รุมจวก "ทักษิณ-ฝ่ายค้าน" ปั่นข่าววัคซีนไฟเซอร์เข้าไทยทำ ปชช.สับสน "เลขาฯ สมช." ไม่ให้ราคาพวกปล่อยเฟกนิวส์ "ธนกร-แรมโบ้" ซัดหยุดเล่นการเมืองโจมตีรัฐบาล วอนช่วย "บิ๊กตู่-หมอ" สู้โควิดดีกว่า "ท่านใหม่" ยันชนชั้นสูงฉีดแอสตร้าฯ เหมือนราษฎรไม่มีอะไรแตกต่าง "พท." แนะรีบตัดวงจรกลุ่มเสี่ยงก่อนไปแพร่เชื้อ
เมื่อวันที่ 6 พ.ค. พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศปก.ศบค. และประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อบูรณาการด้านการแพทย์และสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี รวมทั้งฝ่ายการเมือง ระบุวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์ได้เข้ามาในประเทศไทยว่า เราจะไม่เสียเวลากับข่าวที่ไม่เป็นความจริง เราต้องพยายามสร้างความรับรู้ข้อมูลที่แท้จริงให้แก่ประชาชน ที่ผ่านมาการแถลงข่าวของ ศบค.ทุกวันโดยได้เชิญคุณหมอ ผู้ทรงคุณวุฒิ และมีความอาวุโสในด้านเกี่ยวกับวัคซีน มาให้ข้อมูลที่ถูกต้องแท้จริงและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชน ซึ่งเป็นเรื่องที่เราทำอยู่ โดยเน้นให้ข้อเท็จจริง
นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 รัฐบาลเร่งดำเนินการคุมเข้ม บุคลากรทางการแพทย์ก็ทำงานกันอย่างเต็มที่ รวมไปถึงการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับประชาชน โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้สั่งการให้จัดหาวัคซีนจำนวน 100 ล้านโดส เพื่อฉีดให้ประชาชนจำนวน 50 ล้านคน ภายในปี 64 ครอบคลุมประชากร 70% แต่สิ่งหนึ่งที่ตนไม่สบายใจก็คือฝ่ายการเมือง โดยเฉพาะพรรคฝ่ายค้าน ขนาดบ้านเมืองเจอวิกฤติโควิด-19 ยังมีหน้ามาบิดเบือนข้อมูลโจมตีรัฐบาลทุกรูปแบบ ทั้งใต้ดินและบนดิน ผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆ
"กรณีนายทักษิณระบุวัคซีนไฟเซอร์เข้ามาประเทศไทยแล้ว มีหลักฐานอยู่ ทั้งที่บริษัทไฟเซอร์ประเทศไทยออกมายืนยันว่ายังไม่เข้ามา โดยกำลังทำงานร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขของไทยซึ่งกำลังดำเนินการอยู่ ส่วนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ก็รีบโดดออกมารับลูกว่าจะตรวจสอบเรื่องนี้ทันที" นายธนกรกล่าว
เช่นเดียวกับนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกฯ ไม่หยุดที่จะคิดหาทางในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ทั้งด้านสาธารณสุข ด้านเศรษฐกิจ โดยยืนยันกับประชาชนแล้วว่าจะไม่มีวันท้อถอยหรือท้อแท้ ไม่ว่าจะเผชิญกับปัญหาใดๆ ดังนั้นก็ขอให้ประชาชนมั่นใจในตัวนายกฯ และรัฐบาล จะไม่ทิ้ง และจะสู้เพื่อประชาชน และอยากให้ประชาชนและทุกภาคส่วนได้ร่วมไม้ร่วมมือกัน เพื่อทำให้สถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิค-19 ในประเทศได้คลี่คลายลงให้ได้ และกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ
"ขอให้ประชาชนอย่าไปสนใจพวกที่ชอบโจมตีใส่ร้ายป้ายสีใส่ความเท็จทางการเมือง เช่นพูดถึงข้อมูลวัคซีนที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ทำให้ประชาชนสับสนและเข้าใจผิดต่อรัฐบาล ผมอยากขอร้องไปยังฝ่ายการเมือง ให้ช่วยกันในฐานะเป็นผู้แทนของประชาชน ให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในขณะนี้ โดยขอให้พักเรื่องทางการเมืองเอาไว้ก่อน แล้วมาร่วมแรงร่วมใจกัน" ผู้ช่วย รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าว
นายพลพีร์ สุวรรณฉวี รองเลขาธิการรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง(ประจำตัวนายอนุทิน ชาญวีรกูล) กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมามีการบิดเบือนข่าวสารที่ลดทอนความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อวัคซีนโควิด-19 หลายเรื่อง ยกตัวอย่างเช่นกรณีที่หมอจากพรรคการเมืองหนึ่งออกมาให้ข้อมูลว่าวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าและซิโนแวคไม่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์บราซิลและแอฟริกาใต้ ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
