11พ.ค.64- นายสุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ปลัด ศธ.) กล่าวว่า ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ขยับการเปิดภาคเรียนที่ 1/2564 เป็นวันที่ 1 มิถุนายนแล้ว ซึ่งจะส่งผลให้มีนักเรียนตั้งแต่ระดับปฐมวัยไปจนถึงมัธยมศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ที่เป็นโรงเรียนในระบบกว่า 8 ล้านคน ต้องเดินทางมาเรียนและเป็นกลุ่มก้อนขนาดใหญ่ และจากสถิติการสำรวจการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ที่มีการระบาดตั้งแต่ปี 2563 นั้น พบว่า นักเรียนมีการติดเชื้อโควิดจากผู้ปกครองและครู ดังนั้นศธ.จึงได้เสนอมาตรการให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับการฉีดวัคซีนเป็นกลุ่มแรก ต่อศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 20191 (ศบค.) ชุดเล็กพิจารณาแล้ว ซึ่ง ศบค.มีมติเห็นชอบให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาในระบบ จำนวน 600,000 คนได้รับการฉีดวัคซีนเป็นกลุ่มแรกก่อนเปิดภาคเรียนวันที่ 1 มิถุนายนนี้ โดยแบ่งการฉีดวัคซีนให้แก่ครูตามการจัดแบ่งโซนพื้นที่เสี่ยงที่ ศบค.กำหนด 
           
"ศธ. จะเร่งจัดทำรายชื่อส่งให้กรมควบคุมโรค ในฐานะคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ เพื่อนำเข้าระบบจัดลำดับการฉีดวัคซีนให้แก่ครูและบุคลากรทางการศึกษาต่อไป อย่างไรก็ตาม กรมควบคุมโรคได้ขอให้ ศธ.จัดทำรายชื่อครูและบุคลากรทางการศึกษาเป็นรายจังหวัด เพราะครูจะต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนที่จังหวัดนั้นๆ โดยขณะนี้เราได้ทำข้อมูลรายชื่อแยกเป็นโรงเรียนรายอำเภอแล้ว"ปลัด ศธ.กล่าว