เพื่อแม้วคุยลั่นมีตัวสำรอง ไม่หวั่น‘นิรโทษ’ตามหลอน


เพิ่มเพื่อน    

ประธาน ป.ป.ช.โต้ไม่มีแผนล้างบางเพื่อไทย ยันคดีเชือด 40 ส.ส.ชง กม.นิรโทษฯ ยังไม่จบ ต้องใช้เวลาอีกระยะ ขณะที่เด็กแม้วเผยฟ้องแพ่งเอาคืน ป.ป.ช. เรียกค่าเสียหาย 1 ล้านแล้ว ศาลจังหวัดนนทบุรีรับคำร้อง สืบพยานโจทก์นัดแรก 13 ก.พ. ยันการเสนอเป็นเอกสิทธิ์ ส.ส. ขณะที่ "วัชระ" แฉแหลก เข็นกฎหมายผิดข้อบังคับการประชุมสภาและขัดรัฐธรรมนูญ เหิมเกริมมีอำนาจ ไม่เคารพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสภา รับใช้นักโทษหนีคุก

            หลังนายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.จังหวัดสมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ออกมาเปิดเผยว่า  อนุกรรมการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่มี น.ส.สุภา ปิยะจิตติ เป็นประธาน เตรียมเสนอให้ชี้มูล 40 ส.ส.ที่เสนอ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเมื่อปี 2556 ทำให้มีเสียงวิจารณ์ตามมาว่ากำลังมีความพยายามบีบอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย เพื่อหวังผลทางการเมือง โดยเฉพาะการเลือกตั้งที่จะถึงนี้

            พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวว่า ยังไม่ทราบความคืบหน้าเรื่องดังกล่าว เพราะเรื่องยังอยู่ในชั้นของคณะอนุกรรมการไต่สวนฯ แต่คาดว่าความคืบหน้าคงยังไม่ถึงขั้นใกล้จะสรุปสำนวนการไต่สวนเร็วๆ นี้ คงต้องใช้เวลาอีกสักระยะ เพราะคณะอนุกรรมการไต่สวนฯ ยังไม่แจ้งต่อที่ประชุม ป.ป.ช.ว่าคดีดังกล่าวใกล้เสร็จแล้ว

            "จะเร่งสอบถามความคืบหน้าจากคณะอนุกรรมการไต่สวนฯ ว่าสำนวนคดีไปถึงไหนแล้ว ยืนยันว่า ป.ป.ช.ดำเนินการทุกอย่างตามข้อมูลพยานหลักฐาน ไม่ได้มีแผนล้างบางฝ่ายใดเพื่อสืบทอดอำนาจให้ใคร" ประธานป.ป.ช.กล่าว

            ด้านนายสามารถ แก้วมีชัย อดีต ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นมาจากที่นายบวร ยสินทร ร้องต่อ ป.ป.ช. ซึ่ง ป.ป.ช.ก็ได้รับเรื่อง ทั้งที่ไม่ควรรับ เพราะการเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เป็นอำนาจหน้าที่ของสมาชิก ส.ส. ตามรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว ถ้าอนุกรรมการฯ ชี้มูลขึ้นมา จะต้องส่งเรื่องไปที่ประชุมใหญ่ ป.ป.ช. เพื่อวินิจฉัยว่าจะเห็นด้วยหรือไม่ ซึ่งถ้าเห็นด้วยกับอนุกรรมการฯ ก็ต้องส่งเรื่องไปที่สำนักอัยการสูงสุด เพื่อส่งฟ้องไปที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

            "ผมจึงไม่กังวล เพราะว่าในระบอบประชาธิปไตยอำนาจนิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการ ต้องแยกออกจากกัน ถ้าขืนให้องค์กรใดองค์กรหนึ่งก้าวล่วงได้ ต่อไปการเสนอร่าง พ.ร.บ.สงสัยต้องยื่นขออนุญาต ป.ป.ช.ก่อนหรือเปล่า"

ฟ้องศาลเอาคืน

            นายสามารถยืนยันว่า ถ้าเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมาจะทำอดีต ส.ส.รวมกลุ่มเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันแน่นมากกว่าเดิม เพื่อที่จะสู้กับ ป.ป.ช. เพื่อหลักการที่ถูกต้อง เพราะเราสามารถสู้ได้อีกเยอะ เพราะเมื่อเสนอ พ.ร.บ.จะต้องผ่านการกระบวนการพิจารณาของ ส.ส. 3 วาระ และจะต้องผ่านการพิจารณาจาก ส.ว. เพื่อกลั่นกรองอีก ถ้าไม่เห็นด้วย ก็จะต้องตั้งกรรมาธิการร่วม แต่ถ้ากฎหมายที่ผ่านสภาไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ก็ไปยื่นได้ คำร้องไปที่ศาลรัฐธรรนูญให้ตรวจสอบได้อีก ดังนั้นมีการตรวจสอบถ่วงดุลกันอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องให้ใครมาก้าวก่าย แต่เป็นเรื่องตลกที่ 40 ส.ส.ที่ได้เสนอร่างนั้นยังไม่เป็นกฎหมาย ดังนั้นความผิดทางกฎหมายจึงไม่สำเร็จ

            นายสมคิด เชื้อคง อดีต ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ในฐานะหนึ่งใน 40 ส.ส.ที่ร่วมลงชื่อเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับนายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หากมีมติอย่างเป็นทางการเช่นนั้นออกมา อดีต ส.ส.ทั้ง 40 คนจะนัดหารือแนวทางการต่อสู้คดีต่อไป แต่ต้องรอดูว่า ป.ป.ช.ชุดใหญ่จะมีความเห็นอย่างไร

            เขากล่าวว่า เรื่องที่พวกตนถูกตั้งอนุกรรมการไต่สวนฯ นั้น นางสมหญิง บัวบุตร อดีต ส.ส.อำนาจเจริญ ตัวแทนกลุ่ม 40 ส.ส. ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายบวร ยสินทร ประธานเครือข่ายราษฎรอาสาปกป้อง 3 สถาบัน และคณะกรรมการ ป.ป.ช. 9 คน เป็นจำเลย ในความผิดฐานละเมิด ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี และศาลรับฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำ พ 821/2560 โดยจะสืบพยานโจทก์นัดแรก 13 ก.พ.

            พร้อมกันนี้ นางสมหญิงยังได้ฟ้องเรียกค่าเสียหายให้ตนเองกับพวกรวม 1 ล้านบาท เนื่องจากเป็นการทำให้กลุ่มผู้เสนอกฎหมายได้รับความเสียหาย เพราะรัฐธรรมนูญ 2550 ได้ให้การคุ้มครอง ส.ส. ส.ว. ในการอภิปราย และคงคะแนนพิจารณากฎหมายในการประชุมสภาไว้เป็นเอกสิทธิ์โดยเด็ดขาดไม่สามารถฟ้องร้องได้ และแนวทางนี้จะเป็นแนวทางในการต่อสู้หากป.ป.ช.ชี้มูลต่อไปด้วย  

            นายสมคิดกล่าวว่า กฎหมายคุ้มครองการอภิปรายและลงคะแนนสมาชิกรัฐสภาไว้ ที่กล่าวหาว่าเป็นการออกกฎหมายเพื่อพวกพ้องนั้น เป็นการเชื่อมโยงกันไปเองทั้งสิ้น เพราะในร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นการนิรโทษกรรมให้กับทุกสีเสื้อ ไม่ได้เลือกเจาะจงที่ใครคนใดคนหนึ่ง ไม่อยากให้เอาประเด็นเหล่านี้มาเป็นเรื่องการเมือง ไม่เช่นนั้นความขัดแย้งจะไม่จบสิ้น

"บิ๊กตู่"ล้างบาง

            "ที่นายกฯ บอกจะลงเล่นการเมือง แล้วมีกรณีเช่นนี้ออกมา จะถือเป็นการล้างบางฝ่ายตรงข้ามหรือไม่ อีกทั้งร่างกฎหมายดังกล่าวที่พวกผมเสนอไม่สามารถเป็นกฎหมายได้เลยถ้าไม่มีผู้โหวตให้ผ่านการพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎร แล้วไปตกที่ ส.ว. ก่อนมีการยุบสภา สุดท้ายจึงมีการยึดอำนาจ แล้วกฎหมายฉบับนี้ก็ไม่ได้เป็นรูปเป็นร่างต่อไป ถ้าป.ป.ช.เข้ามาก้าวก่ายการทำงานของรัฐสภาได้ แล้วอำนาจนิติบัญญัติจะศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไร แล้วต่อไปจะมีไว้ทำไม”