สิ่งที่ตามมาคือประชาชนที่ได้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงจะตั้งคำถามว่า เมื่อวัคซีนไม่ป้องกันการติดเชื้อ ก็ไม่จำเป็นต้องได้รับวัคซีน ทั้งที่ความจริงวัคซีนสามารถป้องกันการติดเชื้อได้ แต่จะมีประสิทธิภาพลดลงเมื่อต้องนำมาใช้กับเชื้อโควิดสายพันธุ์บราซิลและแอฟริกาใต้ และไม่ว่าจะเป็นวัคซีนยี่ห้อไหนเมื่อมาเจอกับเชื้อ 2 ตัวนี้ ประสิทธิภาพย่อมลดน้อยถอยลงบ้าง
"เข้าใจดีถึงหน้าที่ของฝ่ายค้านที่จะต้องตรวจสอบรัฐบาล แต่ในสถานการณ์วิกฤติเช่นนี้ ควรที่จะต้องเลือกความสำเร็จของประเทศมาเป็นตัวตั้งก่อน เพื่อให้แผนการด้านสาธารณสุขเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และระมัดระวังการให้ข่าวที่อาจจะได้คะแนนเสียงทางการเมืองแต่มีผลต่อส่วนรวม นอกจากนี้ยังมีประเด็นข่าวปลอมและการบิดเบือนข่าวสาร เช่น ข้อมูลผิดๆ ที่มีผู้ปล่อยว่าวัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์ได้รับการอนุญาตให้ใช้ในประเทศไทยแล้ว ทั้งที่ไทยยังไม่เคยรับรองให้ใช้กับประชาชนคนไทยเลย ในที่สุดหมอและเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข รวมไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ต้องเสียเวลาชี้แจง แทนที่จะได้เอาเวลาตรงนั้นไปทำหน้าที่ที่สำคัญกว่าในสภาวะเช่นนี้" รองเลขาฯ รัฐมนตรีฝ่ายการเมืองกล่าว
ส่วน พล.อ.ม.จ.จุลเจิม ยุคล หรือท่านใหม่ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า "ทักษิณ" ปล่อยข่าวใน Clubhouse ว่า Pfizer เข้าไทยแล้ว พวกสามนิ้วไปขยายความกันต่อว่าฉีดเฉพาะชนชั้นสูง ผมขอเรียนตามตรงว่า ชนชั้นสูงฉีดวัคซีนที่ชื่อว่า Astra Zeneca พร้อมทำ Swap Test เหมือนกันกับราษฎรในพระราชอาณาจักรนี้ ตัววัคซีน Astra Zeneca ก็ไม่แตกต่างกันกับที่พวกเราฉีดกันเลย ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ อย่าไปหลงเชื่อ เสพข่าวลวง ข่าวเท็จ ข่าวบ่อนทำลายน้ำใจของคณะทำงาน บุคลากร ทางการสาธารณสุข รวมถึงคุณหมอคุณพยาบาลกันเลย ท่านเหล่านี้ทำงานกันหนักแทบมิได้พักผ่อน เพื่อประโยชน์สุขของพวกเราครับ
ขณะที่นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในระลอกที่ 3 อยู่ในขั้นวิกฤติ ประเทศไทยมีประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่จะติดเชื้อมากกว่า 10,000 คน จนถึงหลัก 100,000 คน แต่ข้อจำกัดของการตรวจคัดกรองสามารถทำได้เพียงวันละหลักหลายพันคน ซึ่งการตรวจคัดกรองไม่ทันกับการระบาดของเชื้อไวรัส ในขณะเดียวกันกลุ่มเสี่ยงที่อาจจะพลาดติดเชื้อโควิดเป็นพาหะ แต่ยังไม่มีอาการหรือยังจะตรวจไม่พบเชื้อในการตรวจครั้งแรกนั้น การให้กลับไปกักตัวอยู่กับบ้านอาจจะทำให้ไม่สามารถป้องกันการระบาดได้จริงจังทั้งภายในบ้านและในชุมชนโดยรอบ ดังนั้นการตัดวงจรของการระบาดสามารถดำเนินการโดยหาที่พักที่เป็น Hospital ทั้งหมดให้บุคคลที่แสดงตัวเป็นกลุ่มเสี่ยงอยู่อาศัย เพื่อไม่ให้มีโอกาสเป็นพาหะแพร่เชื้อไปในชุมชนหรือบุคคลอื่น
ด้านนายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานภาค กทม. พรรคเพื่อไทย(พท.) กล่าวว่า สถานการณ์ใน กทม.ขณะนี้น่าเป็นห่วงอย่างมาก ดังนั้นภาครัฐและ กทม.จะต้องแก้ปัญหา โดย 1.ต้องบูรณาการการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง หาผู้รับผิดชอบให้ชัดเจนในแต่ละส่วนงานที่ทำ 2.ต้องเร่งแยกกลุ่มเสี่ยงและผู้ติดเชื้อออกจากประชาชนและชุมชน 3.เร่งการคัดกรองผู้ติดเชื้อในชุมชนใหญ่ๆ 4.รัฐบาลและ กทม.ต้องเปิดใจกว้างให้ภาคเอกชนที่มีความพร้อมเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหา 5.ภาครัฐและ กทม.ควรประสานงานกับคลินิกอบอุ่น (คลินิกหลักประกันสุขภาพ 30 บาท) ซึ่งขึ้นทะเบียนกับ สปสช. ที่มีอยู่เกือบ 200 แห่งทั่วกรุงเทพฯ รวมไปถึงศูนย์ สาธารณสุข กทม. ให้เป็นสถานที่สำหรับตรวจเชื้อและฉีดวัคซีน.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |