'ผู้บรรยายธรรม' วิพากษ์พระรับเงิน บวชเพื่อรวย คฤหัสถ์ให้เงิน ช่วยกันทำลายพุทธศาสนา


เพิ่มเพื่อน    

5 พ.ค.64 - เพจเฟซบุ๊ก ชมรมบ้านธัมมะ มศพ. โดยอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ นักบรรยายธรรม มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา โพสต์ข้อความในช่วงที่มีกระแสพระสงฆ์ผู้มีชื่อเสียงในโซเชียลตกเป็นที่วิจารณ์ถึงความเหมาะสมในเรื่องกิจของสงฆ์ ว่า พระรับเงิน บวชเพื่อรวย คฤหัสถ์ให้เงิน ช่วยกันทำลายพระพุทธศาสนา

ท่าน อ.สุจินต์...การจะเป็นพระภิกษุก็ต้องสละทรัพย์สมบัติทั้งหมดไม่ยินดีในเงินและทองไม่รับเงินและทองด้วย ดั่งเช่นพระพุทธเจ้าทรงสละละทุกสิ่ง แสดงให้เห็นว่าเงินกับพระภิกษุไม่เกี่ยวข้องกันเลยทั้งสิ้นเพราะเหตุว่าสละความยินดีในเงินและทอง พระภิกษุปฏิญาณว่า จะละขัดเกลาในเพศบรรพชิต แต่ตรงกันข้ามกลับมารับเงินทอง

ก่อนบวชมีแต่บาตร แต่พอบวชบาตรเต็มด้วยเงิน รวยหรือยัง ก็บวชเพื่อรวย ไม่ใช่บวชเพื่อละสละกิเลส เพราะฉะนั้นก็เป็นโอกาสที่ยุคนี้ อุบาสก อุบาสิกา เห็นแต่เพียงพระภิกษุเดินไปตามถนน แต่ไม่รู้ว่าพระภิกษุตามพระธรรมวินัยจะต้องประพฤติปฏิบัติอย่างไร ก็เป็นโอกาสอย่างดียิ่งที่จะได้เข้าใจว่าภิกษุตามพระธรรมวินัยที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงที่ถูกต้องคืออย่างไร เมื่อเข้าใจถูกก็จะไม่ให้เงินทองกับพระภิกษุ เพราะทำให้ท่านได้รับโทษต้องอาบัติ
ขออนุโมทนา

พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้าที่ ๙๔๐
พระบัญญัติ
๓๗. อนึ่ง ภิกษุใด รับ ก็ดี ให้รับ ก็ดี ซึ่งทอง เงิน หรือ ยินดีทอง เงิน อันเขาเก็บไว้ให้ เป็นนิสสัคคิยปาจิตตีย์.
ศึกษาธรรมเพิ่มเติมได้ที่ www.dhammahome.com โดย มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา

อ.สุจินต์ ยังได้โพสต์ในคอมเมนท์เพิ่มเติมว่า พระพุทธศาสนาต้องเดินทางสายกลาง ไม่ตึง ไม่หย่อนเกินไป ปัจจุบันพระต้องใช้เงิน

เข้าใจถูก
12. ทางสายกลาง คือ ทางที่ถูกต้อง ทางที่เป็นกุศลธรรม ทางที่ดี มีปัญญา ไม่ใช่ทางที่ชั่ว ทางที่ตึงเกินไป และ ทางที่หย่อนเกินไป คือ ทางที่เป็นอกุศลธรรม ทางชั่ว เพราะฉะนั้น คำของพระพุทธเจ้าที่ตรัสออกมาด้วยพระปัญญาในการบัญญัติสิกขาบท มี ภิกษุไม่รับและไม่ยินดีในเงินและทอง เป็นทางที่ถูก ทางสายกลาง เพราะ เมื่อภิกษุประพฤติปฏิบัติตามแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อไม่ติดข้อง เพื่อละ เพื่อขัดเกลากิเลส และ ไม่ทำให้เกิดความวุ่นวายในสงฆ์ เหมือนปัจจุบันที่ภิกษุรับเงินทองและเกิดความวุ่นวาย แต่ การรับเงินทองด้วยความยินดี ติดข้อง ไม่ต่างจากคฤหัสถ์ ขณะนั้นเป็นกิเลส จะเป็นทางสายกลางไม่ได้ แต่เป็นทางหย่อน ที่มัวเมาเพลินเพลินในกามคุณ มี เงินทอง เป็นต้น เพราะฉะนั้น พระวินัยบัญญัติของพระพุทธเจ้า มีการไม่รับและไม่ยินดีในเงินและทองของพระภิกษุ จึงเป็นทางสายกลาง
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"