11 พ.ค.64-  นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ  โพสต์ข้อควาผ่านเฟซบุ๊กว่า “เปิดเนตรกับสถานการณ์โควิดและการฉีดวัคซีนในฝรั่งเศส” จากคนไทยที่อยู่ในฝรั่งเศส

เพื่อนของผมถามเพื่อนที่อยู่อาศัยในฝรั่งเศส เกี่ยวกับสถานการณ์โควิดและการฉีดวัคซีนในฝรั่งเศสมาเปิดเนตรให้กับคนไทย

สรุปสาระสำคัญได้ว่า... 
............................................................................
• มีวัคซีน 2 ตัว
ประชาชนเลือกยี่ห้อได้ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมจากประวัติทางด้านสุขภาพของตนเอง
• ที่ฝรั่งเศสมีประชาชนฉีดวัคซีนไปประมาณครึ่งหนึ่ง
• มีคนไม่ยอมฉีดมั้ย?
มีคนฝรั่งเศสจำนวนหนึ่งไม่ยอมฉีดวัคซีน
• ถ้าติดโควิด ให้อยู่พักรักษาตัวที่บ้าน ยกเว้นอาการโคม่าถึงมีสิทธิ์เข้าโรงพยาบาล (ในขณะที่โรงพยาบาลในเมืองไทยรับคนไทยที่ติดโควิดเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล แต่ยังมีคนบอกว่าเมืองไทยไม่ดี อยากย้ายประเทศ)
• ยังมียอดผู้ติดเชื้อสูงทุกวัน 
ถึงแม้จะมีการฉีดวัคซีนแล้ว และมีกฎหมายให้สวมหน้ากาก เพราะ...
เพราะ 
1. คนยุโรป โดยเฉพาะคนฝรั่งเศส แอนตี้วัคซีน
2. ไม่เคารพมาตราการของรัฐบาล โดยยังคงทำกิจกรรมทั้งในและนอกสถานที่
3. ไม่เชื่อว่ามีโควิดระบาดจริง แต่เชื่อว่ารัฐบาลหลอกว่ามีโควิดระบาด (อันนี้คุ้นๆ มั้ยเหมือนพวกสามกีบในเมืองไทยที่เชื่อว่ารัฐบาลสร้างเรื่องโควิดเพื่อปิดกั้นไม่ให้พวกตนออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง)
............................................................................
สรุปสุดท้ายว่า...
ในฝรั่งเศสฉีดวัคซีนไปแล้วครึ่งหนึ่ง แต่ยังคงมีตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงทุกวัน
***ข้อมูลตรงนี้คงช่วยเปิดเนตรให้กับคนไทยจำนวนหนึ่งได้ว่า....
***ที่สร้างกระแสโจมตีว่ารัฐบาลไทยฉีดยาได้ช้า ทำใจโควิดระบาดไม่หยุด ไม่เป็นความจริงหรือจริงเพียงครึ่งเดียว
อย่าลืมว่า วัคซีนไม่ได้ช่วยป้องกันให้ไม่ติดโควิด แค่ช่วยลดความเสี่ยงในการติดโควิดและถ้าติดโควิดก็จะช่วยไม่ให้มีอาการถึงขั้นโคม่าหรือเสียชีวิต
การป้องกันตัวไม่ให้ติดโควิดที่ดีที่สุดคือ นอกจากฉีดวัคซีนแล้ว ยังคงต้องสวมหน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ และอยู่บ้าน
“ในสถานการณ์โควิดแบบนี้ เมืองไทยคือหนึ่งในสถานที่ที่ดีและปลอดภัยที่สุดในโลก”
............................................................................
ขอขอบคุณเพื่อนของผมที่ไม่ประสงค์จะออกนาม 
และเพื่อนที่อยู่อาศัยในฝรั่งเศส
อัษฎางค์ ยมนาค