ย้ายประเทศ-โควิดรุมทึ้ง ดุลการเมืองยังหนุน "บิ๊กตู่"


เพิ่มเพื่อน    

    สถานการณ์โควิดระบาดรอบสาม ปัญหาความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาล ลามไปถึงประชาชนหมดความหวังและความอดทนจนชวนกันย้ายประเทศหนี ที่ส่งผลตรงมาสู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ นำมาซึ่งการคาดการณ์ว่าอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองได้ทุกเมื่อ

            โดยมีจุดเริ่มจากการแก้ปัญหาการระบาดของโควิดที่ล้มเหลว ได้สะท้อนตัวตนของรัฐบาลผ่านพรรคร่วมรัฐบาล ที่มีเสาหลักคือพรรคพลังประชารัฐ สมทบด้วยพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทยที่เป็นเสาค้ำยันเริ่มสั่นคลอน

            แม้นายกฯ ประกาศ "พ.ร.ก.ฉุกเฉิน" ซึ่งมี ศบค.บัญชาการแก้ปัญหาและขึงพืดโควิดนานเป็นปี แต่กลับปล่อยให้เกิดการแพร่ระบาดซ้ำ โดยมาจากเจ้าหน้าที่รัฐ อาทิ ฝ่ายความมั่นคง ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ปล่อยปละละเลยให้เกิดการแพร่ระบาด จากการปล่อยให้วีไอพีและต่างด้าวในประเทศเปิดบ่อนการพนันจนเกิดคลัสเตอร์ผับบาร์ทองหล่อ รวมถึงการแก้ปัญหาล่าช้าไร้ประสิทธิภาพ อาทิ เตียงไม่เพียงพอ วัคซีนยังฉีดให้ประชาชนไม่ทั่วถึง และไม่เปิดกว้างให้ภาคเอกชนจัดหาอย่างรวดเร็ว นำมาซึ่งการเสียชีวิตจำนวนมาก

            รวมถึงมาตรการช่วยเหลือเยียวยาประชาชน หลัง ศบค.สั่งปิดสถานประกอบการต่างๆ ก็ยังไม่มีการเยียวยาได้ทันท่วงที แม้ภายหลังจะโอนกฎหมาย 31 ฉบับมาไว้ในมือนายกฯ ก็ยังไม่เห็นว่าจะเอาไปใช้ทำอะไร แต่กลับเห็นปัญหาการเมืองระหว่างพรรคพลังประชารัฐและพรรคภูมิใจไทยขึ้นมาแทนที่ โดยมีฝ่ายการเมืองและฝ่ายค้านพยายามยุแยงขยายบาดแผลจนฉกรรจ์

            นอกจากนี้ยังมีประเด็นความขัดแย้งกับพรรคประชาธิปัตย์ หลังนายกฯ มีคำสั่งแบ่งพื้นที่รัฐมนตรีดูแลจังหวัด แต่กลับหมกเม็ดให้ "พลังประชารัฐ" ส่งขุนพลเอกคือ "ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า" รมช.เกษตรและสหกรณ์ และรองหัวหน้า พปชร.ลงไปคุมพื้นที่ภาคใต้ ในจังหวัดนครศรีธรรมราช สงขลา และภูเก็ต ซึ่งเป็นฐานการเมืองสำคัญของพรรคเก่าแก่ จนต้องออกมาโวยวายเพราะไม่พอใจคำสั่งนายกฯ ดังกล่าว ร้อนถึง "บิ๊กตู่" ต้องตัดปัญหาแก้ไขคำสั่งที่เกี่ยวข้องไปในที่สุด

            แต่เรื่องก็เหมือนจะยังไม่จบ เพราะมีกระแสข่าวว่า "ธรรมนัส" จะยังมีหน้าที่รับผิดชอบในพื้นที่ภาคใต้ต่อไป ตอกย้ำด้วยสุดสัปดาห์ที่ผ่านมายังได้ลงพื้นที่ภาคใต้เพื่อแก้ปัญหาราคาพริกตกต่ำ ปาดหน้าพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งกำกับกระทรวงพาณิชย์ที่ลงไปช่วยเหลือเกษตรกรเช่นกัน แม้ทั้งสองฝ่ายออกมาสยบความเกาเหลา และขออย่าให้มองเป็นเรื่องการเมืองก็ไม่มีใครเชื่อ เพราะเรื่องความขัดแย้งระหว่างสองพรรคนี้ไม่ใช่ครั้งแรก

