8 พ.ค.64 - ที่สถานี Peace TV คณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย จัดเวทีอภิปรายออนไลน์ ไทยไม่ทน หัวข้อ "ปัญหาสังคมเศรษฐกิจการเมือง กับอนาคตประเทศไทย ในวันที่ไม่มีพล.อ.ประยุทธ์" นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ไอลอว์) กล่าวว่า ถ้าไม่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะ เราจะได้เรื่องดีๆ 5 ข้อ ได้แก่ 1.จะได้ผู้บริหารประเทศทุกตำแหน่งจากการเลือกตั้ง ทราบหรือไม่ว่ารัฐบาลพล.ประยุทธ์ชุดแรกหลังการเลือกตั้ง รัฐมนตรีมีจำนวน 36 คน แต่ 16 คนไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง โดยเฉพาะพรรคพลังประชารัฐส่งคนมาเป็นรัฐมนตรี ไม่ได้เป็นอะไรในพรรค ไม่เคยพบปะประชาชน แต่ลอยมานั่งเป็นรัฐมนตรี ได้แก่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นายวิษณุ เครืองงาม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา นายดอน ปรมัตย์วินัย พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล ถามว่าพวกเขาเหล่านี้เป็นรัฐมนตรีได้อย่างไร 

2. จะได้สภาที่มีความหลากหาย ตรวจสอบรัฐบาล และมีความอิสระในการเลือกและเปลี่ยนข้างได้  3.จะได้เห็นการถกเถียงในรัฐสภา เพราะปัจจุบันบางเรื่องที่ต้องเสนอต่อพล.อ.ประยุทธ์ ก่อนเข้าสภา พล.อ.ประยุทธ์ใช้อำนาจเบ็ดเสร็จไม่เห็นชอบให้เข้าสู่กระบวนการของรัฐสภา เช่น บำนาญประชาชน การเกณฑ์ทหาร เป็นต้น 4. จะได้กลไกที่สามารถตรวจสอบรัฐบาลได้ ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลนี้เลือกบุคคลในองค์กรอิสระที่มีหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลเองหมด และ 5. จะได้เห็นประชาชนสามารถวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลได้

นายยิ่งชีพ กล่าวตอนท้ายว่า พรรคพลังประชารัฐเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้ระบบการเลือกตั้งเป็นแบบ 2 ใบ ให้มีส.ส.เขต 400 คน และส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน สาเหตุที่เสนอเช่นนั้นเพราะพรรคพลังประชารัฐเห็นว่าการเลือกตั้งรอบล่าสุดที่ผ่านมาพรรคสีส้มได้ส.ส.บัญชีรายชื่อจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ผลการเลือกตั้งปี 62 คนที่เลือกพรรคที่ประกาศจะไม่เอาพล.อ.ประยุทธ์ มี 16 ล้านกว่าคน ส่วนคนที่เลือกพรรคที่ประกาศสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ มี 8 ล้านกว่าคน อัตราส่วนคือ 2 ต่อ 1 ฉะนั้น ในการเลือกตั้งครั้งหน้า สิ่งที่คน 16 ล้านคนจะต้องทำ คือจับมือกับคนที่ไม่เอาพล.ประยุทธ์ แล้วกล่อมคนที่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ให้ได้ แล้วลองดูว่าพวกเขาจะใช้กลไก หรือระบบแบบไหนโกง เพื่อให้ตัวเองเข้าสู่อำนาจอีก