4 พ.ค.64-นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Rangsiman Rome - รังสิมันต์ โรม ว่าบริหารประเทศยังไง ให้คนไทยเป็นแสนๆคนหาทางย้ายประเทศหนี
ตอนนี้ในกลุ่ม #ย้ายประเทศกันเถอะ ในFacebook มียอดคนเข้าไปเป็นสมาชิกกลุ่มมากกว่า 660,000 รายแล้ว ซึ่งจำนวนประชากรขนาดนี้ แทบจะเป็นจังหวัดจังหวัดหนึ่งเลยทีเดียว หรือเอาง่ายๆมากกว่าประชากรของประเทศอย่างลักเซมเบิร์กเสียอีก
ซึ่งเท่าที่ผมสังเกต มีคนหลากหลายอาชีพและช่วงวัย ตั้งแต่ระดับนักเรียนนักศึกษา แรงงงานช่างฝีมือ พนักงานบริษัท ข้าราชการ แพทย์พยาบาล รวมถึงคนไทยในต่างประเทศจำนวนมากที่มีการตั้งแฮชแท็กทีมประเทศต่าง ๆ มาให้ข้อมูลแนวทางการย้ายไปใช้ชีวิต รวมถึงสภาพสังคมและคุณภาพชีวิตกันแบบจัดเต็ม
สมมติเล่น ๆ ถ้าคนเหล่านี้ย้ายประเทศไปสำเร็จจริงๆ ประเทศเราจะขาดแคลนแรงงานและข้าราชการไปหกแสนกว่าคน คำถามคือเราจะทำยังไงกับช่องว่างที่หายไปนี้?
ทุกวันนี้บางอาชีพก็แทบจะไม่เพียงพออยู่แล้ว หากขาดช่องว่างตรงนี้จากวัยทำงาน คนหนุ่มสาวไปอีก สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือคนที่เหลือต้องรับหน้าที่ในการขับเคลื่อนประเทศต่อด้วยภาระที่หนักหนาขึ้น ห้องเช่ากี่ห้องที่จะกลายเป็นห้องว่าง ภาษีที่ลดลงจากจำนวนประชากร ที่ไม่สามารถผลิตทดแทนได้ทัน และอาจจะเหลือแค่คนจนคนเจ็บคนแก่ในประเทศ
นี่ท่านบริหารประเทศยังไงกันครับถึงทำให้คนจำนวนมากหมดหวังในประเทศตัวเองได้ขนาดนี้?
บทสัมภาษณ์ของผู้ก่อตั้งกลุ่มน่าสนใจอยู่ช่วงตอนหนึ่ง คือประเทศไทยทุกวันนี้ ผู้นำไม่ให้ตั้งคำถาม ไม่ให้เสนอความเห็น ไม่ให้สู้เรียกร้องอะไรเลย จะดึงดันพาประเทศเดินไปตามความคิดของตัวเอง ที่สวนกับความเป้นสากลโลก วัฒนธรรมยัดเยียดความคิดที่กดทับไว้ว่าประเทศไทยดีที่สุด กำลังถูกทำลายลงจากการเปรียบเทียบผ่านข้อมูลที่ไหลเป็นเขื่อนแตกในกลุ่มสนทนาที่ว่า ประเทศเราตอนนี้ ยังห่างไกลจากประเทศพัฒนาแล้วในอีกหลายๆด้านเหลือเกิน
ผมเชื่อจริงๆว่าคนไทยรักประเทศไทยทุกคน แต่ความรักมันไม่เพียงพอในการมีชีวิตนะครับ ปากท้อง เศรษฐกิจ สวัสดิการการดูแล เหมือนความรัก ที่รักอย่างเดียวมันไม่พอ มันต้องดูแลเอาใจใส่กัน ไม่ใช่กดขี่ให้สำนึกบุญคุณกันราวกับว่าเป็นของตาย ทั้งที่ประชาชนทุกคนต่างก็ดูแลประเทศในบทบาทตัวเองเสมอ แต่พวกเขากลับหมดหวังในประเทศไทยจนจะยอมแพ้กันแล้ว
เปรียบเสมือนตอนนี้ ผู้นำประเทศคือคนรักที่กำลังตบตีประชาชน ปากก็พูดว่ารักประเทศไทยสิ ประเทศไทยดีที่สุดแล้ว ไปที่ไหนก็ไม่ดีเท่านี้หรอก ฉันทำงานหนักขนาดไหนเห็นไหมทำไมไม่รักกัน ปากพูดไปมือก็ตบตีไป ทวงบุญคุณไป
มันไม่ใช่แล้วครับ ประเทศนี้มันเคยมีหวังมากกว่านี้ ตอนที่ไม่ได้อยู่ในการดูแลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่ทำให้คนไทยหมดหวังที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย
ผมยังเชื่อมั่นว่า เรายังต้องการกำลังคนอีกมากในการขับเคลื่อนประเทศไปสู่ความก้าวหน้า และถ้าเสียบุคลากรหลายๆท่านไป ประเทศนี้คงเสียโอกาสอีกมากในการไปสู่อนาคต เพียงแต่ตอนนี้ เรามีอุปสรรคบางอย่างที่ต้องรื้อทิ้งไปก่อน และหากทำไม่สำเร็จ ประเทศไทยอาจจะเหลือแค่ซากปรักหักพังในทุกมิติ โดยฝีมือของคนที่เรายอมแพ้ และยกประเทศนี้ให้กับคนไม่กี่คนไปปู้ยี่ปู้ยำ
สุดท้าย พวกเขาไม่ได้หมดหวังในศักยภาพของประเทศตัวเองนะครับ แต่เพราะมีคนแบบพลเอกประยุทธ์และพวกนั่งคร่อมคนทั้งประเทศเอาไว้
ทางออกของเรื่องนี้ จริงๆแล้ว คนหกแสนกว่าคนไม่ควรต้องย้ายออกนอกประเทศหรอกครับ
เอาคนแบบพลเอกประยุทธ์และคณะออกไป
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |