ดูท่า พ.ต.อ.ชัชรินทร์ญาณกร เฮงสุวรรณ์ ผกก.สภ.พระประแดง จะงานเข้าเต็มๆ หลังจากโดน พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ สั่งเด้งเข้ากรุไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ โดยขาดจากตำแหน่งเดิม จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง โดยผู้การสมุทรปราการอธิบายเหตุผลไว้ในคำสั่ง..."มีเหตุอันควรสงสัยว่า กรณี พ.ต.อ.ชัชรินทร์ญาณกร บกพร่องต่อหน้าที่ ปล่อยให้มีการเล่นการพนันเอาทรัพย์สินกันใน พีเอส สนุกเกอร์ ในพื้นที่ หมู่ 3 ต.บางยอ  อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ จนมีผู้ติดเชื้อโควิด-19  และปล่อยปละละเลยปล่อยให้ร้านอาหารของนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางกะเจ้า เปิดให้บริการลูกค้า และนักดนตรีติดโควิด-19 โดยไม่ทำการจับกุม เนื่องจากเป็นพรรคพวกกัน และไม่ดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาที่ติดโควิด-19 เหตุเกิดในพื้นที่รับผิดชอบของ สภ.พระประแดง ที่ติดเชื้อโควิดขณะปฏิบัติหน้าที่" หากพฤติการณ์เป็นจริงตามข้อสงสัย งานนี้มีหนาว เพราะก่อนหน้านี้ ผบ.ปั๊ด-พล.ต.อ.สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข แม่ทัพใหญ่สีกากี เน้นย้ำให้ผู้บังคับบัญชาในสังกัดตั้งแต่ ระดับหัวหน้าสถานี ผู้กำกับการ ผู้บังคับการ  ต้องลงไปดูตำรวจในสายงานของตัวเอง ทั้งเรื่องความพร้อมในการทำงาน ให้ความรู้ในการป้องกันโควิด-19 โดยเฉพาะถ้ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจในหน่วยติดเชื้อต้องลงไปช่วยเหลือดูแล ประสานแพทย์ รพ.ตร.เร่งรักษาตำรวจให้ปลอดภัย "ไม่ใช่ปล่อยให้ลูกน้องทำงานตามมีตามเกิด เวลาติดเชื้อเจ็บป่วยไม่สนใจ" นี่เข้ากฎเหล็กชัดๆ แบบนี้ ถ้าไม่หนาวสะท้านก็ต้องบอก กินดีหมีหัวใจเสือ มาแน่นอน ๐

            หากทุกอย่างเป็นไปตามกำหนดเดิมวันที่ 13 พ.ค.นี้  การทดลองใช้เครื่องแบบตำรวจสายตรวจงานป้องกันปราบปรามแบบใหม่ ที่ทดลองใน 3 โรงพักนำร่อง ทั้ง สน.จักรวรรดิ, สน.บางยี่ขัน และ สน.บุคคโล ที่มีกำหนด 10  วันจะได้รู้ชุดเครื่องแบบตำรวจสายตรวจ โดยใช้หมวกแก๊ปแทนหมวกหม้อตาล เสื้อด้านบนผ้าสีชุดตำรวจและผ้าแบบเดิม ด้านล่างเป็นผ้าแบบระบายอากาศเหมือนเสื้อกีฬา  เวลาใส่เสื้อกันกระสุนแล้วจะไม่ร้อน ใส่สบาย ซักแล้วแห้งง่าย เครื่องหมายใช้ผ้าไม่ใช้โลหะ กางเกงนิติคอลเอวเป็นยางยืดลุกนั่งได้คล่องตัว ไม่ทำให้กางเกงเป้าขาด และมีกระเป๋าใส่อุปกรณ์หลายด้าน รองเท้าแบบวิ่งสะดวกคล่องตัวและไม่เจ็บเท้า จะได้ใช้จริงหรือไม่ เพราะเป็นระยะเวลาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติออกสำรวจความคิดเห็นจากตำรวจและประชาชน ก่อนคณะทำงานที่มี บิ๊กนู-พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร. เป็นประธานคณะทำงาน และ  บิ๊กรอย-พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. รองประธานคณะทำงาน จะเคาะผลสรุปเสนอ ผบ.ปั๊ด อีกครั้ง ๐

            จะว่าไปหากเครื่องแบบตำรวจสายตรวจงานป้องกันปราบปรามแบบใหม่ ที่ทดลองนำมาใช้ใน 3 โรงพักนำร่องครั้งนี้ ได้รับการยอมรับและนำมาปรับใช้กับตำรวจสายตรวจทุกหน่วยงานจริงๆ หน้าประวัติศาสตร์ "กรมปทุมวัน"  ก็คงต้องจารึกชื่อ ผบ.ปั๊ด-พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่าเป็นเจ้าของไอเดียต้องการให้ตำรวจสายตรวจงานป้องกันปราบปรามมีเครื่องแบบที่ทันสมัย กระชับ เหมาะสมกับภารกิจ ซึ่งตามข้อมูลที่ บิ๊กนู-พล.ต.อ.มนู บอกหากมีการเปลี่ยนแปลงเครื่องแบบสายตรวจครั้งนี้ ก็ไม่ได้กระทบงบประมาณใดๆ เพราะสำนักงานตำรวจแห่งชาติทุกปีจะมีการแจกจ่ายเครื่องแบบให้ตำรวจอยู่แล้ว ฉะนั้นหากเครื่องแบบนี้เหมาะสม สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็จะดำเนินการให้ตำรวจทุกนาย ซึ่งตามข้อมูลที่ พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม รอง ผบช.น. หนึ่งในคณะทำงานครั้งนี้ระบุไว้ ราคาค่าเครื่องแบบใหม่ตกชุดละประมาณ 2,000 บาท ๐

            ไม่รู้ว่าคำสั่ง พล.ต.ต.มาโนช มีสกุลคุณ ผบก.ภ.จว.แพร่ ที่ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบเป็นการเร่งด่วน กรณีโลกโซเชียลแชร์ภาพชาวบ้าน ต.ร่องฟอง อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ รวมตัวกันหน้าบ้านที่อ้างว่าเป็นของเจ้ามือหวยรายใหญ่ บริเวณคันคลองชลประทาน ต.ร่องฟอง  อ.เมืองแพร่ เพื่อประท้วงหลังชาวบ้านบ้านร่องฟองและในพื้นที่ใกล้เคียงในจังหวัดแพร่ถูกหวยใต้ดินกันทั้งหมู่บ้าน  งวดวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา แต่กลับไม่ได้รับเงิน บางรายได้แค่ครึ่งเดียวนั้น ผู้การมาโนชสั่งให้ตรวจประเด็นใดบ้าง แต่สิ่งที่เห็นและปรากฎชัด หากเป็นไปตามที่แชร์ภาพบ้านเจ้ามือหวยรายใหญ่ ที่ตั้งอยู่ในตำบลร่องฟอง อำเภอเมืองแพร่  จังหวัดแพร่ ตำรวจเจ้าของพื้นที่รู้หรือไม่ว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นเจ้ามือหวยใต้ดินรายใหญ่ ที่เปิดรับแทงกันจนถึงงวดวันที่ 2 พ.ค. หากรู้เหตุใดไม่จับกุม แบบนี้เข้าข่ายบกพร่องหรือไม่ หรือมีการยักคิ้วหลิ่วตา หากไม่รู้นั่นยิ่งบกพร่องมากขึ้น เพราะชาวบ้านรู้กันทั้งหมู่บ้านแต่ตำรวจไม่รู้ แค่หาปี๊บมาคลุมหัวคงไม่พอ...จริงหรือเปล่าท่านผู้การแพร่

ปฏิเสธได้ยากว่าภาพจำการระบาดของโควิด-19 ระลอกแรกและระลอกที่สอง กองทัพยังเป็น จำเลย ในกรณีของ คลัสเตอร์สนามมวย ตามมาด้วย คลัสเตอร์สมุทรสาคร ที่แรงงานต่างด้าวนำเข้ามาทางชายแดน จนนำไปสู่การที่กองทัพต้องเพิ่มเติมกองกำลัง เข้มงวดการซีลชายแดนด้านตะวันตก ในช่วงระลอกที่สามสิ่งที่กังวลกันมากคือ การแพร่ระบาดเข้ามาของเชื้อโควิดสายพันธุ์แอฟริกา ที่มาจากบุคคลที่เดินทางข้ามพรมแดนทั้งที่ถูกและผิดกฎหมาย และที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญชี้เป้าให้เฝ้าระวังเป็นพิเศษน่าจะเป็นชายแดนไทย-มาเลเซีย เนื่องจากมีการตรวจพบผู้ป่วยในประเทศมาเลเซียติดเชื้อสายพันธุ์แอฟริกาแล้ว ทำให้ บิ๊กเกรียง-พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์  แม่ทัพภาคที่ 4 ต้องสั่งการให้กองกำลังตามแนวชายแดน  Alert ติดตามการหลบหนีเข้าเมืองที่เล็ดลอดเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติอย่างเข้มข้น

ส่วนการปฏิบัติของ กองกำลังเทพสตรี ซึ่งดูแลพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย ด้าน จ.สงขลาและสตูล ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเข้มข้นเป็นพิเศษในช่วงสิ้นสุดเทศกาลถือศีลอด โดย พ.อ.อายุพันธ์ กรรณสูต ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5 สั่งการให้กองร้อยทหารราบที่ 5021  พร้อมกำลังตำรวจตระเวนชายแดน 437 ฝ่ายปกครองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ร่วมประชุมกัน เพื่อวางแนวทางป้องกันการลักลอบเดินทางเข้ามาบริเวณแนวรั้วชายแดนและช่องทางธรรมชาติ ทั้งแรงงานไทยและแรงงานต่างด้าวที่อยู่ในประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะนำเชื้อโควิดสายพันธุ์อินเดียและแอฟริกาเข้ามา ตลอดจนชี้แจงแผนมาตรการเฝ้าตรวจในช่วงก่อนวันฮารีรายอที่ใกล้จะถึง โดยจะมีการเปิดแผนยุทธการเพื่อเฝ้าระวังแนวชายแดนตลอด 24 ชม.ทั้งทางน้ำและทะเล ส่วนจะซีลได้แบบร้อยเปอร์เซ็นต์หรือไม่.....ต้องรอลุ้น ๐

เป็นแนวทางตามมาตรการเดิมที่ปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่แล้ว ลากยาวมาถึงปีนี้ยังไม่พบผู้ติดเชื้อพื้นที่ด้านในที่ได้รับเชื้อจากประเทศมาเลเซีย ยังห่วงใยและสั่งการดูแลพื้นที่ชายแดนอย่างเข้มงวด ในการระบาดระลอกแรกปีที่แล้วมีผู้เดินทางเข้ามาประมาณ 2.8 หมื่นคน  เข้าเมืองถูกกฎหมาย 2.8 หมื่นคน และลักลอบเข้ามาทางเส้นทางธรรมชาติกว่า 4 พันคน ในช่วงที่ประเทศมาเลเซียขีดเส้นตายให้คนที่เข้าเมืองผิดกฎหมายออกนอกประเทศ  ก็พบว่ามีคนเดินทางกลับไทยประมาณ 400-500 คน ในจำนวนนี้เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายไม่ถึง 100 คน แต่ทั้งหมดจะเข้าสู่การคัดกรองตามมาตรการอย่างเข้มข้น หากเล็ดลอดเข้าไปในหมู่บ้านก็จะมีกองกำลังภาคประชาชน เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม.คอยสอดส่องดูแลอีกชั้นหนึ่ง  ว่ามีใครที่แปลกหน้า ไม่ใช่คนในหมู่บ้าน ก็จะถูกนำเข้าสู่พื้นที่กักตัวของรัฐต่อไป แต่ถึงอย่างไรก็ตาม พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ก็ห่วงใยและได้สั่งการไม่ให้กองทัพภาคที่ 4 การ์ดตก ๐

นอกจากช่วยจัดตั้ง รพ.สนามเพื่อสนับสนุน สธ.ในเรื่องต่างๆ แล้ว กองทัพบกก็จัด หน้ากากอนามัยเดลิเวอรี ให้หน่วยใน กทม.และปริมณฑลลงพื้นที่ชุมชนแจกทุกบ้าน บ้านละ 1 กล่อง และหลังประชุม นขต.ทบ.ที่ผ่านมา  พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก ยังแจ้งรายละเอียดการช่วยเหลือจัดหาวัดให้ผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ได้แก่ วัดอาวุธวิกสิตาราม เขตบางพลัด, วัดโสมมนัสราชวรวิหาร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย, วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต เขตบางเขน รวมถึงการช่วยเคลื่อนย้ายศพจากโรงพยาบาลไปยังวัดเพื่อประกอบพิธีทางศาสนา ได้สั่งการให้ กรมสวัสดิการทหารบก ซึ่งเป็นหน่วยรับผิดชอบศาสนสถานของกองทัพบกและหน่วยทหารทั่วประเทศ  พิจารณาอำนวยความสะดวกในการจัดยานพาหนะช่วยเคลื่อนย้ายศพไปยังวัด ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อตามนโยบายสาธารณสุข โดยขั้นตอนทั้งหมดเป็นการฌาปนกิจแบบไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อลดภาระของครอบครัวผู้ติดเชื้อ สามารถประสานขอรับการสนับสนุน ผ่านศูนย์ประสานงานต้านโควิด-19 ทบ.ได้ที่ โทร.0-2270-5685-9 ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป.