นายกรัฐมนตรีมูห์ยิดดิน ยัสซิน ของมาเลเซีย ประกาศใช้มาตรการควบคุมการเดินทางทั่วประเทศอีกครั้งเมื่อวันจันทร์ ก่อนถึงวันฮารีรายอ อีดิ้ลฟิตรี เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศยังคงเพิ่มขึ้นไม่หยุด โดยเฉพาะจากไวรัสกลายพันธุ์จากแอฟริกาใต้และอินเดีย
ร้านขายอาหารในกรุงกัวลาลัมเปอร์ติดป้ายว่าบริการเฉพาะนำกลับบ้าน (Photo by Syaiful Redzuan/Anadolu Agency via Getty Images)
มาเลเซียกำลังเผชิญกับการระบาดระลอกที่ 3 แต่คราวนี้พบผู้ติดเชื้อไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์แอฟริกาใต้และอินเดีย ที่ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วราววันละ 4,000 ราย และก่อความวิตกเรื่องเตียงคนไข้และเครื่องช่วยหายใจเริ่มจะไม่เพียงพอ
คำแถลงของนายกฯ มูห์ยิดดิน ยัสซิน กล่าวว่า รัฐบาลตัดสินใจใช้มาตรการที่เข้มงวดขึ้นเพื่อควบคุมการแพร่เชื้อโควิด-19 ภายในประเทศ และป้องกันไม่ให้จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ข้อมูลและวิทยาศาสตร์แสดงให้เห็นว่า กิจกรรมที่มีการรวมตัวกัน ซึ่งทำให้การเว้นระยะห่างทางสังคมทำได้ยาก และการอยู่ในสถานที่แออัด เป็นสาเหตุใหญ่ของการแพร่เชื้อโควิด-19 ห่วงโซ่ของการติดเชื้อจะทำลายลงได้ด้วยการกระตุ้นให้ผู้คนอยู่บ้าน ผ่านการควบคุมการเดินทางอย่างเข้มงวด
ภายใต้คำสั่งควบคุมการเดินทาง (เอ็มซีโอ) ล่าสุด ห้ามการรวมตัวเชิงสังคมทุกรูปแบบ รวมถึงงานแต่งงานและงานเลี้ยง สถาบันการศึกษาทุกระดับต้องปิด ยกเว้นสถานรับเลี้ยงเด็กที่ได้รับอนุญาตให้เปิดได้ ร้านอาหารไม่ได้รับอนุญาตให้รับประทานที่ร้าน รถยนต์ 1 คันมีคนนั่งได้ไม่เกิน 3 คนรวมคนขับ ส่วนลูกจ้างถูกบังคับให้ปฏิบัติตามนโยบายทำงานจากบ้าน และสำนักงานจะมีคนทำงานภายในพร้อมกันได้ไม่เกิน 30%
การสวดอีดิ้ลฟิตรีในมัสยิดและสุเหร่าขนาดใหญ่ที่จุคนได้เกิน 1,000 คนนั้นจำกัดผู้เข้าร่วมได้ไม่เกิน 50 คน และลดเหลือ 20 คนในมัสยิดขนาดเล็กกว่านั้น
คำสั่งห้ามเดินทางข้ามอำเภอและข้ามรัฐ รวมถึงห้ามกิจกรรมเชิงสังคม, กีฬา และการศึกษา เริ่มมีผลทันทีตั้งแต่วันจันทร์ จนถึงวันที่ 6 มิถุนายน ส่วนคำสั่งห้ามอื่นๆ เริ่มมีผลตั้งแต่วันพุธที่ 12 พฤษภาคม หรือหนึ่งวันก่อนถึงวันตรุษฮารีรายอ ไปจนถึงวันที่ 7 มิถุนายน
อย่างไรก็ดี มูห์ยิดดินกล่าวว่า ภาคเศรษฐกิจทุกภาคได้รับอนุญาตให้ดำเนินกิจกรรมต่อไปได้ในช่วงเวลาดังกล่าว
ในวันจันทร์ มาเลเซียรายงานว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,807 คน ทำให้ยอดสะสมของประเทศเพิ่มเป็น 444,484 คน เสียชีวิต 1,700 คน
รัฐบาลมาเลเซียเคยใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจหยุดชะงัก ประเมินว่าสร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจวันละ 585 ล้านดอลลาร์ ต่อมารัฐบาลค่อยๆ ผ่อนคลายมาตรการและภาคเศรษฐกิจเกือบทั้งหมดได้รับอนุญาตให้เปิดกิจการ โดยมาตรการระดับท้องถิ่นจะออกมาบังคับใช้ในพื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมาก
เมื่อต้นปีนี้ ทุกรัฐยกเว้นซาราวัก อยู่ภายใต้มาตรการเอ็มซีโออีกครั้ง หลังจากมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นตัวเลข 4 หลักอย่างต่อเนื่องหลายวัน และสัปดาห์ที่ผ่านมา หลายตำบลและอำเภอทั่วมาเลเซียเริ่มกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์ที่เรียกกันว่า เอ็มซีโอ3.0
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |