เจ้าอาวาสสุดแสบอ้างจะไปตามช่างหอบเงินผ้าป่าสร้างเมรุ 7 หมื่นบาทหายเข้ากลีบเมฆ ญาติโยมสุดช้ำวอนให้เอาเงินบริจาคมาคืนจะไม่เอาเรื่อง บอกลำบากจี้ตำรวจเร่งตามหา บอกลำบากไม่มีที่เผาศพ ต้องขนศพไปไกลวัดหมู่บ้านอื่น ด้านพระลูกวัดชี้เวรกรรมมีจริง ใครทำกรรมใดย่อมได้รับผลกรรมนั้น
    กรณีคณะกรรมการวัด ผู้ใหญ่บ้าน และตัวแทนชาวบ้านกว่า 10 คน ได้มารวมตัวกันที่สำนักสงฆ์บ้านหนองปรือ-โคกตะคร้อ ต.ชุมแสง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เพื่อเรียกร้องให้พระเครือวรรณ ฐาวะโร อายุ 64 ปี ซึ่งปัจจุบันเป็นเจ้าอาวาสของสำนักสงฆ์หนองปรือ นำเงินจำนวน 70,000 บาท ที่ญาติโยมร่วมกันทำบุญทอดผ้าป่าสมบทสร้างเมรุเผาศพกลับมาคืน หลังจากเมื่อวันที่ 28 เม.ย.2564 เจ้าอาวาสบอกให้กรรมการวัดเบิกเงินมาให้ เพื่อจะนำไปจ่ายค่าช่างและซื้ออุปกรณ์ก่อสร้างเมรุ หลังได้เงินแล้วกลับบอกกรรมการวัดว่าจะไปหาหมอที่ รพ.โนนสุวรรณ เสร็จถึงจะแวะตามช่าง แต่ท้ายที่สุดเจ้าอาวาสกลับหายตัวไปพร้อมเงิน 70,000 บาท จนถึงวันที่ 4 พ.ค. ยังไม่กลับมาวัด ติดต่อทางโทรศัพท์ไม่ได้ เชื่อว่าเจ้าอาวาสเชิดเงินทั้งหมดที่ญาติโยมร่วมกันทำบุญทอดผ้าป่าสร้างเมรุหนีไป ก่อนที่ทางคณะกรรมการวัดจะนำหลักฐานเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.นางรอง ให้ช่วยติดตามตัวเจ้าอาวาส เพื่อนำเงินมาคืนให้กับทางวัด หากไม่คืนเงินให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย      
    ความคืบหน้าล่าสุดในการติดตามตัวพระเครือวรรณ ฐาวะโร เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์หนองปรือ ยังไม่พบตัว และเจ้าอาวาสไม่ได้ติดต่อกลับมาทางวัด กลุ่มชาวบ้านร้อนใจ และขอให้ตำรวจช่วยเร่งติดตามอีกทาง ขณะที่โครงการก่อสร้างเมรุเผาศพจะต้องชะลอการก่อสร้างไปก่อนชั่วคราว เพราะไม่มีเงินค่าจ้างช่างและจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์
    ตัวแทนชาวบ้านชุมแสงรายหนึ่งบอกว่า การที่เจ้าอาวาสนำเงินทำบุญหนีไปนั้น มีผลกระทบ ทำให้การก่อสร้างเมรุเผาศพไม่เสร็จตามแผน หากมีคนเสียชีวิตในหมู่บ้านจะต้องนำศพไปเผาที่วัดในหมู่บ้านอื่น ซึ่งระยะทางอยู่ห่างไกลประมาณ 2-3 กิโลเมตร หากมีวัดหรือเมรุในพื้นที่จะสะดวกในการประกอบพิธี ซึ่งทางคณะกรรมการวัด ผู้นำหมู่บ้าน และญาติโยมจะได้หารือเรื่องการหาเงินที่จะมาก่อสร้างต่อไป หากยังไม่ได้เงินคืน แต่หากผู้มีจิตศรัทธาต้องการจะร่วมทำบุญสมทบปัจจัยในการก่อสร้างสามารถติดต่อทางคณะกรรมการวัดได้    
    ด้านพระวิชัย สิระสาโร พระลูกวัด เล่าว่า ก่อนหน้านี้พระเครือวรรณและอาตมาจำวัดอยู่ด้วยกันที่วัดป่าโนนสุวรรณ ก่อนที่ญาติโยมจะไปนิมนต์ให้มาอยู่ที่สำนักสงฆ์แห่งนี้ อาตมาก็มาพร้อมพระเครือวรรณ อยู่มาได้เกือบ 2 พรรษาแล้ว ตอนที่มาอยู่ชาวบ้านก็ศรัทธาและให้ความเคารพพระเครือวรรณ ให้เกียรติท่านว่าเป็นเจ้าอาวาส แม้จะยังไม่มีการแต่งตั้งเป็นทางการ   
    “ที่ผ่านมาพระเครือวรรณก็บริหารจัดการดูแลสำนักสงฆ์หนองปรือเป็นอย่างดี ตนก็ไม่ได้เข้าไปยุ่ง จนเกิดปัญหาพระเครือวรรณหนีไปพร้อมเงินที่ญาติโยมทำบุญผ้าป่าสร้างเมรุ อาตมาก็สงสารชาวบ้าน แต่ก็ไม่รู้จะช่วยยังไง ได้แต่ภาวนาขอให้พระเครือวรรณ นำเงินกลับมาคืน เพื่อจะได้ก่อสร้างเมรุให้เสร็จตามความตั้งใจของญาติโยม จะได้ไม่ต้องไปเผาศพหมู่บ้านอื่น ก็เชื่อว่าเวรกรรมมีจริง ใครทำกรรมใดก็ย่อมได้รับผลกรรมนั้น“ พระวิชัยกล่าว.