ตำรวจคุมตัวโชเฟอร์รถพ่วง 18 ล้อที่คว่ำทับฟอร์จูนเนอร์จนบี้แบน ส่งฟ้องศาลหลังพบแอลกอฮอล์ในร่างกาย ศาลสั่งปรับ 6 พัน พักใช้ใบอนุญาต 6 เดือน ส่วนหัวหน้าโฟร์แมนที่รอดตายปาฏิหาริย์อาการปลอดภัยแล้ว
มีรายงานความคืบหน้ากรณีรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์พลิกคว่ำทับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีขาว หมายเลขทะเบียน 3 กถ 1695 กรุงเทพมหานคร ส่งผลให้นายวรวุฒิ อยู่ญาติมาก อายุ 42 ปี หัวหน้าโฟร์แมนประจำการบินไทย สุวรรณภูมิ ติดอยู่ใต้ซากรถนานกว่า 2 ชั่วโมง แต่ก็รอดตายราวปฏิหาริย์ ที่ย่านลาดกระบัง เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา
ร.ต.อ.วัชรพงศ์ สีขน รองสารวัตรสอบสวน สน.จรเข้น้อย เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุได้สอบปากคำและนำตัวนายณรงค์ วงษ์เพ็ญ อายุ 33 ปี คนขับรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ไปตรวจหาสารเสพติดกับปริมาณแอลกอฮอล์แล้ว ไม่พบสารเสพติด แต่พบปริมาณแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดสูง 49 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งไม่เกินตามที่กฎหมายกำหนดที่ 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ แต่ก็ถือว่าผิดกฎหมายของ พ.ร.บ.ขนส่งอยู่ดี เนื่องจาก พ.ร.บ.ขนส่งกำหนดให้ผู้ขับรถมีปริมาณแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดไม่เกิน 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ดังนั้นจึงส่งตัวนายณรงค์ฟ้องศาลจังหวัดมีนบุรี
ร.ต.อ.วัชรพงศ์กล่าวว่า จากการสอบปากคำและภาพประกอบจากกล้องวงจรปิด นายณรงค์รับสารภาพว่าหลับใน เมื่อมาถึงโค้งจึงตกใจหักเลี้ยวกะทันหัน แต่ยังอ้างว่าเมื่อคืนก่อนเกิดเหตุได้ดื่มเบียร์เพียงขวดเดียว ในส่วนของนายวรวุฒิ อาการปลอดภัย ออกจาก รพ.ลาดกระบังแล้ว แต่นายวรวุฒิได้ทำประกันชีวิตไว้จึงใช้สิทธิ์นอนพักต่อที่ รพ.วิภาราม
ต่อมา ที่ศาลจังหวัดมีนบุรี ถนนสีหบุรานุกิจ พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 11 (มีนบุรี 1) ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายณรงค์ วงศ์เพ็ญ อายุ 33 ปี ชาว จ.อำนาจเจริญ เป็นจำเลย ในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ประจำรถ ขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น กรณีเมื่อวันที่ 27 พ.ค.61 เวลากลางวัน จำเลยซึ่งได้รับใบอนุญาตขับรถบรรทุกของนายทะเบียน จ.กาฬสินธุ์ ได้ขับรถบรรทุกคอนเทนเนอร์ หมายเลขทะเบียน 62-8554 กรุงเทพมหานคร ในขณะเสพสุรา หรือเมาสุรา หรือของเมาอย่างอื่น ไปตามถนนประชาพัฒนา แขวงทับยาว เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นทางสาธารณะ โดยวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายของจำเลยได้ 49 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เกินกว่า 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ตามอัตราที่กฎหมายกำหนด อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย
ชั้นสอบสวนจำเลยให้การรับสารภาพโดยตลอด โจทก์ขอให้ศาลลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43 (2), 160 ตรีฯ พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2550 มาตรา 11 และขอให้พักใช้ใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ ศาลสอบคำให้การจำเลยแล้ว ให้การรับสารภาพโดยดี ศาลจึงพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้องจริง ปรับ 12,000 บาท คำรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงปรับ 6,000 บาท และพักใช้ใบอนุญาตขับรถเป็นเวลา 6 เดือน.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |