การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันพุธที่ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมา ต้องบอกว่า ใช้ระยะเวลายาวระดับน้องๆ มาราธอนทีเดียว

                วาระส่วนใหญ่เน้นหนักไปที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ตลอดจนการถกเรื่องมาตรการเยียวยาประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ

                ต้องบอกว่า รอบนี้มีทั้งมาตรการใหม่ๆ และขยายระยะเวลาช่วยเหลือในมาตรการเก่าๆ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มวงเงิน 2,000 บาท ในโครงการเราชนะ และ ม 33 เรารักกัน โดยจะจ่ายให้สัปดาห์ละ 1,000 บาท จำนวน 2 สัปดาห์ ใช้จ่ายได้ถึงสิ้นเดือน มิ.ย.

                นอกจากนี้ยังมีการวางมาตรการระยะถัดไปเตรียมไว้สำหรับตอนโควิด-19 เริ่มจะบางเบา โดยเฉพาะโครงการมหานิยม “คนละครึ่ง เฟส 3” ที่มาแน่นอน

                พรายกระซิบแถวทำเนียบฯ เมาธ์มอยให้ฟังว่า แต่เดิม “รองพงษ์” สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน ยังไม่อยากให้นำเรื่องมาตรการเยียวยาประชาชนออกมาเปิดเผย แต่อยากให้เผยแพร่ทีเดียวตอน ครม.อนุมัติเรียบร้อยแล้ว เพราะกลัวว่าหากข้อมูลออกไปตอนนี้ประชาชนจะเข้าใจผิด 

                แต่รัฐมนตรีหลายคน ไม่ว่าจะเป็น อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เรื่อยไปถึง ดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นว่าควรเปิดเผยเลย พร้อมกับสนับสนุนให้ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นคนแถลง 

                มันเลยเป็นที่มาว่า หลังประชุม ครม. “บิ๊กตู่” เลยออกมาโซโลเรื่องมาตรการที่จะช่วยเหลือประชาชนเองกับปาก เพื่อยืนยันว่าไม่ได้ทอดทิ้งประชาชน

                แล้วยังมีเรื่องขำๆ ระหว่างประชุม ในช่วงที่ “ธรณี 1” สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม รายงานเนื้องานที่ได้ทำต่อที่ประชุม ปรากฏว่า “บิ๊กตู่” เหลือบไปเห็นว่า หน้ากากของเจ้ากระทรวงตราชั่ง ร่นลงปิดเฉพาะปาก ไม่ได้ปิดจมูก จึงแซวว่าให้ใส่ให้ถูกต้อง

            “เวลาใส่หน้ากากให้ปิดครอบจมูกหน่อยนะครับ ตอนนี้ผมเองก็พยายามจะหาตัวช่วยอยู่ว่าจะทำอย่างไรไม่ให้เวลาที่เราพูดแล้วหน้ากากมันเข้าปากอยู่”

                ทำเอาเสนาบดีที่กำลังเครียดๆ หัวเราะกันลั่นผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์

                นี่ถ้าต่อไป “บิ๊กตู่” แก้ปัญหาหน้ากากเข้าปากเวลาพูดได้ นี่มันนายกฯ จอมนวัตกรรมดีๆ เลยนะเนี่ย หุหุ.

ฌ.เฌอ