"บิ๊กตู่" ส่งทนายแจ้งเอาผิดแอดมินเพจพรรคก้าวไกล-เลขาฯ พรรค หมิ่นประมาทโพสต์ภาพคู่ "ธรรมนัส" พร้อมข้อความ "โจรอุ้มโจร" "แรมโบ้" อัดก้าวไกลหัดยอมรับกติกาของบ้านเมืองบ้าง "ชัยธวัช" ยกกฤษฎีกาเทียบเคียงไม่เกี่ยวอำนาจอธิปไตย เตือนจะเกิดวิกฤติ "ส.ส.ปัตตานี" ร่อน จม.ถึงผู้บริหาร ปชป.ให้ถอนตัว ชี้ปัญหาเกิดจากนายกฯ ตั้งธรรมนัสเป็น รมต. ด้านโฆษกป.ป.ช.แจงไม่ผิดจริยธรรม เหตุเกิดขึ้นก่อนดำรงตำแหน่ง
ที่ สน.นางเลิ้ง เวลา 14.00 น. วันที่ 7 พฤษภาคม นายอภิวัฒน์ ขันทอง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะทนายความประจำสำนักกฎหมาย อ.อัมพร ณ ตะกั่วทุ่ง และเพื่อน ที่รับมอบอำนาจจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.อธิชย์ ดอนนันทัย รอง ผกก.(สอบสวน) สน.นางเลิ้ง ให้ดำเนินคดีนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กับแอดมินเพจพรรคก้าวไกล ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และนำเข้าข้อมูลเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
จากกรณีที่มีการโพสต์ภาพ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขึ้นข้อความต่อว่า (โจรอุ้มโจร) แสดงความไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่วินิจฉัยว่าความเป็น ส.ส.และรัฐมนตรีของ ร.อ.ธรรมนัสไม่สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ ผ่านเฟซบุ๊กเพจ "พรรคก้าวไกล - Move Forward Party”
นายอภิวัฒน์กล่าวว่า มาแจ้งความเอาผิดแอดมินเพจพรรคก้าวไกล ที่นำรูป พล.อ.ประยุทธ์คู่กับ ร.อ.ธรรมนัสลงบนเพจ แล้วนายชัยธวัชมาคอมเมนต์ข้อความในเชิงหมิ่นประมาท โดยจะดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาทและนำเข้าข้อมูลเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้ นายกฯ ไม่ได้กำชับสั่งการอะไรเป็นพิเศษ เพราะทำตามหน้าที่อยู่แล้ว หากมีกรณีอื่นๆ ที่มีการกล่าวหาบิดเบือนเรื่องวัคซีนหรือสถาบัน ก็จะตรวจสอบและดำเนินคดีดังเช่นที่ผ่านมา
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวถึงกรณีคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ให้ ร.อ.ธรรมนัสไม่ต้องพ้นจากตำแหน่ง ส.ส.และรัฐมนตรี เนื่องจากคำตัดสินของศาลออสเตรเลียไม่มีผลต่อการพิจารณาของศาลไทย จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ว่าเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เนื่องจากคำตัดสินอาจจะถูกใจหรือไม่ถูกใจใครก็ได้ แต่เมื่อศาลวินิจฉัยแล้วย่อมถือเป็นที่สิ้นสุด ตนไม่ขัดข้องหากการวิพากษ์วิจารณ์ตั้งอยู่บนพื้นฐานของเหตุและผล หรืออยู่บนพื้นฐานทางวิชาการ โดยไม่สร้างผลกระทบหรือก่อให้เกิดความเสียหายไม่ว่ากับตัวบุคคลหรือสถาบันใดในสังคมก็ตาม
นายชัยวุฒิกล่าวว่า กรณีเพจเฟซบุ๊กของพรรคก้าวไกล ที่โพสต์ข้อความโจมตีรัฐบาลที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ ว่าเป็น "โจรอุ้มโจร" พร้อมภาพคู่ระหว่างนายกฯ และ ร.อ.ธรรมนัสนั้น ตนได้มอบหมายฝ่ายกฎหมายให้ตรวจสอบโพสต์ดังกล่าวแล้ว พบว่ามีความผิดชัดเจน เข้าข่ายเป็นการหมิ่นประมาท ทำให้นายกฯ และรัฐบาล ถูกดูหมิ่นเกลียดชังผ่านข้อความในโซเชียลฯ สิ่งที่เป็นห่วงคือประชาชนทั่วไปที่อาจได้รับข้อมูลข่าวสารไม่ครบถ้วนจนแสดงความคิดเห็นที่ผิดไปจากข้อเท็จจริง รวมถึงการแชร์เฟกนิวส์ที่อาจถูกดำเนินคดีอีกด้วย
นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พรรคก้าวไกลควรจะหัดยอมรับคำตัดสินของศาล และยอมรับกติกาของบ้านเมืองบ้าง ไม่ใช่พอมีเรื่องอะไรที่ทำให้พรรคตนเองไม่สมหวังดั่งใจ ไม่พอใจ ก็จะออกมาตำหนิ กล่าวโจมตีโทษนายกฯ เป็นถึงพรรคการเมืองตัวแทนของประชาชน เหตุใดถึงไม่ทำเรื่องดีๆ ให้เป็นตัวอย่างกับประชาชนบ้าง มีแต่คิดเรื่องลบตลอดเวลา ไม่เคยคิดบวกเลยสักเรื่อง จ้องแต่จะใส่ร้ายโจมตี สร้างความวุ่นวายให้กับประเทศชาติประชาชน น่าเบื่อหน่ายที่สุด
ด้านนายชัยธวัช ตุลาธน โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า พวกเราจะเดินหน้าต่อในเรื่องนี้ด้วยการยื่น ป.ป.ช.สอบจริยธรรมร้ายแรงต่อไปคาดจะสามารถยื่นเรื่องนี้ได้ก่อนการประชุมสภาสมัยสามัญจะเปิดปลายเดือน พ.ค.นี้ รวมถึงจะใช้กลไกสภาผ่าน กมธ.ป.ป.ช. ตรวจสอบอยู่ด้วย ไม่ใช่ว่าที่ผ่านมายื่นผิดช่องทาง แต่การที่ยื่นศาลรัฐธรรมนูญก่อน เพราะยืนยันว่าข้อเท็จจริงเรื่องคำพิพากษาของศาลออสเตรเลียจะต้องถูกพิจารณาเป็นลักษณะต้องห้ามได้ ซึ่งมีกรณีที่เทียบเคียงได้จากความเห็นของกฤษฎีกาต่อกรณียาเสพติด ทั้งในปี 2525 และเดือนตุลาคมปี 2563
"โดยรัฐมีการรับผลคำพิพากษาศาลต่างประเทศมาใช้ในฐานะข้อเท็จจริงประกอบการพิจารณา ไม่เกี่ยวกับการสูญเสียอำนาจอธิปไตยหรือสูญเสียความเป็นอิสระของตุลาการไทยเลย ซึ่งเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญคือทำผิดที่ไหนควรต้องห้ามทั้งสิ้น สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ ผลของคดีนี้ในความรู้สึกของสังคมคือรู้ผลล่วงหน้าอยู่แล้ว เพียงแต่รอฟังรายละเอียดว่าจะใช้เหตุผลอะไร ซึ่งเหตุผลเรื่องอธิปไตยฟังดูแล้วแปลก ตอนนี้สังคมไทยเหมือนกำลังกอดระเบิดเวลาไว้ หรือเป็นวิกฤติคู่ ด้านหนึ่งคือวิกฤติองค์กรอิสระและตุลาการ อีกด้านหนึ่งคือวิกฤติทางการเมืองเรื่องความชอบธรรมของรัฐบาล" นายชัยธวัชกล่าว
นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ ทำหนังสือถึงคณะกรรมการบริหารพรรค เสนอให้พรรคถอนตัว เพื่อแก้ไขปัญหาของชาติ โดยระบุตอนหนึ่งว่า คําวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่า ร.อ.ธรรมนัสไม่พ้นสภาพ ส.ส. ทําให้เกิดวิกฤติศรัทธาต่อกระบวนการยุติธรรมเพิ่มมากยิ่งขึ้น โดยศาลรัฐธรรมนูญตกเป็นจําเลยของสังคม ตนไม่โทษศาลรัฐธรรมนูญ และจะไม่โทษ ร.อ.ธรรมนัส แต่จะโทษ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะปัญหาทั้งหมดเกิดจากนายกฯ ที่รู้อยู่แก่ใจว่าเบื้องหลัง ร.อ.ธรรมนัสเป็นอย่างไร แต่กลับแต่งตั้งมาเป็นรัฐมนตรี เท่ากับเป็นการดูแคลนประชาชนคนไทยทั้งประเทศ เมื่อมีปัญหาที่ต้องแก้ไข ท่านก็โยนให้องค์กรอิสระที่มีอยู่มาจัดการแทน
"เมื่อฝ่ายค้านเรียกร้องให้ท่านนายกฯ ลาออก ซึ่งท่านคงไม่ออก ท่านก็คงอยู่อย่างนี้ ทุกอย่างก็คงเหมือนเดิม เพราะพรรคร่วมรัฐบาลก็เป็นพรรคเดิม ก็คงคิดแบบเดิมๆ แนวทางที่จะแก้ไขปัญหาก็ไม่ชัดเจน จึงขอเสนอสิ่งที่ผมเคยเสนอเอาไว้หลายครั้งว่า พรรคประชาธิปัตย์ควรใช้โอกาสนี้แก้ไขปัญหาของประเทศชาติ ด้วยการถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาล เพื่อเปิดโอกาสให้มีการ เปลี่ยนแปลงตามกลไกของระบอบประชาธิปไตย" หนังสือระบุ
ส่วนนายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกป.ป.ช. กล่าวว่า กรณี ร.อ.ธรรมนัส ถ้าจะร้องเรียนเรื่องเคยติดคุกที่ประเทศออสเตรเลียแล้วมาเป็นรัฐมนตรี ไม่น่าจะเข้าข่ายทำผิดจริยธรรม เพราะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนมาเป็น ส.ส.หรือรัฐมนตรี ถ้าจะผิดก็เป็นเรื่องคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของการดำรงตำแหน่ง ซึ่งเรื่องการปกปิดลักษณะต้องห้าม ไม่ใช่หน้าที่ป.ป.ช.ตรวจสอบ แต่เป็นเรื่องของ กกต. ส่วนคดี น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดจริยธรรมร้ายแรงกรณีการบุกรุกพื้นที่ป่านั้น ก็ชัดเจนเรื่องการทำผิดจริยธรรม เพราะเป็นการทำผิดระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. แม้จะครอบครองที่ดินมาก่อนเป็น ส.ส. ดังนั้นอย่าเพิ่งนำมาเทียบเคียงกัน.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |