9 พ.ค. 2564 เวลา16.15น. นายณัทพัช อัคฮาด แกนนำกลุ่มพลเมืองโต้กลับ กล่าวว่า ประเด็นที่ลูกหลานนับล้านคน ออกมารณรงค์ อยากย้ายประเทศ กรณีนี้เคยเกิดมาแล้ว สมัยประเทศอิหร่านปฏิวัติ ประชาชนคนหนุ่มสาวทนไม่ได้ ทยอยย้ายประเทศ ต่อมาเกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจ ในส่วนของประเทศไทย ถ้าเรารวมพลัง ไล่คนไม่กี่คนให้ออกไป ให้ประเทศนี้ ลูกหลานอยู่ร่วมกันพัฒนาประเทศ ไล่ประยุทธ์ ไล่รัฐบาลแค่ไม่กี่คน ประเทศนี้ก็จะเป็นของเขา ยังมีโอกาสแก้ตัว มาร่วมทางกันได้ ไม่นานแผ่นดินนี้จะเป็นของลูกหลาน เป็นของประชาชนทุกคน 

เวลา16.30น.นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานกรรมการญาติวีรชนพฤษภา2535 กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ลงจากอำนาจเสียเถิด อย่าให้ประชาชนต้องไล่เลย เรื่องวัคซีนป้องกันโควิด ที่จะเข้ามาในประเทศ เดือนมิ.ย. กว่าจะถึงเวลานั้น ประชาชนต้องรอ แล้วยังต้องถูกกล่าวหาอีก การแพร่ระบาดเกิดจากประชาชนการ์ดตก ถือเป็นความเจ็บปวด ทั้งที่เกิดจากการบริหารผิดพลาดการจัดการวัคซีนของรัฐบาล ปัญหาตอนนี้ คือ ประชาชนไม่มีวัคซีนจะฉีด ทำให้ประชาชนรอความตาย ประยุทธ์ ต้องทำได้ดีกว่านี้ ไม่ใช่ออกมาประกาศจะซื้อวัคซีน 100-200ล้านโดส ทั้งที่เครดิตทางการทูต ไม่เหลือแล้ว พูดอะไรไป ไม่มีคนเชื่อ แต่ต้องปฏิบัติจริง ไม่ใช่เอาแค่พล่าม อย่าทำร้ายประชาชนต่อไป ควรมองไปถึงประชาชนที่กำลังลำบาก ควรนำเงินมาซื้อวัคซีนโดยด่วน แล้วฉีดให้ประชาชน ด้วยมาตรการที่ทำตอนนี้ ไม่อาจควบคุมการระบาดโควิดได้แน่นอน ความตายจะเกิดทุกวัน ขอให้ประชาชนร่วมกันฟ้องพล.อ.ประยุทธ์ ที่ทำให้เกิดการเสียโอกาส ทั้งที่เกิดกับประชาชน ความเสียโอกาสทางธุรกิจ พล.อ.ประยุทธ์ บริหารบกพร่อง ปล่อยให้การแพร่เชื้อระบาด ล้วนเกิดจากคนในรัฐบาล ปัญหาที่เกิดมาจากบ่อน ส่วยแรงงานข้ามชาติ เคยเตือนแล้วระวังจะเกิดระบาดรอบที่สาม สุดท้ายก็ยังปล่อยให้ระบาดครั้งที่สาม ไม่มีทางเลือก ที่จะประชาชนจะกล่าวหา ฟ้องเรียกค่าเสียหาย ชดเชยค่าเสียโอกาสของเขา ตนจะไม่ตายก่อน ประยุทธ์จะออกไป ขอพระยายมราชให้ผมอยู่ ทำภารกิจนี้ ไล่ประยุทธ์ออกไป พอออกไปแล้ว ผมก็ยินดี