เด็กพปชร.แฉบ่อนพ่นไวรัส ไทยไม่ทนสับน้ำมันกองทัพ!


เพิ่มเพื่อน    

 

ส.ส.กทม.พลังประชารัฐแฉเอง ประชาชนฟ้องเปิดบ่อนโจ๋งครึ่มกลางเมืองหลวงสองจุด ชุมชนวัดไผ่ตัน-พหลโยธิน 15 ทำโควิดระบาดหนัก "หมู่อาร์ม" โยนระเบิดใส่กลาโหม-กองทัพบก ลากไส้กลโกง เปิดเอกสารแฉน้ำมันระเหยหายใน ทบ.เดือนละ 1 ล้านบาท เวทีไทยไม่ทนปลุกไล่รัฐบาลทำที่บ้าน ตอน 2 ทุ่ม-บีบแตรใส่ขบวนรถ รมต.

    เมื่อวันที่ 9 พ.ค. น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขตพญาไท-ราชเวที-จตุจักร พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากประชาชนพื้นที่เขตพญาไท ว่ายังคงมีการเปิดบ่อนการพนันอยู่ 2 จุด คือ จุดที่ 1  ในชุมชนวัดไผ่ตัน และจุดที่ 2 บริเวณซอยพหลโยธิน 15 โดยชาวบ้านร้องเรียนว่าเจ้ามือบ่อนติดเชื้อโควิด-19 ทำให้แพร่กระจายมายังชุมชน และคนในชุมชนหลายคนที่อาจติดมาจากบ่อนก็ปกปิดไทม์ไลน์ไม่กล้าบอกความจริง ทำให้ไม่สามารถทราบได้เลยว่าตอนนี้ใครเป็นผู้ใกล้ชิดที่มีความเสี่ยงบ้าง ทำให้ไม่มีการกักตัวและยิ่งมีโอกาสเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อกระจายไปเรื่อยๆ   
    น.ส.ภาดาท์ระบุว่า คนในชุมชนไปตรวจคัดกรองแล้วประมาณกว่า 20 คน  และผลตรวจคือมียอดผู้ติดเชื้อกว่า 10 คน เบื้องต้นศูนย์ อสส.ได้ประสานรถตรวจโควิด-19 พระราชทานให้มาช่วยตรวจเพิ่มเร็วๆ นี้ แต่ชาวบ้านยังคงกังวลมากและขอร้องให้ตนเองเร่งดำเนินการประสานเจ้าหน้าที่มาปราบปรามทั้งบ่อนและตรวจคัดกรองโควิดอย่างเร่งด่วน
    ที่พรรคเพื่อไทย นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีข้อถกเถียงวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์ได้เข้ามายังประเทศไทยหรือยังว่า หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สได้ขึ้นแผนที่ประเทศที่ใช้วัคซีนซึ่งปรากฏแผนที่ไทยด้วย ต่อมามีการลบแผนที่ไทยออก ขณะเดียวกันมีข่าวเรื่องการนำวัคซีนมาฉีดให้เจ้าหน้าที่ในสถานทูตสหรัฐอเมริกา ซึ่งวัคซีนโควิดเป็นวัคซีนป้องกันโรคติดต่อ ต้องเป็นไปตามกฎหมายประเทศนั้นๆ กฎหมายไม่ได้กำหนดให้มีเอกสิทธิ์ทางการทูตคุ้มครอง การนำเข้าต้องแจ้งกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงการคลังให้ทราบ สิ่งที่ตนเองและพรรคเพื่อไทยต้องการคือ ต้องการให้มีการนำเข้าวัคซีนดีๆ เข้ามารักษาชีวิตคนไทยให้ได้มากที่สุด ไม่อยากเห็นตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นทุกวัน  
    “การเปิดเผยการนำเข้าวัคซีนของสถานทูตอเมริกาไม่ได้มีเจตนาให้ร้าย หรือเจตนาอื่นใด เพียงแต่เพราะอยากนำเสนอรัฐบาลและ พล.อ.ประยุทธ์ว่า ถ้าไม่รู้จะนำเข้าวัคซีนอย่างไรก็สามารถไปขอคำแนะนำจากสถานทูตอเมริกาได้” นายยุทธพงศ์ระบุ
    เมื่อถามว่า เอกสารที่ได้มามีการระบุหรือไม่ว่านำเข้ามาจำนวนกี่โดส นายยุทธพงศ์กล่าวว่า เอกสารมีการบอก LOT หรือปริมาณที่นำเข้า ซึ่งที่เราเอาเอกสารออกมาเปิดเผยไม่ใช่เพราะอยากจับผิด แต่เพราะวันนี้คนต่างอยากฉีดวัคซีน เรื่องสำคัญวันนี้คือ จะใช้ช่องทางไหนที่จะนำวัคซีนเข้ามาให้ได้มากที่สุด  ไม่อยากให้แบ่งแยกว่าเป็นคนรวยหรือคนจน ทุกคนมีความเสี่ยงหมด
    นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนที่ติดโควิด-19 ซึ่งรักษาหายแล้ว แต่เมื่อจะกลับไปทำงานนายจ้างกลับให้มารับใบลาออกแทน อ้างว่าพนักงานในบริษัทกลัวติดโควิด-19
    นายธันวา ไกรฤกษ์ โฆษกพรรคกล้า กล่าวถึงกรณีผู้ป่วยโควิดรอเตียงจนเสียชีวิตว่า ไม่ใช่รายแรก ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตหลังจากเข้ารับการรักษา ณ โรงพยาบาลของรัฐในพื้นที่เขตลาดกระบัง โดยตั้งแต่วันแรก รพ.แจ้งว่าไม่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านระบบทางเดินหายใจ จึงขอทำเรื่องส่งตัวไปยัง รพ.อื่น และพยายามโทรไปยัง รพ.ต่างๆ ในเขตกรุงเทพฯ หลายแห่ง แต่ไม่สำเร็จด้วยเหตุผลเพียงแค่ว่า นโยบายการรีเฟอร์นั้นจำกัดอยู่เฉพาะในเขตกรุงเทพฯ ด้วยกัน รวมถึงกรณีผู้ป่วยใหม่รอเตียงอยู่จังหวัดไหนก็ให้รอในจังหวัดนั้น กลายเป็นรอจนแพร่เชื้อสู่บุคคลในครอบครัวไปอีก
         บ่ายวันเดียวกัน ที่ห้องประชุมไทยไม่ทน สถานีพีซทีวี กลุ่มไทยไม่ทน  สามัคคีประชาชน เพื่อประเทศไทย จัดเสวนาออนไลน์ขับไล่รัฐบาลประยุทธ์ โดยมีแนวร่วมจากหลากหลายกลุ่มการเมืองและนักการเมืองร่วมอภิปรายอย่างคับคั่ง โดยส่วนใหญ่มุ่งเน้นโจมตีความล้มเหลวการบริหารประเทศของ พล.อ.ประยุทธ์ตลอดเวลากว่า 7 ปี และความไร้ประสิทธิภาพในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19
    นายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์บริหารบ้านเมืองล้มเหลวจากสถานการณ์โควิดระบาด เตียงไม่พอ ยาไม่มี วัคซีนไม่ได้ซื้อ ขาดทั้งรถรับ-ส่งคนป่วยและเครื่องมือขาดแคลน ต่อไปนี้เราเจอขบวนคณะรัฐมนตรีหรือคนในรัฐบาลท่านใด จะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลหรือผู้สนับสนุน ช่วยกันใช้มาตรการลงโทษทางสังคมอย่างสันติวิธี ช่วยกันบีบแตรไล่พวกเขา เปิดไฟแสดงสัญลักษณ์ จะเตะปี๊บ ตีหม้อที่บ้านทุกเวลา 2 ทุ่มย่อมทำได้หมด เริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ช่วยกันรณรงค์ปฏิเสธผู้สนับสนุนรัฐบาลทั้งหมดให้ถอนตัวออกมา โดยเฉพาะ 20 มหาเศรษฐีเมืองไทยถึงเวลาพวกท่านแสดงเจตจำนงแล้วว่าจะยืนอยู่ข้างรัฐบาล 3 ป. หรือยืนอยู่เคียงข้างคนไทยในสถานการณ์วิกฤติ
    ส.อ.ณรงค์ชัย อินทรกวี หรือ หมู่อาร์ม อดีตนายทหารที่เปิดโปงทุจริตกองทัพ อภิปรายตอนหนึ่งว่า ประเด็นที่อยากให้สังคมได้รับรู้ กรณีการระเหยหายของน้ำมันในกองทัพบกจากการสำรวจช่วงเดือน ก.ย.63 ที่หน่วยต่างๆ เสนอให้กรมพลาธิการทหารบกได้บันทึกเครดิตทดแทน ซึ่งมีชนิด จำนวน และขนาด พบว่า น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95-91 น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว และน้ำมันเครื่องบิน ภายใน 1 เดือน แต่ละหน่วยชี้แจงยอดออกมา เช่น แก๊สโซฮอล์ 95 หายไปทั้งสิ้น 7,192 ลิตร คิดเป็นเงินอย่างต่ำ 179,800 บาท แก๊สโซฮอล์ 91 หายไปทั้งสิ้น 18,510 ลิตร คิดเป็นเงินอย่างต่ำ 462,750 บาท น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว 22,853 ลิตร คิดเป็นเงินอย่างต่ำ 3 แสนบาท และน้ำมันเครื่องบิน 610 ลิตร คิดเป็นเงินอย่างต่ำ 18,300 บาท รวมแล้วประมาณเกือบ 1 ล้านบาท ภายใน 1 เดือน ถามว่าภาษีประชาชนหายไปได้อย่างไร หากกองทัพยังไม่มีมาตรการควบคุม ไม่มีแหล่งเก็บน้ำมันที่ป้องกันการระเหยหายได้ขนาดนี้ แนะนำว่าให้ไปเติมปั๊มเพื่อลดอัตราการสูญเสีย ใน 1 เดือนภาษีประชาชนต้องสูญเปล่าด้วยคำว่าระเหยหายของกองทัพบก มีมูลค่าถึง 1 ล้านบาท หากคิดเป็นปีประมาณกว่า 10 ล้านบาท  
    สอ.ณรงค์ชัยกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะ รมว.กลาโหม ไม่เคยทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องทุจริตในกองทัพ โดยได้เอกสารรายงานการเงิน ที่มีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งตรวจสอบพบว่า มีการเบิกเงินเป็นเท็จหรืออาจมีการเปลี่ยนแปลงรายการเกิดขึ้น ทำให้กองทัพเสียหาย จากนั้นทำหนังสือทักท้วงไปยังเจ้ากรมสรรพาวุธทหารบก และได้ส่งเรื่องไปให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. ซึ่ง สตง.ได้ทำบันทึกความเห็นระบุว่า จากการตรวจสอบการเบิกจ่ายเงินและเอกสารประกอบการบันทึกบัญชี เฉพาะรายการสั่งจ่ายเช็กในนามบุคคล ปีงบประมาณ 2562 และปี 2563 ตั้งแต่ 1 ต.ค.62 - 3 ม.ค.63 ของกรมสรรพาวุธทหารบก พบว่า มีเงินขาดบัญชีรวมจำนวนเงิน 16,740,957.86 บาท ประกอบด้วย บัญชีงบประมาณ 104 รายการ จำนวน 10,433,106.00 บาท มีการเบิกจ่ายเท็จ 99 รายการ จำนวน 10,145,322.00 บาท เบิกจ่ายโดยไม่ได้จ่ายให้ผู้มีสิทธิ์ 5 รายการ จำนวน 287,784.00 บาท ส่วนบัญชีเงินนอกงบประมาณ มีการโอนเงินจากบัญชีกรมสรรพาวุธทหารบก (เงินบำรุง) ซึ่งเป็นบัญชีเงินนอกงบประมาณประเภทที่ 1 ไปเข้าบัญชีกรมสรรพาวุธทหารบก 3 รายการ จำนวน 5,896,711.86 บาท โดยไม่มีเอกสารหลักฐานประกอบการโอนเงิน โอนเพื่อวัตถุประสงค์ใด และมีการเบิกจ่ายเท็จ 4 รายการ จำนวน 411,140.00 บาท
    “กองทัพที่อ้างว่าจงรักภักดีต่อสถาบัน แต่สิ่งที่ทำคือ หาประโยชน์ใส่ตัวเองและพวกพ้อง จากคนผิดเป็นถูก ด้วยคิดว่าอำนาจกองทัพล้นฟ้า ทรงพลัง ยิ่งใหญ่ แต่สิ่งเหล่านี้คือการทำลายสถาบันทางอ้อม ไม่แปลกใจที่มีเหตุการณ์จ่าคลั่งกราดยิงที่โคราช”.

 

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"