้ง เปิดให้บริการได้ไม่เกิน 21.00 น. และจัดการแข่งขันกีฬาได้ โดยไม่มีผู้ชมในสนาม 4.ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ให้เปิดได้ตามปกติ จนถึงเวลา 21.00 น. โดยจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการและงดการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ยกเว้นตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกมและสวนสนุก ให้งดการใช้บริการ 5.ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต ตลาดนัดกลางคืน ตลาดโต้รุ่ง ถนนคนเดิน ให้เปิดตามเวลาปกติของสถานที่นั้นๆ แต่ไม่เกิน 23.00 น. สำหรับร้านหรือสถานที่ซึ่งปกติเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ให้เริ่มเปิดดำเนินการได้ในเวลา 04.00 น. และ 6.งดการเดินทางออกนอกพื้นที่ โดยไม่มีเหตุจำเป็น
ขณะเดียวกัน นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ระบุว่า คณะกรรมการประกันสังคมมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคม พ.ศ.….. โดยให้ลดอัตราเงินสมทบนายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33 จากเดิมฝ่ายละ 5% เหลือฝ่ายละ 2.5% ของค่าจ้างผู้ประกันตน และผู้ประกันตนมาตรา 39 เหลืออัตราเดือนละ 216 บาท เป็นเวลา 3 เดือนในงวดเดือน มิ.ย.-ส.ค.2564 และงวดเดือน ก.ย.2564 เป็นต้นไป ให้ส่งเงินสมทบอัตราเดิม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประกันตนในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในระลอก 3 โดยจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในสัปดาห์หน้า
“การลดเงินสมทบครั้งนี้จะทำให้เกิดประโยชน์ต่อนายจ้างและผู้ประกันตน นายจ้าง 485,113 ราย ผู้ประกันตน มาตรา 33 จำนวน 11,164,384 คน และผู้ประกันตนมาตรา 39 จำนวน 1,832,500 คน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 20,163 ล้านบาท” นายสุชาติกล่าว
วันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์มอบหมายให้นางนันทวรรณ ชื่นศิริ รองเลขาธิการนายกฯ ฝ่ายบริหาร นำหน้ากากอนามัย 100,000 ชิ้น ไปมอบให้แก่กรมราชทัณฑ์ ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงมาตรการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในคุกจำนวนมาก ว่าเขาดูแลกันอยู่ตอนนี้ ก็เรียนไปแล้วว่ามันอยู่ในพื้นที่ควบคุมจำกัด ก็ได้มีการซีลพื้นที่แล้ว มีการประสานกันอยู่แล้วในขณะนี้ คือป่วยแล้วมีเตียง รักษาหายได้ มันก็แค่นั้น ถ้าเราเทียบต่างประเทศ วันๆ เรายังมีจำนวนผู้ติดเชื้อขึ้นน้อยกว่าเขามาก แต่ถึงจะน้อยตนก็ไม่มีความสุข เพราะอยากให้มันไม่มีเลย ก็ต้องร่วมมือกัน
นายวีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ชี้แจงถึงสาเหตุของการพบยอดผู้ติดเชื้อจำนวนมากในระยะเวลารวดเร็ว ว่าตั้งแต่วันที่ 7 พ.ค. กรมได้ตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR แบบ 100% ตลอด 24 ชั่วโมง จนถึงวันที่ 12 พ.ค. จนครบ 100% ทำให้สามารถแยกกลุ่มเป้าหมายที่ติดเชื้อและกลุ่มที่ยังไม่ติดเชื้อแยกจากกันได้อย่างทันท่วงที และทำให้พบผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก และได้จำนวนผู้ติดเชื้อที่เป็นยอดแท้จริงก่อนรายงานไป ศบค.
“กรมราชทัณฑ์ไม่ได้ปกปิดข้อมูลผู้ติดเชื้อแต่อย่างใด และที่ผ่านมาหากผู้ต้องขังที่ติดเชื้อรายใดต้องการแจ้งให้ญาติภายนอกทราบ ทางเรือนจำและทัณฑสถานจะมีเจ้าหน้าที่คอยดำเนินการแจ้งไปยังญาติผู้ต้องขังแต่ละรายเป็นการเฉพาะอยู่แล้ว แต่ขึ้นอยู่กับความประสงค์ของผู้ต้องขังว่าต้องการแจ้งญาติหรือไม่ด้วย เนื่องจากไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลรายชื่อผู้ป่วย รวมถึงข้อมูลอื่นใดแก่บุคคลภายนอกได้ ยกเว้นหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง” นายวีระกิตติ์กล่าว
นายวีระกิตติ์ยังกล่าวถึงกรณีที่โลกออนไลน์ระบุว่า น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง แกนนำกลุ่มราษฎร?ไม่ได้ถูกกักตัวตลอดเวลาระหว่างวันที่ 23 เม.ย.-5 พ.ค.ว่า น.ส.ปนัสยาได้ถูกกักตัวในห้องกักโรคจนถึงวันที่ 25 เม.ย. ตามนโยบายเดิม 14 วัน แต่ช่วงดังกล่าว ได้มีนโยบายใหม่ให้กักตัวเป็น 21 วัน ซึ่งอาจทำให้ผู้ต้องขังเกิดความเครียดจากการกักตัว จึงผ่อนคลายโดยให้ผู้ต้องขังที่ออกจากห้องกักโรคได้ออกมาผ่อนคลายภายในแดนแรกรับ ซึ่งเป็นแดนที่เตรียมไว้สำหรับผู้ต้องขังเข้าใหม่ที่มีผู้ต้องขังทั้งแดนอยู่ที่ประมาณ 1,500 ราย ซึ่งเมื่อวันที่ 8 พ.ค. กรมได้ตรวจหาเชื้อผู้ต้องขังในแดนแรกรับทั้งหมดแบบ 100% ไม่ปรากฏว่ามีผู้ต้องขังรายใดที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งรวมถึงผู้ต้องขังที่พักร่วมห้องกับ น.ส.ปนัสยาเองก็ไม่พบว่ามีการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่อย่างใด.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |