ล่า2เจ้าคุณ5แก๊งเงินทอนคุกยาว


เพิ่มเพื่อน    

  "จักรทิพย์" เรียกถกด่วน ผบช.ทุกหน่วยทั่วประเทศ ขีดเส้น 7 วันจับ "พระพรหมสิทธิ-พระพรหมเมธี" เลขาฯ ป.ป.ช.เตรียมชงคดีเงินทอนวัดเข้าที่ประชุมพุธนี้เพื่อรายงานความคืบหน้า ด้าน ปปป.สอบล็อต 4  พบเชื่อมโยงผู้ต้องหาชุดเดิม ศาลอุทธรณ์ยกคำร้องขอประกันตัว 5 อดีตพระแก๊งเงินทอนวัด นอนคุกยาวไป 

     ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันที่ 28 พฤษภาคม   พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เรียกประชุมด่วนผู้บัญชาการทุกหน่วยปฏิบัติทั่วประเทศ ประกอบด้วย ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล, ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9, ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง, ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล หลังจากช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เรียกประชุมด่วน ผบ.ตร.และ ผบ.เหล่าทัพ จนทำให้ ผบ.ตร.ต้องเลื่อนการประชุม ก.ตร.ออกไปจากเวลา 10.30 น. เป็น 13.30 น.
    การเรียกประชุมด่วนครั้งนี้ เกิดขึ้นภายหลังเข้าพบนายกรัฐมนตรี โดยมีรายงานว่า ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ทุกหน่วยไปสืบสวนติดตามจับกุมพระพรหมสิทธิ เจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ และพระพรหมเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศารามฯ ผู้ต้องหาคดีเงินทอนวัดที่ยังหลบหนีให้ได้โดยเร็ว ขีดเส้นตายล่าตัวให้ได้ภายใน 7 วัน โดยต้องรายงานความคืบหน้าทุกวัน พร้อมแจกหมายจับพระทั้ง 2 รูปแก่ผู้เข้าร่วมประชุมด้วย 
    ด้าน พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีทุจริตเงินทอนวัดล็อต 3 ที่ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่าจะบรรจุเป็นวาระเร่งด่วนในการประชุม ป.ป.ช.สัปดาห์นี้ หลังจากมีการจับกุมพระชั้นผู้ใหญ่บางรูปไปแล้วว่า ยังไม่มีในวาระ เนื่องจากสำนักไต่สวนคดียังไม่สรุปสำนวน อยู่ในระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน แต่ถ้าเป็นเรื่องเร่งด่วน สามารถบรรจุเป็นวาระจรได้ ทั้งนี้ หาก ป.ป.ช.พบพยานหลักฐานเพิ่มเติม อาจส่งไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีต่อได้
    ด้านนายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวว่า เตรียมนำสำนวนคดีทุจริตเงินทอนวัดล็อต 3 เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในวันที่ 30 พ.ค.นี้ ถือเป็นการบรรจุวาระจรเร่งด่วน หลังจากที่มีการควบคุมตัวพระเถระชั้นผู้ใหญ่ไปก่อนหน้านี้ โดยจะเป็นการรายงานความคืบหน้าของคดีต่อที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.
    พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) เปิดเผยความคืบหน้าการสืบสวนคดีทุจริตเงินอุดหนุนวัด หรือเงินทอนวัด ล็อต 4 ว่าได้ให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่ทั่วประเทศตรวจสอบการทุจริตเงินงบประมาณของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติทั้ง 3 งบ คือ งบบูรณปฏิสังขรณ์และพัฒนาวัด งบอุดหนุนส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนา และเงินอุดหนุนการศึกษาพระปริยัติธรรม ซึ่งยังไม่มีการสรุปจำนวนวัดที่ทุจริต เป็นวัดใหม่ที่ไม่เคยตรวจสอบมาก่อน แต่พบความเชื่อมโยงกับผู้ต้องหาชุดเดิมที่ถูกจับไปก่อนหน้า ทั้งข้าราชการและฆราวาส อย่างไรก็ตาม ต้องรอการประชุมความคืบหน้าของพนักงานสอบสวนอีกครั้ง ส่วนตัวยังไม่ได้วางกรอบระยะเวลา อยากให้ทุกฝ่ายทำงานเต็มที่ แต่ในล็อตที่ 4 ไม่พบการกระทำความผิดเพิ่มเติมของวัดสระเกศฯ 
    พล.ต.ต.กมลกล่าวว่า ปปป.ไม่ได้ตรวจสอบประเด็นการเสพเมถุนของพระชั้นผู้ใหญ่ที่ถูกออกหมายจับ เพราะเป็นหน้าที่ของกองปราบปราม
    นายกฤช กระแสร์ทิพย์ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า นายสมทรง อดีตพระอรรถกิจโสภณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสามพระยาฯ เลขานุการเจ้าคณะกรุงเทพฯ มีอาการป่วยด้วยโรคหัวใจเต้นผิดปกติ จึงนำตัวมาให้แพทย์ดูอาการ สำหรับอดีตพระทั้ง 6 รูป ภายหลังถูกส่งตัวเข้ามาคุมขังในเรือนจำ ขณะนี้เรือนจำได้จำแนกคัดย้ายทั้ง 6 ราย จากแดนแรกรับ โดยได้คัดย้ายไปคุมขังยังแดน 3, แดน 4 และแดน 6 เพื่อลดการเผชิญหน้ากัน โดยในส่วนของอดีตพระพุทธะอิสระ ได้แยกการคุมขังออกจากนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. 
    ส่วนอดีตพระเถระชั้นผู้ใหญ่ทั้ง 5 รูป ได้กระจายไปคุมขังยังแดนต่างๆ ตามความเหมาะสม โดยผู้ต้องขังใหม่ทั้ง 6 รายได้ปฏิบัติกิจวัตรส่วนตัวตามปกติ รับประทานอาหารเช้าและอาหารกลางวันที่เรือนจำจัดให้ แต่มื้อเย็นผู้ต้องขังทั้ง 6 รายไม่ได้รับประทานอาหาร จากนั้นก็พักผ่อนทำกิจกรรมภายในแดนของตนเอง
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางมีคำสั่งอนุญาตให้ฝากขังครั้งแรกอดีตพระเถระชั้นผู้ใหญ่ 5 รูป คือ พระศรีคุณาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ, พระครูสิริวิหารการสมจิตร  จันทร์ศรี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ, พระวิจิตรธรรมาภรณ์ หรือเจ้าคุณเทอด ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ, พระพรหมดิลก (เอื้อน หาสธมฺโม) เจ้าอาวาสวัดสามพระยาฯ กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) และเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร และพระอรรถกิจโสภณ เลขาฯ เจ้าคณะกรุงเทพฯ วัดสามพระยาฯ ในคดีร่วมกันฟอกเงินทุจริตเงินอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรม รวมกว่า 150 ล้านบาทแล้วเมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา 
    โดยศาลไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวอดีตพระเถระทั้ง 5 รูป เนื่องจากเห็นว่าคดีมีอัตราโทษสูง พฤติการณ์การกระทำความผิดมีผลกระทบต่อพุทธศาสนา และมีลักษณะเป็นขบวนการ โดยมีการแบ่งหน้าที่ยักย้ายเงินที่ได้มาผ่านทางธนาคาร จึงต้องมีเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดอยู่ในความครอบครองของผู้ต้องหากับพวก หากให้ปล่อยชั่วคราวแล้วเชื่อว่าผู้ต้องหาจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน เป็นอุปสรรคหรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อการสอบสวนของเจ้าพนักงาน ประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้านแล้ว
    ต่อมาอดีตพระเถระทั้ง 5 รูปซึ่งถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ได้มอบอำนาจให้ทนายความยื่นอุทธรณ์การประกันตัว
    วันเดียวกัน ศาลอุทธรณ์ได้มีคำสั่งเรื่องการขอประกันตัวของอดีตพระเถระทั้ง 5 รูปมาแล้ว ปรากฏว่า ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามศาลอาญาคดีทุจริตฯ ซึ่งเป็นศาลชั้นต้น ให้ยกคำร้องขอประกันตัว ด้วยเหตุผลเดียวกัน เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนยกคำร้องขอประกันตัวชั้นฝากขังนี้แล้ว อดีตพระเถระทั้ง 5 รูปก็ยังคงถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ต่อไป  
    แต่หลังจากนี้ก็ยังสามารถใช้สิทธิตามกฎหมายที่จะยื่นคำร้องขอประกันตัวใหม่ต่อศาลอาญา หรือยื่นอุทธรณ์การประกันตัวต่อศาลอุทธรณ์ต่อไป ซึ่งการยื่นสามารถดำเนินการได้ตลอดในช่วงระยะฝากขังในคดีดังกล่าว ซึ่งข้อหาที่ถูกดำเนินคดีคือ ร่วมกันฟอกเงินนั้น พนักงานสอบสวนสามารถยื่นฝากขังได้ตามกฎหมายทั้งสิ้น 7 ผลัด รวม 84 วัน ซึ่งคดีนี้จะครบกำหนดฝากขังครั้งแรกในวันที่ 4 มิ.ย. โดยหากพนักงานสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ไม่สามารถสรุปสำนวนส่งให้อัยการพิจารณาฟ้องหรือไม่ฟ้องได้ทัน ก็ต้องยื่นฝากขังต่อไป จนเมื่อสิ้นสุดเหตุจำเป็นหรือพิจารณาสำนวนเสร็จสิ้นแล้ว. 
              


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"