ข้อสรุปทีมแพทย์จาก 3 สถาบัน: อย่าลังเล ฉีดวัคซีน พ้นวิกฤติด้วยกัน


เพิ่มเพื่อน    

 

         พอผู้คนมีคำถามเกี่ยวกับความปลอดภัยของการฉีดวัคซีน ประกอบกับข่าวปลอมข่าวปล่อยทางด้านลบมากมาย  ผมจึงเชิญคุณหมอผู้รู้จริงมาตั้งวงเพื่อตอบคำถามอย่างตรงไปตรงมา

            จับเอาข้อสงสัยคลางแคลงของคนทั้งหลายมาขอให้คุณหมอได้ตอบบนพื้นฐานวิชาการล้วนๆ ไม่มีการเมือง, ไม่มีดรามา และไม่มีอคติ

            คุณหมอจาก 3 โรงเรียนแพทย์แนวหน้าของประเทศ คือ ศิริราช, จุฬาฯ, และรามาฯ รับเชิญอย่างยินดียิ่ง

            เพราะท่านก็ต้องการให้ประชาชนได้เกิดความกระจ่างและมั่นใจว่า อย่างไรเสียโควิดก็น่ากลัวกว่าวัคซีนหลายเท่านัก

            วงคุณหมอวันนั้นมีดังนี้

            1.ศ.นพ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยคลินิก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล

            2.รศ.นพ.วินัย รัตนสุวรรณ หัวหน้าภาควิชาเวชศาสตร์ป้องกันและสังคม คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล

            3.ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

            4.รศ.พญ.ธันยวีร์ ภูธนกิจ รองหัวหน้าภาควิชากุมาร เวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

            5.ผศ.นพ.กำธร มาลาธรรม นายกสมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี  ม.มหิดล

            6.ศ.นพ.พันธุ์เทพ อังชัยสุขศิริ สาขาวิชาโลหิตวิทยา  ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ม.มหิดล

            สรุปสั้นๆ ง่ายๆ คือหากเอาหลักวิชาการแล้ว ทุกคนควรจะฉีดวัคซีน...ยิ่งเร็วยิ่งดี และไม่ต้องเลือกว่ายี่ห้อไหน เพราะวัคซีนทุกชนิดมีประโยชน์มากกว่าโทษแน่นอน

            คำถามยอดฮิตคือ วัคซีนตัวไหนดีที่สุด

            คำตอบคือ วัคซีนที่ดีที่สุดคือวัคซีนที่เข้าร่างกายเราเร็วที่สุด

            อย่ารอ...เพราะระหว่างรอนั้นเรามีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ

            คุณหมอยืนยันว่า ประสิทธิภาพของวัคซีนที่พูดๆ กันมา เป็นการศึกษาต่างสายพันธุ์ ต่างพื้นที่ ต่างช่วงเวลากัน

            แต่ทุกตัวเมื่อเข้าไปในร่างกายแล้วล้วนช่วยไม่ให้เกิดความรุนแรงของโรคทั้งสิ้น

            คำถามที่ไหลเทเข้ามาคือ “อาการข้างเคียง”

            คำอธิบายคือ อาการข้างเคียงเป็นเรื่องปกติสำหรับวัคซีนทุกชนิด

            แต่ที่แน่ๆ คือ ตั้งแต่มีการฉีดให้กว่า 1.7 ล้านคนในไทย ยังไม่มีใครเสียชีวิตเพราะวัคซีนเลย

            สำหรับ AstraZeneca นั้น เนื่องจากวิธีการสร้างวัคซีน ใช้ไวรัสเชื้อเป็น แต่เป็นเชื้อเป็นที่ไม่สามารถแบ่งตัวได้ มาฉีด

            พอฉีดเข้าไป เหมือนร่างกายรับเชื้อ ก็จะเริ่มสร้างภูมิคุ้มกัน ก็จะทำให้มีไข้

            ดังนั้นการมีไข้เป็นเรื่องปกติ จากผลการศึกษาคนที่อายุน้อยจะมีไข้มากกว่า

            แต่อายุเยอะหน่อยส่วนใหญ่จะไม่มีอะไร

            คุณหมออธิบายว่า ถ้ามีไข้แสดงว่าเป็นคนในวัยหนุ่มสาวหรือวัยทำงาน

            เมื่อถึงเวลาฉีด และได้รับ AstraZeneca วัยรุ่นทั้งหลายให้ทำใจไว้เลยว่ามีโอกาสเป็นไข้ได้ ไข้สูงกำลังสร้างภูมิคุ้มกันสูง อาจจะเป็นไข้อยู่จนถึง 2-3 วัน

            หากมีอาการมากหน่อยก็มาพบคุณหมอ ที่ผ่านมาก็หายเป็นปกติทุกราย

            อาการข้างเคียงของ Sinovac จะน้อยกว่า เพราะใช้วิธีการสร้างวัคซีนด้วยเชื้อตาย

            เหมือนการสร้างวัคซีนบาดทะยัก พิษสุนัขบ้า อาการข้างเคียงจะน้อยกว่า

            ถ้าใครเคยฉีดวัคซีนบาดทะยัก พิษสุนัขบ้า คงพอจะทราบดี

            มีคำถามต่อว่าวัคซีน 2 ตัว ตัวไหนดีกว่ากัน 

            คำตอบคือ ตัวไหนก็ได้เพราะป้องกันอาการรุนแรงทั้งคู่

            จุดเด่นของ AstraZeneca คือ ภูมิคุ้มกันจะขึ้นเร็วภายใน 2 อาทิตย์หลังจากฉีดเข็มแรก เข็มที่สองจึงฉีดห่างไป 1  เดือน

            ในขณะที่ภูมิคุ้มกันของ Sinovac ภูมิขึ้นช้ากว่า ฉีดเข็มแรก แล้วต้องฉีดเข็มที่ 2 ภายใน 1 เดือน

            มีคำถามต่อว่าฉีดเข็มแรกยี่ห้อหนึ่ง ฉีดเข็มที่สองอีกยี่ห้อได้ไหม

            หมอตอบว่าได้ แต่ไม่แนะนำ ยกเว้นแพ้เข็มแรกรุนแรง

            ถ้ามีอาการแพ้น้อยๆ ไม่ควรเปลี่ยน

            เกี่ยวกับเรื่องระบบการจองสำหรับเข็มที่สองด้วย ดังนั้นฉีดเข็มแรกที่ไหน เข็มที่สองก็จะเป็นที่เดียวกัน

            มีใครที่ยังไม่ควรฉีดบ้าง? หมอบอกว่าคนที่ยังไม่ควรฉีดคือคนที่

            1.กำลังเจ็บป่วยอยู่ ควรปรึกษาแพทย์ก่อน

            2.มีโรคประจำตัวที่อาการหนักและยังควบคุมไม่ได้ เช่น โรคหัวใจหรือภาวะหัวใจวาย ต้องให้แพทย์ประจำตัวประเมิน

            3.หญิงตั้งครรภ์น้อยกว่า 12 สัปดาห์ ในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ จะมีความอ่อนไหวของทารกในครรภ์

            แต่หากฉีดไปแล้วเพิ่งรู้ตัวว่าตั้งครรภ์ก็ไม่ต้องตกใจ ให้เลื่อนเข็มที่สองให้พ้น 12 สัปดาห์

            ดังนั้น คุณหมอทุกท่านจึงเรียกร้องให้ทุกคนมาฉีดวัคซีน เพราะถ้าไม่ฉีดก็จะมีโอกาสเกิด cluster ที่จะเป็นแหล่งแพร่เชื้อเพิ่มได้อีก

            ยืนยันจากจีนแล้วว่า คนอายุเกิน 60 ก็ฉีด Sinovac ได้แล้ว ตอนแรกที่จีนยังไม่ฉีดให้ผู้สูงอายุเพราะข้อมูลไม่พอเพียง มาวันนี้เขาให้คนเกิน 60 ฉีดแล้ว

            คนไทยก็เข้าข่ายทำนองเดียวกัน

            สรุปว่าข้อมูลจากผู้รู้จริงที่อยู่แนวหน้าของการทำสงครามกับโควิดมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า

            คนไทยจงช่วยกันไปฉีดวัคซีน อย่าได้ลังเล และไม่ต้องเลือกว่าเป็นยี่ห้อไหน เพราะทุกยี่ห้อมีประโยชน์มากกว่าโทษแน่นอน

            ฉีดวัคซีนไม่ใช่เพียงแต่ช่วยตัวเราเอง

            แต่ช่วยชีวิตคนในครอบครัวเราไม่ให้ติดเชื้อ

            ช่วยเพื่อนร่วมงานเรา

            ช่วยสังคม

            และช่วยประเทศชาติ

            เราจะได้กลับมาใช้ชีวิตปกติ ทำงานทำการ หารายได้และเปิดประเทศกันเสียที!

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"