7 พ.ค.64 - นายนคร มาฉิม อดีต ส.ส. จังหวัดพิษณุโลก โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก โดยมีรายละเอียดดังนี้

ศาล ท่านจะรับใช้เผด็จการทรราชตลอดไป หรือจะรับใช้ประชาชน เจ้าของเงินภาษี เลี้ยงดูท่าน

ทหารไทย ทำการรัฐประหาร ปล้นอำนาจประชาชนมากที่สุด ในอาเซียน เกือบสูงสุดในโลกรวม ถึง 13 ครั้ง 

ทุกครั้งที่มีการปล้นอำนาจประชาชนสำเร็จ และมีการรับรองคณะเผด็จการทรราชแล้ว

ศาลจะน้อมรับคำสั่ง โจรกบฏ และของเหล่าเผด็จการทรราช ทุกครั้ง ว่า  เป็นรัฐาธิปัตย์ มีอำนาจเต็ม คำประกาศ คำสั่ง รวมถึงกฎของโจรกบฏ ที่ออกมาจากสภาเผด็จการ หรือสภานิติบัญญัติแห่งชาติ มาบังคับใช้เป็นกฏหมาย โดยไม่เคยมีศาลคนใด คณะใด ปฏิเสธกฎของโจรกบฏเลย รวมถึงยุคนี้

22 พฤษภาคม 2557 คณะเผด็จการทรราช คสช. ได้ปล้นประเทศปล้นอำนาจได้ และออกกฎ กติกา ของโจรกบฏ ในนามของ รัฐธรรมนูญเผด็จการ คสช ศาลก็ก้มกราบ และน้อมรับกฎของโจรกบฏ มาบังคับใช้ กับคนไทย ว่าเป็นกฎหมาย โดยไม่คำนึงถึงที่มาว่าพวกเขาเป็นโจรกบฏ ที่ปล้นอำนาจของประชาชนไป

หลายคดีก่อนที่ตุลาการรัฐธรรมนูญ จะตัดสิน คดี รมต ธรรมนัส พรมเผ่า ศาลก็กลายเป็นเครื่องมือ และแปรสภาพตัวเองให้กลายเป็นเครื่องมือรับใช้เผด็จการทรราช อย่างเต็มที่ เคยพิพากษารับรอง ความบริสุทธิ์ ขาวสะอาด ให้ผู้นำทรราชเกือบจะทุกคนตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน เช่นเรื่องนาฬิกายืมเพื่อน แต่เพื่อนตายไปแล้ว ไม่ผิด  รวมถึงฟอกขาว รับรองความบริสุทธิ์ ให้ รมต ธรรมนัส โดยไม่สนใจต่อสังคมโลกที่เขาเจริญแล้ว ว่าจะมองเห็นกระบวนการยุติธรรมของไทยเป็นยุคบ้านป่าเมืองเถื่อน เป็นประเทศอนารยะ ล้าหลัง เป็นที่ตลกขบขันของสังคมโลก ที่สำคัญ คดียาเสพติด เป็นอาชญากรข้ามชาติ เป็นภัยต่อมวลมนุษยชาติ

ในทางกลับกัน ศาลก็ถูกใช้เป็นเครื่องจักรสังหารฝ่ายประชาธิปไตย ผู้นำฝ่ายประชาธิปไตย เช่น การยุบพรรคการเมือง การตัดสิทธิทางการเมืองของผู้นำทางการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย หลายคนไม่อาจต้านทานอำนาจ ความอำมหิต ความเลวร้ายในนามของกฎหมาย หรือในนามของกระบวนการยุติธรรมได้ ต้องบาดเจ็บ ล้มตาย สูญหาย หนีภัยไปอยู่ต่างประเทศ ไม่เว้นแม้กระทั่งเด็ก เยาวชน ที่พูดความจริง พูดเพื่ออนาคตของตนเอง เช่นรุ้ง เพนกวิน ทนายอานนท์ และคณะเยาวชนคณะราษฏร์

การที่คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญคดี รมต ธรรมนัส ออกมาเช่นนี้ จึงเป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งที่ชี้ให้เห็นว่า ศาล และ กระบวนการยุติธรรมไทย ไม่เคยรับใช้ประชาชน ฝ่ายประชาธิปไตย บนหลักนิติรัฐ นิติธรรม และ หลักสากล เลย 

ประวัติศาสตร์บันทึกไว้อย่างน่าอัปยศว่าศาล และกระบวนการยุติธรรมไทย รับใช้เผด็จการทรราชมาตลอด เป็นเครื่องจักรสังหาร ให้เผด็จการทรราช ใช้เป็นเครื่องมือประหัตประหาร ฝ่ายประชาธิปไตย และคนหัวก้าวหน้าเท่านั้น

ไม่แปลกใจเลย ที่ประวัติศาสตร์โลก หากมีการเปลี่ยนแปลง หรือปฏิวัติ ให้อำนาจเป็นของประชาชนสำเร็จ เช่น ฝรั่งเศส รัสเซีย จีน และ หลังสุด ที่ ตุรกี เหล่าผู้พิพากษา และข้าราชการ ในกระบวนการยุติธรรม จะถูกแขวนคอ หรือ ตัดศรีษะ ด้วย เครื่องประหารกิโยตีน เพราะพวกเขาใช้กฎหมายในนามของกระบวนการยุติธรรม ประหัตประหาร ฝ่ายประชาธิปไตย อย่างไร้ความเป็นธรรม ไร้ตรรกะ ไร้เหตุผล เพื่อผลประโยชน์และ ตำแหน่งของตนเอง โดยไม่สนสนใจต่อหลักนิติรัฐ นิติธรรม และประชาธิปไตย

มองเตสกิเออร์ นักปราชญ์ชาวฝรั่งเศสจึงกล่าวไว้ว่า”ไม่มีความเลวร้ายใด ที่จะยิ่งไปกว่า ความเลวร้าย ที่ได้กระทำโดยอาศัย อำนาจ ตามกฎหมาย หรือในนามของกระบวนการยุติธรรม “

และ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โทมัส เจฟเฟอร์สัน กล่าวไว้ว่า “ เมื่อความอยุติธรรม กลายเป็นกฎหมาย การลุกขึ้นต่อต้าน ก็เป็นหน้าที่ “

สถานการณ์ของประเทศไทย ในปัจจุบัน มันเป็นสถานการณ์ปฏิวัติ ไม่ใช่สถานการณ์ปกติ ที่จะมา เสกสรร ปั้นแต่ง คำพูด สำนวน โวหาร ให้ดูดี ดูฉลาด ดูเท่ห์ หล่อ สวย เพราะสิ่งเหล่านี้ ใช้ไม่ได้กับระบอบ เผด็จการทรราช ที่กำลังครองเมืองอยู่

หากประชาชนไม่ต่อสู้เพื่อการเปลี่ยนแปลง สภาพของไทย ก็จะอยู่ในยุคมืด ยุคมิคสัญญี ยุคคนชั่วครองเมือง อยู่เช่นนี้ รอเวลาที่วิบัติ และหายนะจะมาเยือน ในเร็ววัน เท่านั้น ไม่แปลกใจ ที่จะมีคนไทยไม่น้อย ที่ไม่เห็นอนาคต จะชวนกันย้ายประเทศ.