‘ปู่ตู่’ชูปชต.ไทยนิยม  กล่อม‘เด็ก4.0’สร้างอนาคตยุทธศาสตร์20ปียึดมั่นชาติศาสน์กษัตริย์


เพิ่มเพื่อน    

วันเด็ก 4.0 ที่ทำเนียบรัฐบาลคึกคัก   "ปู่ตู่" ให้เด็กไทยต้องยึดมั่นในชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ต้องมีประชาธิปไตยแบบไทยนิยม เป็นประชาธิปไตยแบบไทยๆ จะขัดแย้งกันต่อไปไม่ได้อีก  เผยวันนี้รัฐบาลพยายามสรุปให้ได้ว่าอะไรคือรัฐธรรมนูญ อันไหนคือกฎหมายลูก รับปาก ลุงพยายามทำให้ดีที่สุด

            ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในพิธีเปิดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2561 ที่บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า โดยนายกฯ พร้อมคณะประกอบด้วย พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี, พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกฯ ได้ชมการแสดงจากนักเรียนโรงเรียนวัดนวลนรดิศ ซึ่งเป็นโรงเรียนเก่าของ พล.อ.ประยุทธ์

            จากนั้นได้เดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าเพื่อพบและถ่ายภาพกับเด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศ เด็กจากจังหวัดชายแดนใต้ และเด็กพิเศษหรือเด็กด้อยโอกาส  จำนวน 21 คน ที่ห้องทำงานนายกฯ และเปิดให้นั่งเก้าอี้นายกฯ เยี่ยมชมตึกไทยคู่ฟ้า

            เด็กคนแรกที่ได้นั่งเก้าอี้นายกฯ คือ ด.ญ.ฟาดิฬะ ลาตีฟี อายุ 6 ขวบ นักเรียนอนุบาล 1 โรงเรียนพึงรำลึก จ.นนทบุรี พร้อมกับ ด.ช.อะลา ลาตีฟี อายุ 12 ปี นักเรียนโรงเรียนท่าอิฐศึกษา จ.นนทบุรี โดย ด.ช.อะลา ลาตีฟี กล่าวว่า มีความสนใจด้านการเมือง อยากจะเป็นนายกฯ และให้กำลังใจนายกฯ ขอให้ลุงตู่สู้ๆ อยู่เป็นนายกฯ นานๆ และขอให้รักษาสุขภาพด้วย

            เสร็จแล้วนายกฯ กล่าวให้โอวาทกับเด็กและเยาวชน ที่ตึกสันติไมตรีว่า ปีนี้ถือว่าเป็นปีของความสงบเรียบร้อย ซึ่ง 2-3 ปีที่ผ่านมา บ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อยมากขึ้น ทั้งนี้เราจะต้องทำทุกอย่างเพื่อเด็กๆ โดยรัฐบาลได้มีแผนยุทธศาสตร์ 20 ปี เพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เพราะความรู้เป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาบุคคล เพื่อให้เข้ากับโลกสมัยใหม่ ดังนั้นทุกคนจะต้องร่วมมือกัน เพื่อให้เด็กไทยเดินไปสู่ประเทศไทย 4.0 โดยเราจะต้องใช้สติปัญญา ความรู้ที่มีอยู่มาดำเนินชีวิต ซึ่งการดำเนินชีวิตในทุกวันนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์

ประชาธิปไตยไทยนิยม

            พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เด็กและเยาวชนในวันนี้สามารถเลือกเรียนอะไรก็ได้ โดยผู้ปกครองมีหน้าที่สนับสนุนส่งเสริมในการเรียนการศึกษา ซึ่งผู้ปกครองจะต้องหาพรสวรรค์ของเด็กให้เจอ แต่ผู้ปกครองต้องไม่บังคับเด็กให้เลือกเรียนอย่างที่ตนต้องการ เพราะถ้าบังคับก็จะทำให้มีปัญหา เมื่อเข้าเรียนแล้วเด็กอาจจะเรียนไม่ไหว ดังนั้นต้องให้เด็กเลือกเรียนตามความชอบ ตามที่ตัวเองถนัด เพราะเราไม่ได้ต้องการให้ทุกคนทำอะไรเหมือนๆ กัน แต่เราควรจะสนับสนุนการเรียนเพื่อพัฒนาสังคม เพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศ

            “อยากให้หลานๆ ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีให้มากที่สุด และหลานๆ เองจะต้องรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ พร้อมกับออกกำลังกาย ขอบคุณทุกคนที่มาร่วมงานวันเด็ก และขอบคุณผู้ปกครองที่พาลูกหลานมาเปิดโลกทัศน์ให้กว้างไกลยิ่งขึ้น และเด็กไทยควรจะต้องน้อมนำพระราโชวาทของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ที่พระราชทานเนื่องในวันเด็กมาปรับใช้ เพื่อช่วยพัฒนาประเทศให้มีความเข้มแข็ง เราจะต้องเจริญเติบโตอย่างทัดเทียมกัน วันนี้เทคโนโลยีได้เข้ามาแล้ว เราจะต้องใช้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถ ลุงพยายามทำให้ดีที่สุด”

            พล.อ.ประยุทธ์ขอให้เด็กทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เพื่อเป็นความภาคภูมิใจของครอบครัว โดยเราจะต้องยึดมั่นในชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ดำรงความเป็นไทยให้มีอยู่ตลอดไป เราจะต้องมีประชาธิปไตยแบบไทยนิยม ซึ่งจะต้องเป็นประชาธิปไตยแบบไทยๆ โดยเราจะต้องพัฒนาในทุกอย่าง พร้อมกับปูพื้นฐานประชาธิปไตยของเราในอนาคตให้ได้ว่าจะทำอย่างไรให้เกิดความมั่นคง  สามารถบริหารจัดการประเทศชาติให้ดีได้

            “ประเทศเราจะขัดแย้งกันต่อไปไม่ได้อีก ดังนั้นเราจึงต้องมีประชาธิปไตยอยู่แล้ว แต่เป็นประชาธิปไตยแบบไทยนิยม เป็นประชาธิปไตยแบบไทยๆ โดยที่เราต้องไม่ผิดกติกาของคนอื่น แล้วในฐานะที่เราเป็นคนไทยด้วยกัน จะทำอย่างไรผมก็ได้แต่ฝากกับพวกเราทุกคน”  พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

            ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นนายกฯ ได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับเด็กและเยาวชนที่มาร่วมกิจกรรมงานวันเด็กที่ทำเนียบรัฐบาล พร้อมกับถ่ายภาพร่วมกับนักดนตรีวง KU Wind จากภาควิชาดนตรี คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดย พล.อ.ประยุทธ์ยังได้ร้องเพลงขอใจแลกเบอร์โทรอย่างสนุกสนาน

            นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ยังเป็นประธานพิธีเปิดงานวันเด็กที่กระทรวงศึกษาธิการด้วย โดยนายกฯ กล่าวกับเด็กๆ ตอนหนึ่งว่า สิ่งสำคัญที่อยากจะเรียนให้ทราบ ทุกคนยังไม่เข้าใจว่าทำไมรัฐบาลนี้ต้องกำหนดแนวยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพราะเรามองว่าอีก 20 ปีข้างหน้าจะมีคนเกิดแบบวันนี้ เพราะฉะนั้นวันนี้เราต้องคิด รัฐบาลนี้เข้ามาได้วางยุทธศาสตร์ตรงนี้แล้วเดินไป มีการปฏิรูปในทุกยุทธศาสตร์ กิจกรรมเหล่านี้จะทำให้สร้างคนที่ดีขึ้นมา 20 ปีข้างหน้า ไม่ใช่เวลาที่ยาวนานมาก หรือเร็วมาก อยู่ในขั้นตอนที่ต้องเตรียมการ

พยายามสรุปอยู่

            "ตอนนี้รัฐบาลใช้เวลามา 3 ปีแล้ว รัฐบาลนี้ต้องการให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วมในการเดินไปตามยุทธศาสตร์ที่กำหนดไว้ ไม่แน่อีก 20 ปีข้างหน้าประเทศไทยอาจเป็นประเทศที่มีรายได้สูง มีคุณภาพสูง และสามารถแข่งขันกับประเทศต่างๆ ได้ ทำให้ประเทศไทยมีศักยภาพต่อไปในเวทีโลกในอนาคต"

            นายกฯ กล่าวอีกว่า สิ่งสำคัญในยุทธศาสตร์ชาติคือความมั่นคง ศักยภาพในการแข่งขัน ความเสมอภาคและเท่าเทียมกันในสังคม โดยเฉพาะการพัฒนาศักยภาพของคน ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญ ก็ขอให้ทุกคนช่วยกัน ส่วนการคิดวิเคราะห์ ต้องมีหลักการและเหตุผล ไม่ใช่พูดหรือฟังอะไรก็เชื่อไปหมด เพราะหลายอย่างบิดเบือนและไม่ถูกต้อง ต้องแยกแยะให้ออก ดังนั้นเราต้องเตรียมการตรงนี้ ไม่เช่นนั้นก็ไม่รู้เท่าทัน แล้วในที่สุดจะตกเป็นเครื่องมือ และอาจจะผิดกฎหมายด้วย

            พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้ในส่วนของรัฐบาลเองก็พยายามสรุปให้ได้ว่าอะไรคือรัฐธรรมนูญ อันไหนคือกฎหมายลูก ซึ่งมันเกี่ยวข้องกันหมด ก็ฝากทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติและนครบาลดูด้วย ข้อมูลหลายอย่างมีการทำไว้ให้แล้ว ก็ขอให้ไปทำต่อ วันนี้ถือเป็นประวัติศาสตร์ที่ได้มาพบกัน ดีใจและขอให้โครงการนี้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และขอให้มีมาตรการในการวัดผลให้ได้ ว่าที่จบไปแล้วทำอะไรที่เกิดประโยชน์กับสังคม ให้เด็กเกิดความภาคภูมิใจ เขียนผลงานของเด็กมาว่าเรียนจบไปแล้ว อบรมไปแล้ว เอาไปทำอะไรบ้าง

            เขาบอกว่า เราต้องสื่อสารต่อยอดเหมือนอย่างที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ตรัสไว้แล้วว่า เด็กและเยาวชนคือพลังสำคัญของชาติในการพัฒนาสืบสานประเทศต่อไปในอนาคต และสิ่งสำคัญที่พระองค์ท่านทรงเน้นคือจิตอาสา เมื่อทุกคนได้มาร่วมโครงการนี้ ก็ถือว่าเป็นผู้มีจิตสาธารณะแล้ว และขอให้ทุกคนภูมิใจว่าพวกเรามีส่วนทำให้แผ่นดินนี้สูงขึ้น

            "ขอให้จำคำพูดผมไว้ด้วย เด็กๆ พวกนี้แหละ พวกเราอาจจะทำไม่ได้ทั้งหมด ต้องใช้เวลา แต่ถ้าเราใช้คนตั้งแต่อายุ 20 ปี ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีทุกเรื่อง ก็จะทำให้ประเทศก้าวสู่อนาคตได้อย่างยั่งยืน"

กลอนเร่งปฏิรูป

            ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เผยแพร่ ส.ค.ส. ของ พล.อ.ประยุทธ์  ที่จะส่งตอบกลับ ส.ค.ส.ของเด็กๆ ที่ส่งมาให้นายกฯ ผ่านทางไปรษณีย์ โดย ส.ค.ส.ดังกล่าว นายกฯ เขียนด้วยลายมือตัวเอง โดยมีข้อความว่า

             “มั่นคง, มั่งคั่ง, ยั่งยืน เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่  2561 และวันเด็กปี 2561 ขอขอบคุณเด็กๆ และเยาวชนทุกคน ที่ได้อวยพรปีใหม่กับนายกฯ และได้มาร่วมงานวันเด็กพร้อมผู้ปกครองในวันนี้ มีรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ด้วยบรรยากาศมิตรไมตรีต่อกัน แสดงให้เห็นถึงความสุขที่ทุกคนได้รับ

            ทั้งในระยะเวลาที่ผ่านมาปีก่อน และปีใหม่นี้ และตลอดไป นายกฯ และรัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง กับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งหมายถึงทั้งเด็ก เยาวชน ผู้ใหญ่ ซึ่งต้องมีการเรียนรู้ตลอดชีวิต ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จ แข็งแรง เป็นคนดีและคนเก่งของประเทศไทย เพื่อพัฒนาบ้านเมืองของเราให้เจริญก้าวหน้าต่อไปอย่างยั่งยืน ด้วยรักและห่วงใยเสมอ” 

            อย่างไรก็ตาม วันเดียวกันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ยังได้แต่งกลอนด้วยว่า

            “ถึงปีใหม่ ให้ไทย มีความหวัง เพิ่มพลังแรงใจ ให้สุขสม

            เปลี่ยนผ่านสู่ ประชาธิปไตย ไทยนิยม  ไม่หน้าชื่น อกตรม เช่นผ่านมา

            ถึงวันเด็ก เร่งสร้าง คนรุ่นใหม่ ไทยสร้างไทย สืบสาน การศึกษา

            เร่งปฏิรูป ผลงาน ต่อผ่านมา ให้ก้าวหน้า เท่าทัน การเปลี่ยนแปลง

            อีกวันครู ผู้ให้ กับเด็กเด็ก ตั้งแต่เล็ก จนโต ไม่หน่ายแหนง

            แม้ยังทุกข์ ยังทุ่มเท ไม่อ่อนแรง เพื่อเปลี่ยนแปลง สังคมไทย ให้ยั่งยืน

            สำหรับกิจกรรมวันเด็กในกองทัพต่างๆ ยังคงได้รับความสนใจจากเด็กๆ เป็นพิเศษ เหมือนเช่นทุกปี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองทัพยังคงนำยุทโธปกรณ์หลักทั้ง เครื่องบิน รถถัง รถเกราะ ปืนใหญ่ มาจัดแสดงในหน่วยทหาร โดยปีนี้มียุทโธปกรณ์ทันสมัยที่ได้มีการจัดซื้อในช่วง 3 ปีหลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติเข้ามาบริหารประเทศ และกำลังทยอยเข้าประจำการ นำมาแสดงเพิ่มเติมบางรายการ เช่น รถถังจีน VT-4 ของกองทัพบก เฮลิคอปเตอร์รุ่นใหม่ ที่นำเข้ามาประจำการทั้งกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศด้วย

กองทัพโชว์อาวุธ

            ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรถถังจีน VT-4 นั้น เป็นยุทโธปกรณ์ที่ได้มีการอนุมัติจัดหาในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เช่นเดียวกับเครื่องบินฝึกของกองทัพอากาศที่ได้มีการอนุมัติจัดซื้อเป็น 2 ระยะในช่วงปี 58 และ 60 ส่วนกองทัพเรือมีการอนุมัติจัดหาเรือดำน้ำจากประเทศจีน โดยจะมีระยะเวลาในการส่งมอบอีก 6 ปีข้างหน้า

            นอกจากนี้ ที่กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) สนามเป้า พล.อ.เฉลิมชัยเป็นประธานเปิดการจัดกิจกรรมงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2561 ภายใต้แนวคิด "กองทัพบก ปลูกจิตสำนึกเด็กไทย สร้างใจจิตอาสา สืบสานศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน" เพื่อมุ่งเน้นให้เด็กและเยาวชนได้รับความรู้ในเรื่องศาสตร์พระราชา ความรักสามัคคี เสียสละ และการมีจิตอาสาผ่านกิจกรรมหลายรูปแบบ ได้แก่ การแสดงนิทรรศการ การจัดแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์และอากาศยานที่เข้าประจำการใหม่ และที่มีการพัฒนาให้ทันสมัยควบคู่ไปกับการแสดงบนเวที โดยมีนายทหารระดับสูงของกองทัพบกมาร่วมอย่างพร้อมเพรียง ซึ่งบรรยากาศภายในงานเป็นไปด้วยความคึกคัก มีผู้ปกครองนำบุตรหลานมาร่วมงานเนืองแน่น

            ทั้งนี้ พล.อ.เฉลิมชัยกล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า การจัดกิจกรรมวันเด็กครั้งนี้ ต้องการให้เด็กๆ ได้รับความรู้สาระที่เป็นประโยชน์ มองเห็นโลกกว้าง และสร้างแรงบันดาลใจในการเข้ารับราชการทหาร รวมถึงอยากให้เป็นช่วงเวลาในการสานสัมพันธ์ของครอบครัว เพราะประเทศจะมั่นคงได้พื้นฐานต้องมาจากครอบครัวที่เข้มแข็ง ซึ่งมีปัจจัยสำคัญมาจากความรักและความผูกพัน

            "อยากฝากให้ผู้ปกครองรักลูกอย่างถูกต้อง หากเข้มงวดมากไปจะไม่ดี แต่ตามใจมากไปก็ไม่สมควร อย่างไรก็ตาม ทุกคนล้วนอยากมีความมั่นคงและมีเกียรติ ดังนั้นขอให้ปฏิบัติ 4 ข้อ คือ การศึกษา ความประพฤติดี การออกกำลังกายเพื่อให้มีจิตใจสาธารณะ และความกตัญญู เพราะคนกตัญญูจะได้ดีทุกคน" ผบ.ทบ.กล่าว

            ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับยุทโธปกรณ์ที่นำมาแสดงในงานเด็กครั้งนี้มีหลากหลายชนิด อาทิ เฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์ก เฮลิคอปเตอร์ลำเลียง MI 17 เฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไป EC145 ปืนใหญ่ รถถัง VT4  รถถัง Oplot ยานเกราะล้อยาง BTR-3E1 รถหุ้มเกราะล้อยาง Reva รถที่ใช้งานในสนามและงานช่าง

            ส่วนที่ฝูงบิน 601 กองบิน 1 ดอนเมือง พล.อ.อ.จอม  รุ่งสว่าง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เป็นประธานพิธีเปิดงานวันเด็กแห่งชาติกองทัพอากาศ  ประจำปี 2561 โดยมี น.อ.หญิงกรนันท์ รุ่งสว่าง นายกสมาคมแม่บ้านทหารอากาศ ร่วมสร้างความสุขให้แก่เด็กๆ ที่มาชมการแสดงการบิน และการตั้งแสดงยุทโธปกรณ์ และกิจกรรมอื่นๆ

เด็กอยากเที่ยวพร้อมหน้า

             มีกิจกรรมที่น่าสนใจ ประกอบด้วย การแสดงการบินของอากาศยานแบบต่างๆ ของกองทัพอากาศ ได้แก่ การบินผ่านพิธีเปิดของเครื่องบินขับไล่เอฟ-16, การบินปล่อยควันสีธงชาติของเครื่องบินโจมตีและธุรการ เอยู-23, การบินต่อสู้ในอากาศและการโจมตีทางอากาศของเครื่องบินขับไล่เอฟ-16, การบินค้นหาและช่วยชีวิตของเฮลิคอปเตอร์ EC-725, การบินแสดงสมรรถนะอากาศยานของเครื่องบินขับไล่แบบกริพเพน, การแสดงการบินหมู่ของเครื่องบินฝึก CT-4, การแสดงการบินหมู่ของเครื่องบินฝึก PC-9 ในส่วนกิจกรรมภาคพื้น มีการตั้งแสดงอากาศยานและอาวุธยุทโธปกรณ์ให้เด็กๆ ได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด

            เนื่องด้วยวันเสาร์ที่ 13 มกราคมนี้ ตรงกับวันเด็กแห่งชาติ กรุงเทพโพลล์ โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ได้สำรวจความคิดเห็นของเด็กๆ ในเรื่อง “10 เรื่องเด็กวอนขอผู้ใหญ่ใน ปีจอ” โดยเก็บข้อมูลจากเด็กที่มีอายุ 6-14 ปี ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 1,185 คน

            พบว่า เรื่องที่เด็กส่วนใหญ่ ร้อยละ 63.5 ต้องการวอนขอจากผู้ใหญ่ถ้าขอได้คือ ขอให้พ่อแม่ ผู้ปกครองมีเวลาพาไปเที่ยวพร้อมหน้าพร้อมตากัน รองลงมาร้อยละ 51.3 ขอให้เรียนเก่งๆ, ร้อยละ 49.2 ขอสมาร์ทโฟน/ไอแพด/แท็บเล็ต, ร้อยละ 44.5 ขอให้ผู้ใหญ่ในสังคมเลิกทะเลาะกัน และร้อยละ 35.9 ขอการบ้านน้อยๆ เรียนน้อยๆ

            สำหรับบรรยากาศงานวันเด็กในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น แม้เป็นพื้นที่ที่มีการก่อความไม่สงบอย่างต่อเนื่อง แต่คึกคักไปแพ้ส่วนอื่นๆ ของประเทศ  ที่บริเวณสนามช้างเผือกเทศบาลนครยะลา ซึ่งทางจังหวัดร่วมกับเทศบาลนครยะลา ได้จัดงานวันเด็กประจำปี 2561 ขึ้น โดยมีบรรดาผู้ปกครองทยอยนำบุตรหลานเดินทางมาร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก

            สำหรับไฮไลต์ภายในงานที่ขาดไม่ได้ทุกปี ก็คือการแสดงโรยตัวจากเฮลิคอปเตอร์ โดยศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ และหน่วยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 44 และการแสดงชุดสุนัขสงคราม จากกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 443 ทั้งนี้ ภายในงานยังได้รับความร่วมมือจากหน่วยเฉพาะกิจยะลา ตำรวจภูธรจังหวัดยะลา สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองยะลา ทหาร อปพร. และเทศกิจในการรักษาความปลอดภัยภายในงาน

            ที่สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา อ.เมืองฯ จ.นราธิวาส นายสุรพร พร้อมมูล ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานเปิดงานวันเด็กแห่งชาติ ซึ่งทางเทศบาลเมืองนราธิวาสได้จัดขึ้นเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่และวันเด็กแห่งชาติให้กับบรรดานักเรียนและผู้ปกครอง ทั้งในพื้นที่ อ.เมืองนราธิวาสและใกล้เคียงมาร่วมงานนับพันคน ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารเทศบาลเมืองนราธิวาส เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ผู้ปกครอง และนักเรียน ร่วมสนับสนุนของรางวัล อาหาร เครื่องดื่มมอบแก่นักเรียนเป็นจำนวนมาก


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"