            นายสมคิดกล่าวว่า การจะเป็นกฎหมายได้ฉบับหนึ่ง จะต้องเป็นเพราะเสียงของสภา ถ้า 40 คนซึ่งเป็นผู้เสนอกฎหมายเป็นคนผิด ผู้ที่เห็นด้วยในวาระหนึ่ง วาระสอง และวาระสาม ตามขั้นตอนการออกกฎหมายไม่ผิดด้วยหรือ เท่ากับเป็นการล้างบางใช่หรือไม่ และถือว่าพรรคเพื่อไทยถูกตัดมือตัดเท้า ทั้งนี้ ขอให้เจ้าของแนวคิดดังกล่าวเปลี่ยนความคิด เพราะอดีต ส.ส.ไม่ได้กังวลอะไรมากมาย ถึงไม่ได้ลงเลือกตั้งครั้งหน้าก็มีตัวแทนของแต่ละคนลงอยู่ดี ฉะนั้นจึงไม่มีประโยชน์อะไร

            “หากถูกชี้มูลจริงจะเป็นการสร้างบรรทัดฐานต่อไปว่าสภาผู้แทนราษฎรจะเสนอกฎหมายต้องขออนุญาตจาก ป.ป.ช.หรือไม่ ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวจะไม่ทำให้อดีต ส.ส.ของพรรคคนอื่นๆ เป๋และปันใจให้กับพรรคที่กำลังจะเกิดขึ้นใหม่แน่นอน ยิ่งโดนเรื่องมากเท่าไหร่จะทำให้กลมเกลียวและลุกขึ้นต่อสู้มากเท่านั้น เชื่อใจได้เลย เพราะอย่างน้อยเป็นการโดนที่ไม่น่าโดน ซึ่งเป็นการกระทำที่น่ารังเกียจ ไม่มีใครทิ้งกันได้ ยันยืนว่ายังไม่มีใครปันใจไปพรรคอื่น แม้จะมีการทาบทามจริง” อดีตส.ส.อุบลราชธานีกล่าว

            ขณะที่นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตอนนี้เรายังไม่ทราบแน่นอนว่าอนุกรรมการ ป.ป.ช.จะมีมติเช่นนั้นหรือไม่ เป็นเพียงข่าวที่ออกมา แต่ทางพรรคได้เตรียมการต่อสู้คดีไว้ตั้งแต่มีการตั้งอนุกรรมการแล้ว โดยโต้แย้งคัดค้านว่า ป.ป.ช.ไม่มีอำนาจไต่สวน เพราะการเสนอกฎหมายเป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส. และสภาจะเป็นผู้พิจารณาเป็นการทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นว่าองค์กรอิสระก้าวก่ายฝ่ายนิติบัญญัติที่ทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ

            และเรื่องนี้หนึ่งใน 40 ส.ส.ไปฟ้องเป็นคดีแพ่งว่าละเมิด และขอให้ศาลระงับการไต่สวนของ ป.ป.ช. รวมทั้งเรียกค่าเสียหายต่อศาลจังหวัดนนทบุรีแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อมีข่าวออกมา ทีมกฎหมายของพรรคก็ได้หารือกัน หาก ป.ป.ช.มีมติชี้มูลอกมาก็ต้องต่อสู้กันต่อ และอาจมีการฟ้องร้องเป็นคดีต่างๆ กันต่อไป

"วัชระ"แฉแหลก

            ด้านนายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะอดีตคณะกรรมาธิการ(กมธ.) ร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม พ.ศ. .... กล่าวว่า เป็นเรื่องเก่าตั้งแต่สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่มีอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทยเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และมีการหักดิบกลางสภาผู้แทนราษฎรเพื่อผ่านกฎหมายตอนตีสี่ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับนายทักษิณ ชินวัตร กับพวก ซึ่ง ป.ป.ช.รับเรื่องร้องเรียน และมีมติตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน มีนางสุภา ปิยะจิตติ เป็นประธาน ดังนั้นเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับ คสช. ซึ่งต้องให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย 

            "ใครจะล้างบางกลั่นแกล้งอดีต ส.ส.เพื่อไทยง่ายๆไม่ได้เด็ดขาด แต่เป็นเพราะการออกกฎหมายดังกล่าวผิดข้อบังคับการประชุมสภาและขัดรัฐธรรมนูญ เป็นกฎแห่งกรรมที่ได้ทำไว้ยามเหิมเกริมมีอำนาจ ไม่เคารพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสภา"

            นายวัชระยังกล่าวว่า การไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับและรัฐธรรมนูญที่บัญญัติไว้ เชื่อฟังคำสั่งของนายทักษิณมากกว่ากฎหมายของบ้านเมือง ผลจึงเป็นเช่นนั้น มีการฉวยโอกาสปิดปากผู้แปรญัตติไม่ให้อภิปรายจำนวนนับร้อยคน รวบรัดเป็นเผด็จการ ไม่ฟังเสียงท้วงติง ขนาดนายชวน หลีกภัย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ยังถูกกลั่นแกล้งปิดปากไม่ให้อภิปรายในทุกมาตรา และเจตนาแฝงเร้นออกกฎหมายเพื่อเอื้อประโยชน์ให้นายใหญ่ให้พ้นผิด และได้เงิน 46,000 ล้านบาทคืนกรรมาธิการฝ่ายรัฐบาล มีนายวรชัย นายสุนัย จุลพงศธร นพ.เหวง โตจิราการ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ เป็นต้น โดยมีนายสามารถ แก้วมีชัย เป็นประธานกรรมาธิการ มีการแย่งกันเอาใจนายใหญ่ถึงขั้นอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทยต่อยกันในห้องกรรมาธิการ

            อีกทั้งนายสามารถทำหน้าที่ประธานขัดต่อข้อบังคับและรัฐธรรมนูญไม่ให้ ส.ส.ที่แปรญัตติไว้ได้อภิปรายเหมือนกับนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภาทำทุกประการ จึงต้องมีการร้องต่อ ป.ป.ช.ว่าอดีต ส.ส.เหล่านี้ประพฤติมิชอบ ขัดต่อกฎหมาย

คสช.ปรามเพื่อไทย

            นายวัชระกล่าวเพิ่มเติมว่า จะยื่นหนังสือถึง ป.ป.ช.ให้สอบสวนสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ทุกคนที่ลงมติเห็นชอบให้กรรมการ ป.ป.ช.อยู่ในตำแหน่งต่อไปได้ทั้งๆ ที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ 2560 อย่างชัดแจ้งเพราะเป็นการเอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้องและอดีต สนช.ที่ไปเป็นกรรมการ ป.ป.ช.อย่างชัดเจน เพื่อสร้างบรรทัดฐานมาตรฐานของหลักนิติรัฐนิติธรรมต่อไป สนช.ที่ดีมีหลักการมีคนดีมากมาย ควรกล้าพูดกล้าทำมากกว่านี้ อย่าทำตามใบสั่งของทหารบางคนแต่เพียงอย่างเดียว ส่วนนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. ก็ทำตามใบสั่งอย่างเดียว สุดแท้แต่เขาจะสั่งให้ไปทางไหน หาหลักการไม่ค่อยพบ ทำให้นักศึกษา ประชาชนสงสัยว่า สนช.ออกกฎหมายลูกขัดต่อกฎหมายแม่ได้อย่างไร ทั้งนี้ ตนจะทดลองส่งให้ ป.ป.ช.พิจารณาว่าปฏิบัติหน้าที่มิชอบหรือไม่ต่อไป

            พล.ต.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11 ในฐานะทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีที่เริ่มมีกลุ่ม ส.ส.หลายๆ พรรคออกมาเคลื่อนไหวแสดงความคิดเห็นทางการเมืองเพื่อเตรียมพร้อมเลือกตั้งแต่ละพื้นที่ มีการทาบทาม ซื้อตัว ดึงตัว วางผู้สมัครลงเขตเลือกตั้งว่า การแสดงความคิดเห็นหรือกิจกรรมของพรรคการเมืองในช่วงนี้เป็นไปตามที่ คสช.ได้ให้เเนวทางอย่างชัดเจน ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของโรดแมปในห้วงเวลาการเลือกตั้ง ซึ่งทุกภาคส่วน ทั้งคสช. สนช. และองค์กรที่เกี่ยวข้อง ต่างสนองตอบอย่างเต็มที่ จึงขอความร่วมมือสื่อและพรรคการเมือง รวมถึงทุกภาคส่วน ที่ต้องร่วมสร้างบรรยากาศที่เกื้อกูลต่อโรดแมปไปจนถึงวันเลือกตั้ง

             พล.ต.ปิยพงศ์กล่าวต่อว่า ขณะที่ภารกิจของ คสช.คือรักษาและสร้างสภาพแวดล้อม เพื่อสนับสนุนและเกื้อกูลต่อโรดแมป รวมถึงสนับสนุนการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล ไปจนถึงการส่งมอบความรับผิดชอบ ให้กับรัฐบาลใหม่ตามที่รัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 กำหนด


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"