            อีกทั้งยังรับรู้กันดีว่า พปชร.ต้องการสร้างฐานเสียงในภาคใต้เพิ่มขึ้น จากเดิมที่มี ส.ส. 14 คน ไม่นับพรรคภูมิใจไทยที่เดิมมี ส.ส. 8 คน ก็ต้องการเพิ่มเช่นกัน ในยามที่พรรคประชาธิปัตย์อ่อนแอถึงขีดสุด แต่เหนืออื่นใดภารกิจเหล่านี้ท้ายสุด พปชร.ต้องการปูพรมแดงให้ "พล.อ.ประยุทธ์" กลับมาเป็นนายกฯ หลังเลือกตั้งในรอบที่สาม

            ต้องไม่ลืม อีกด้านหนึ่งในสภา พปชร.ก็เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ 5 ประเด็น 13 มาตรา โดยมีสาระสำคัญคือ การแก้ระบบเลือกตั้งเป็นแบบบัตร 2 ใบ แทนบัตร 1 ใบ ซึ่งมี ส.ว. 250 คนให้การสนับสนุน และหากแก้ไขรัฐธรรมนูญสำเร็จ พปชร.ที่มีอำนาจรัฐและกระสุนดินดำในเวลานี้เหนือใคร ก็เชื่อว่าการเลือกตั้งในครั้งต่อไปมีแนวโน้มจะได้ ส.ส.เพิ่มเป็นพรรคใหญ่ ไม่ต่างจากพรรคไทยรักไทยในอดีตที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จโดยไม่ต้องง้อมือ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล ขณะเดียวกันผลพลอยได้ยังลดขนาดพรรค และ ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทยและพรรคก้าวไกล หลังสองพรรคนี้ได้ประโยชน์จากกติกาบัตรเลือกตั้งใบเดียว

            แต่กว่าจะไปถึงจุดนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะลำพังเสียงของ ส.ส.พปชร. และ ส.ว. อาจไม่เพียงพอและเกิดการยอมรับ แต่ควรจะต้องได้รับเสียงหนุนจากพรรคร่วมรัฐบาลและฝ่ายค้านว่าจะยอมรับแผนสืบทอดอำนาจเช่นนี้หรือไม่

            ไม่นับเสียงสังคมในเวลานี้ที่กำลังจับจ้องและสิ้นหวังกับระบบการเมือง และเบื่อหน่าย พล.อ.ประยุทธ์ที่ครองอำนาจมานานถึง 7 ปี แต่ยังไม่สามารถปฏิรูปประเทศได้เลย นอกจากกระชับอำนาจให้ตัวเองและพวกพ้อง

            โดยมีภาคประชาชนจัดเวทีปราศรัยขับไล่รัฐบาลทุกสัปดาห์ รวมทั้งล่าสุดปรากฏการณ์ผ่านเว็บไซต์ change.org ที่ตั้งแคมเปญว่า "ส่งเสียงแสดงพลังให้ พล.อ.ประยุทธ์ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี" และที่กำลังฮือฮาในโซเชียลมีเดีย มีการตั้งกลุ่มเฟซบุ๊กที่มีชื่อว่า "ย้ายประเทศกันเถอะ" เพื่อแสดงความไม่พอใจต่อการบริหารประเทศของ พล.อ.ประยุทธ์ โดยมีประชาชนเข้าร่วมเกินครึ่งล้านไปแล้ว

            ด้วยสถานการณ์ที่บีบคั้น "พล.อ.ประยุทธ์" จะเลือกวิธีไหน หาทางออกแบบใด...  แต่ไม่ว่าจะเลือกทางไหน สุดท้าย พปชร.ก็ยังมีความได้เปรียบ แม้การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะไม่สำเร็จ แต่หากยังใช้กติกาเดิม พปชร.ก็ยังถือแต้มเหนือกว่าผู้เล่นคนอื่นอยู่ดี.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"