'จตุพร' รายวันไล่ 'ประยุทธ์'


เพิ่มเพื่อน    

7 พ.ค.64 - นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) เฟชบุ๊คไลฟ์ peace talk ว่า การเคลื่อนของคณะไทยไม่ทนฯ ล้วนเน้นถึงการอยู่หรือไปของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และการได้มาของรัฐธรรมนูญของประชาชนอย่างแท้จริง เราต้องไล่พล.อ.ประยุทธ์ ออกไป และต้องร่างรัฐธรรมนูญใหม่ขึ้นมา ซึ่งเป็นสองหัวข้อผูกติดกันไว้ แปลความว่า ไล่พล.อ.ประยุทธ์ ได้รัฐธรรมนูญใหม่ของประชาชน การปกครองในระบอบประยุทธ์ เป็นของพล.อ.ประยุทธ์ โดยพล.อ.ประยุทธ์ และเพื่อพล.อ.ประยุทธ์ ไม่ใช่การปกครองของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน ดังนั้น เราจึงมาร่วมกันเอาพล.อ.ประยุทธ์ ออกไปก่อน การบริหารในรอบ 7 ปี กองเชียร์รัฐบาลเชื่อหรือว่า รัฐบาลนี้ไม่มีการโกง โดยบอกว่า รัฐธรรมนูญ 2560 เป็นรัฐธรรมนูญปราบโกงนั้น ถามว่าในช่วง 7 ปีนี้ ใครโกงกันบ้าง

ดังนั้น จึงเป็นลมลวง เป็นมายาภาพ เป็นสิ่งที่หลอกลวงประชาชนที่ต้องการได้ความเชื่อในขณะนั้นๆ แล้วปรากฎชัดเจนว่า ไม่มีการปราบโกง แล้วยังเปิดช่องให้เกิดขบวนการโกงเกิดขึ้นทั้งแผ่นดินจนถึงบัดนี้  นอกจากนี้ วิธีที่เข้ามาเป็นรัฐบาล ไม่ใช่วิธีที่วิญญูชน สุภาพบุรุษชน สตรีชน หรือคนที่รู้ผิดชอบชั่วดีจะเข้ามา แต่เป็นการเตรียมการมาแต่ต้น และเข้ามาด้วยวิธีปล้น คำว่าไม่มีสัจจะในหมู่โจรจึงสอดคล้องที่สุด เราไปหาสัจจะในหมู่โจรจึงผิดมาตั้งแต่ต้น คำพูดอยู่ไม่นาน ไม่สืบทอดอำนาจ จะแก้ไข รัฐธรรมนูญแล้วไม่แก้ หรือจะปฏิรูปประเทศไทย ทุกอย่างหลอกลวงทั้งสิ้น  

นายจตุพรกล่าวว่า ช่วงตลอด 7 ปี พล.อ.ประยุทธ์ ทำอะไรมาบ้าง เอาแต่ใช้หลักคิดอยู่ไปวันๆ เป็นความคิดที่แย่หนักกว่านักการเมืองที่มาจากเลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เคยคิดแบบวีรบุรุษ เอาแต่พูดไม่รู้เรื่อง พูดไม่เป็นความจริง เอาแต่เกรี้ยวกราด แล้วทำไมคนไทยจึงทนอยู่ได้มาตลอด คณะไทยไม่ทนฯ จึงเปิดกว้างชวนคนทุกแวดวง ประชาชนทุกฝ่าย องค์กรทุกสาย มาร่วมไล่พล.อ.ประยุทธ์ โดยเชื่อว่า หากเราทำเพื่อประชาชนแล้ว คงไม่มีอะไรต้องหวั่นไหว เราคิดเพียงเอาประเทศรอดให้ได้ และจะมาอับจนกับนายกฯคนนี้อีกต่อไปไม่ได้ พล.อ.ประยุทธ์ อ้างขอทำงานให้จบนั้น มันไม่มี หากทำจบก็ไม่มีนายกฯ คนที่ 30 สิ่งที่เราพยายามอธิบายความคือ มุ่งไปข้างหน้าไล่พล.อ.ประยุทธ์ ออกไป และร่างรัฐธรรมนูญใหม่โดยประชาชน  

ส่วนเวทีไทยไม่ทนฯ ในวันที่8-9 พ.ค.นี้ มีจุดยืนชัดเจนในการไล่พล.อ.ประยุทธ์ และร่างรัฐธรรมนูญใหม่ คือหัวใจการต่อสู้ วันที่8 พ.ค. จะมีพี่น้องหลายฝ่ายมาร่วมกัน วันอาทิตย์ 9 พ.ค. มีนายจารุรนต์ ฉายแสง นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี โดยในสัปดาห์ต่อไป จะมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ นายโภคิน พลกุล แกนนำพรรคไทยสร้างไทย มาร่วม แล้วยังจะมีนายไพศาล พืชมงคล มาร่วมพูดเกี่ยวกับโควิดอีกครั้งในภาคสอง กำลังหารือว่า จะจัดกันทั้งวัน โดยทั้งหมดนั้น หวังเพียงประคับประคองให้บ้านเมืองเป็นไปในสิ่งที่ควรจะเป็นเท่านั้น จุดร่วมทั้งปวงพล.อ.ประยุทธ์ ต้องออกไป จึงจะได้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนที่เป็นจริงขึ้นมา 

นายจตุพรกล่าวถึงการได้รับการประกันตัวของแกนนำคณะราษฎรบางคนว่า การปล่อยตัวนั้น จะเป็นการผ่อนคลายบรรยากาศบ้านเมืองอีกระดับหนึ่ง ในสภาพประชาชนแร้นแค้น ทุกข์ยาก กดดันมีความยากลำบาก จึงไม่ควรมีความทุกข์ใดอีก กลิ่นไออิสรภาพที่บังเกิดแล้ว เชื่อว่า จะได้คลี่คลายกันไปหลากหลายระดับ ได้แต่หวังว่า อย่าได้เอาคนเข้าไปเพิ่มเลย คนที่อยู่ในเรือนจำก็เอาเขาออกมา ไม่เป็นประโยชน์ใดๆ สังคมยิ่งบอบช้ำ สาหัสมากยิ่งขึ้น ถ้ามีคนผิดจริงในกรณีนี้คือ พล.อ.ประยุทธ์ ที่เป็นต้นตอของปัญหาทั้งปวง จนทำให้เดือดร้อนกันทั้งเจ้าฟ้า เจ้าแผ่นดิน และคนรุ่นใหม่ เนื่องจากการพูดของพล.อ.ประยุทธ์ เป็นการเปิดประตูในเรื่องการไม่เอาผิด จนนำพาไปสู่การเข้าใจผิดและสร้างคาวมเสียหายในทุกเรื่องราว เหตุใดจนถึงวันนี้พล.อ.ประยุทธ์ จึงไม่กล้าเข้าเฝ้าฯ เพื่อถวายรายงานพระเจ้าแผ่นดิน ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ ทำงานสำเร็จ คงไม่มีใครเรียกร้องให้ไปเข้าเฝ้าฯ ไปถวายขอคำปรึกษา แต่พล.อ.ประยุทธ์ กลับเชื่อมั่นตัวเองว่าเก่ง เอาอยู่ จะควบคุมสถานการณ์ได้ ซึ่งก็ผิดหมดมาตั้งแต่โควิดระบาดและเรื่องจัดหาวัคซีน แล้วทำให้ประชาชนยากลำบากจากการบริงานผิดพลาดของพล.อ.ประยุทธ์   

ถ้าพล.อ.ประยุทธ์เป็นคนเข้าท่าจริงๆ วันนี้ต้องเรียกธนาคารมาคุย สั่งพักหนี้ให้ชาวบ้าน เจ้าของกิจการให้เช่าทั้งหลายต้องเรียกมาเจรจา หลายแห่งผู้ประกอบการมีใจเป็นธรรม ลดค่าเช่าครึ่งหนึ่ง ผู้ประกอบการท่องเที่ยวกว่า 2 หมื่นกว่าบริษัท มีรายได้หายไปถึง 95% คนเป็นนายกฯ ขอให้รู้จักการฟังและตัดสินใจ อย่าไปคิดว่า ตัวเองเก่งทุกเรื่อง ทั้งทางเศรษฐกิจ และการทหาร ซึ่งไม่เป็นความจริง แต่การตั้งตัวเองเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ทั้งที่ไม่รู้เรื่องรู้ แล้วท้ายที่สุดเป็นอย่างไร พังกันหมด หลักการผู้นำนั้นต้องขยายบทบาทให้ผู้อื่นได้แสดง เพราะเท่ากับเป็นการเพิ่มบทบาทให้ตัวเอง เป็นการหลักการขยายอำนาจ พล.อ.ประยุทธ์ กลับยึดบทบาทผู้อื่นมาเป็นของตัวเอง แล้วก็ทำพังหมด นี่คือระบอบพล.อ.ประยุทธ์  สถาการณ์บ้านเมืองในเวลานี้ เราต้องการคนที่เป็นนักบริหาร สิ่งสำคัญไม่ได้อยู่ที่คนเก่งทุกเรื่องมาเป็นผู้นำ แต่ประเทศต้องการคนบริหาร กระจายบทบาทให้คนอื่นแสดงบทบาทมากขึ้น แต่พล.อ.ประยุทธ์ เอาทุกเรื่อง แล้วไม่ได้เรื่องในทุกเรื่อง  

นายจตุพรกล่าวอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ ต้องออกจากบ้านมาสั่งการงานที่ทำเนียบ โควิดไม่ได้หยุดเกิดในวันเสาร์-อาทิตย์ ต้องเปลี่ยนทัศนะคติจากระบบข้าราชการประจำทำงาน ควรลงพื้นที่หาความจริง โดยไม่เอาผักชีโรยหน้า และไม่ฟังคำยกยอชื่นชม แต่ต้องสนใจคำด่าของประชาชน  


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"