โควิด-19 ยังแพร่ระบาดทั่ว ปท. "นนทบุรี" ติดเชื้อใหม่พุ่ง 138 ราย ร้านหมูสะเต๊ะเจ๊พันมากสุด 11 ราย "สมุทรสาคร" เด็กหญิง 8 เดือน และ 13 ปี ใกล้ชิดยายป่วยโควิดติดตามไปด้วย "ปากน้ำ" ยอดเกินร้อยอีกวัน "เชียงใหม่" วุ่น! ดอยสะเก็ดเจอคลัสเตอร์ใหม่หมู่บ้านโพธิ์ทองเจริญ "ปัตตานี" ให้ละหมาดฮารีรายอหรืออีดิลฟิตรีได้

    เมื่อวันที่ 9 พ.ค. ศูนย์ข้อมูลโควิด-19 จังหวัดนนทบุรี รายงานยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในพื้นที่พบ 138 ราย สาเหตุส่วนใหญ่มาจากการติดเชื้อภายในครอบครัวและตลาดสด โดยเป็นต่างชาติ 14 ราย (พม่า 11 ราย ลาว 3 ราย) อำเภอเมือง 49 ราย อำเภอปากเกร็ด 32 ราย อำเภอบางบัวทอง 29 ราย อำเภอบางใหญ่ 18 ราย อำเภอบางกรวย 2 ราย อำเภอไทรน้อย 2 ราย มีอาการ 64 ราย คิดเป็น 46.38% ไม่มีอาการ 74 ราย คิดเป็น 53.62% ความสัมพันธ์สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยัน 138 ราย
    ทั้งนี้ สำหรับกลุ่มผู้ป่วยยืนยันที่สำคัญคือ ร้านหมูสะเต๊ะ (เจ๊พัน) 11 ราย, เทศบาลนครนนทบุรี 8 ราย, สมบัติตลาดสด 3 ราย, ตลาดเทศบาลนครนนทบุรี 3 ราย, เอื้ออาทรวัดกู้ 3 ราย, คอนโดเมืองทอง 2 ราย, ร้านข้าวแกงสุโขทัยตลาดนกฮูก 2 ราย, เอื้ออาทรบางใหญ่ซิตี้ 2 ราย, จิตร์อพาร์ตเม้นต์ 2 ราย, เอื้ออาทรท่าอิฐ, เอื้ออาทรราชพฤกษ์, ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุบ้านคอยดูแล   
    จ.สมุทรสงคราม พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 4 คน ข้อมูลที่น่าสนใจคือ มีเด็กหญิงอายุเพียง 8 เดือน ชาวตำบลท้ายหาด อำเภอเมือง ติดเชื้อโควิด-19 และเป็นหลานของย่าที่เป็นผู้ติดเชื้อรายที่ 71 มีประวัติเดินทางไปมาหาสู่กันเป็นประจำ จากนั้นแม่ของเด็กได้พาไปตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้ากระทั่งพบว่าติดเชื้อ นอกจากนี้ยังมีผู้ติดเชื้อเป็นเด็กหญิง อายุ 13 ปี เป็นลูกสาวของผู้ติดเชื้อรายที่ 63 และมีประวัติเดินทางไปมาหาสู่กับย่า ซึ่งเป็นผู้ติดเชื้อรายที่ 71
    จ.สมุทรสาคร มีผู้ป่วยรายใหม่ 95 คน เป็นการติดเชื้อในจังหวัด 59 คน และรับผู้ป่วยนอกจังหวัดเข้ามารักษา 36 คน ส่งผลให้ผู้ป่วยยืนยันสะสมเพิ่มเป็น 18,743 คน รักษาหายแล้ว 17,971 คน และมีผู้เสียชีวิตสะสม 14 คน
    จ.สมุทรปราการ นพ.รณรงค์ ศรีม่วง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวถึงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจังหวัดสมุทรปราการพบผู้ติดเชื้อ จำนวน 108  ราย เป็นผู้ป่วยในพื้นที่ จำนวน 78 ราย อำเภอเมืองสมุทรปราการ จำนวน 38 ราย อำเภอพระประแดง จำนวน 10 ราย อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จำนวน 1 ราย อำเภอบางพลี จำนวน 21 ราย อำเภอบางบ่อ จำนวน 3 ราย อำเภอบางเสาธง จำนวน 5 ราย โรงพยาบาลเอกชนรับมารักษาต่อในสมุทรปราการ จำนวน 30 ราย เสียชีวิต 3 ราย
    ที่ จ.เชียงใหม่ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 25 ราย มีสาเหตุมาจากคลัสเตอร์เล็กๆ ใน 2 อำเภอ แต่ยังถือว่ายอดผู้ติดเชื้อมีจำนวนลดลงต่ำกว่า 50 คน มาเป็นเวลา 7 วันติดต่อกันแล้ว รวมยอดผู้ติดเชื้อสะสม 3,894 ราย รักษาหายแล้ว 3,132 ราย และยังคงมีผู้รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลทุกประเภท จำนวน 751 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม? 2 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 11 ราย สำหรับผู้ป่วยที่พักรักษาตัว มีอาการหนัก (สีแดง) คงที่ 20 ราย
    อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ สสอ.ดอยสะเก็ด, ศปก.อ.ดอยสะเก็ด, ผู้บริหารท้องถิ่น ทั้งเทศบาลตำบลเชิงดอยและเทศบาลตำบลดอยสะเก็ด, กำนัน, ผู้ใหญ่บ้านและ อสม.ในพื้นที่ ได้ประชุมร่วมกันเพื่อดำเนินการควบคุมการระบาดโควิด-19 กรณีพบผู้ติดเชื้อกลุ่มใหญ่ในหมู่บ้านโพธิ์ทองเจริญ?
    นายยอด คุณยศยิ่ง สาธารณสุขอำเภอดอยสะเก็ด กล่าวว่า คลัสเตอร์ในพื้นที่อำเภอดอยสะเก็ดมีการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ก็ยังไม่สามารถระบุข้อมูลได้ทั้งหมด จึงได้เข้ามาเพื่อหาข้อมูลในพื้นที่จริง และหาสาเหตุว่าเกิดจากอะไรและมีกลุ่มเสี่ยงมากน้อยขนาดไหน? ผลการดำเนินการพบเป็นการกินอาหารร่วมกันของคนในครอบครัว แต่เป็นครอบครัวใหญ่ในพื้นที่เดียวกันที่มีอยู่ 3 หลังคาเรือน นั่งกินข้าวร่วมกัน ในจำนวนนี้มีผู้ป่วยรายหนึ่งก่อนหน้านี้ได้เดินทางไปในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงสูง เมื่อกลับมาก็กักตัว แต่อาจจะพลาดไม่ได้เฝ้าระวังในบ้าน จึงได้นำกลุ่มผู้เสี่ยงทั้งหมดไปตรวจก็พบว่ามีผู้ติดเชื้อจำนวน 9 ราย ส่วนที่เหลือมีผลเป็นลบ
    จ.เชียงราย พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม 5 ราย รวมยอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 470 ราย ตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย. รักษาหายกลับบ้านสะสม 342 ราย อยู่ที่โรงพยาบาล 127 ราย
    จ.พระนครศรีอยุธยา นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าฯ พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่เพิ่มขึ้นอีก 20 คน โดยบางคนไปติดจากคนในครอบครัวหรือคนที่สนิท ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเชื้อโควิดในรายก่อนหน้านี้ อีกทั้งยังพบอีกว่าผู้ป่วยรายใหม่ 20 คนที่พบวันนี้มีคนชราอายุมากกว่า 60 ปี รวมอยู่ถึง 5 คน และมีเด็กอายุ 10 ขวบ 1 คน
    ขณะที่ จ.ชัยภูมิ นพ.วชิระ บถพิบูลย์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ และโฆษกคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดชัยภูมิ แจ้งพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ จ. ชัยภูมิ เพิ่มเป็นจำนวนมาก วันนี้รวมกว่า 31 ราย ส่งผลให้ปัจจุบัน จ.ชัยภูมิ มีผู้ป่วยโควิด-19 สะสมทั้งหมดรวมแล้ว 189 ราย เสียชีวิต 4 ราย โดยผู้ป่วยใหม่ 3 ราย อยู่ในพื้นที่ อ. ภักดีชุมพล ที่ยังมาจากกลุ่มคลัสเตอร์เสี่ยงเดิมจากการไปร่วมงานบวชในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ และพบในเขต อ.เมืองชัยภูมิ รวม 28 ราย ที่เป็นชุมชนแออัด มีประชาชนอาศัยอยู่หนาแน่นจำนวนมากนับหลายร้อยครอบครัว ซึ่งเป็นผู้ป่วยอยู่ในชุมชนกุดแคน เขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ ในวันนี้ทั้งหมด จากเดิมพบป่วย 3 ราย และวันนี้พบป่วยเพิ่มพุ่งสูงอีกรวมกว่า 28 ราย
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้ลงค้นหาบุคคลเสี่ยงป่วยเพิ่มในชุมชนกุดแคนต่อเนื่อง และสั่งให้ปิดชุมชนชั่วคราว ห้ามคนเข้า-ออกในชุมชน 24 ชม. และเตรียมตั้งโรงครัวเพื่อไว้ประกอบอาหารช่วยเหลือคนในชุมชนดังกล่าวระหว่างที่ต้องขอให้กักตัวเองอยู่ในบ้านดูอาการตัวเองในทุกหลังคาเรือนให้ครบ 14 วัน เพื่อรอผลตรวจยืนยันต่อไป
    จ.ชลบุรี พบผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 96 ราย เป็นผู้ป่วยยืนยันมีประวัติร่วมวงสังสรรค์ 2 ราย ผู้สัมผัสผู้ป่วยยืนยันจาก จ.สมุทรปราการ 3 ราย สัมผัสผู้ป่วยในครอบครัว 28 ราย ที่ทำงาน 11 ราย อาชีพเสี่ยงพบปะผู้คนจำนวนมาก 2 ราย ผู้สัมผัสผู้ป่วยยืนยันระหว่างสอบสวนโรค 24 ราย และอยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 26 ราย รวมทั้งเร่งค้นหาผู้สัมผัสเสี่ยงทั้งหมด จำนวน 180 ราย และค้นหาเชิงรุกอีกจำนวน 1,610 ราย
    จ.ระยอง พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 11 ราย มาจาก 2 อำเภอ คือ อ.เมือง 8 ราย และ อ.ปลวกแดง 3 ราย เชื่อมโยงกับผู้ติดเชื้อรายก่อนหน้านี้ บุคคลในครอบครัว และเพื่อนร่วมงาน
    จ.จันทบุรี พบติดเชื้อเพิ่ม 36 ราย จากการตรวจคัดกรองเชิงรุกในกลุ่มคลัสเตอร์ชาวแอฟริกัน 18 ราย และคัดกรองเชิงรุกกลุ่มชาวไทย 18 ราย แบ่งเป็นพื้นที่อำเภอเมือง 27 ราย, อ.ขลุง 3 ราย, อ.ท่าใหม่ 4 ราย, อ.เขาคิชฌกูฏ 2 ราย ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 442 ราย รักษาหาย 148 ราย
    จ.สงขลา พบผู้ป่วยโควิดรายใหม่ 15 ราย ตรวจสอบไทม์ไลน์มาจากสถานบันเทิง 3 ราย ผู้สัมผัสผู้ป่วย 9 ราย และเดินทางจากพื้นที่เสี่ยง 3 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย ผู้หญิงไทย อายุ 99 ปี ชาว อ.หาดใหญ่ ประวัติเป็นโรคเบาหวานและโรคหัวใจโต รวมผู้ป่วยสะสม 835 คน นอนรักษาตัวในโรงพยาบาล 334 คน รักษาหายกลับบ้านแล้ว 498 คน เสียชีวิตรวม 3 คน
    จ.ปัตตานี นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามปัตตานี ได้ร่วมประชุมกับคณะกรรมการเพื่อหาข้อยุติเกี่ยวกับการละหมาดวันฮารีรายออีดิลฟิตรีในวันศุกร์นี้ว่าละหมาดได้หรือไม่ เนืองจากละหมาดฮารีรายออีดิลฟิตรีนั้นมีเพียง 1 ปีครั้งเดียว จากการหารือนาน 2 ชม. ได้ข้อยุติว่า พื้นที่ปัตตานีสามารถละหมาดฮารีรายอหรืออีดิลฟิตรีได้ ส่วนพื้นที่เสี่ยงไม่สามารถละหมาดได้หรือรอประกาศอีกครั้งตามที่ทางจังหวัดได้ประกาศพื้นที่ที่มีการระบาดโรคโควิด-19.