'เหวง' ผสมโรง 'ย้ายประเทศกันเถอะ' เคยเกิดเมื่อ 60 ปีที่แล้วในประเทศไทย


เพิ่มเพื่อน    

4 พ.ค.64 - นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ดังนี้

ย้ายประเทศกันเถอะ 

เคยเกิดเมื่อหกสิบปีที่แล้วในประเทศไทย

ประเทศไทยเมื่อราวปี 2505

ในยุคของเผด็จการทหารสฤษดิ์-ถนอม-ประภาส

คนจบแพทย์มากกว่า 90%  มุ่งหน้าไปใช้ชีวิตที่อเมริกากันทั้งนั้นครับ เพราะพวกเขามีความเห็นว่า โอกาสของชีวิตที่อเมริกา  ดีกว่าในประเทศไทยเยอะมาก 

ในระยะเวลาต่อมา  ด้วยการต่อสู้ที่ดุเดือดแหลมคมมาก ทางการเมือง ระหว่างเผด็จการกับประชาธิปไตย  ทำให้กระแสความคิดเรื่อง รับใช้ประชาชนได้มีโอกาสเติบโตขึ้นมา คำขวัญที่ติดริมฝีปากของเยาวชนในสมัยนั้นคือ

"แท้จริงสหายคิด ต้องตั้งจิตและยึดถือ รับใช้ประชาคือ ปลายทางที่เล่าเรียน"

"สุดท้ายปลายทางที่เราเรียนก็มุ่งเพื่อรับใช้ประชาชน" 

ทำให้กระแสการทิ้งประเทศไปอยู่ต่างประเทศจางหายไป

ใช่ครับ การต่อสู้ทางการเมือง ระหว่าง เผด็จการกับประชาธิปไตย นี่แหละที่ทำให้ เกิดการกระแสนักเรียนนักศึกษาไทย ต้องรับใช้ประชาชนคนไทยที่ถูกกดขี่ขูดรีดจนถึงที่สุด

ภายหลังจากที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนชนะในแผ่นดินใหญ่ 

พคจ.ได้พลิกโฉมการบริการทางการแพทย์สาธารณสุขของโลกอย่างรุนแรงโดยเกิด "หมอตีนเปล่า" จำนวนมหาศาลขึ้นมาในทุกหมู่บ้านของจีน   

เพื่อสร้างหลักประกันให้กับประชาชนจีนทุกคนที่มีจำนวนหลายร้อยล้านคน ได้รับการดูแลทางสุขภาพคุณภาพใกล้เคียงกันอย่างทั่วหน้า  

ได้รับความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ ส่งผลสะเทือนไปทั่วโลก

นักศึกษาแพทย์ไทยที่รับเอาแนวคิด "รับใช้ประชาชน"

ได้ผลักดันให้เกิดมาตรการที่คนจบแพทย์ต้องรับใช้ประชาชนในชนบท ไม่ใช่ทิ้งประเทศไปเรียนอเมริกาหรือต่างประเทศ

จึงเป็นที่มาของ  "แพทย์รับทุน และต้องชดใช้ทุนภายหลังจบแพทย์สามปีในชนบท"

ปัจจุบันนี้เกิด สภาพการณ์ทางการเมืองที่กดขึ่ข่มเหงเข่นฆ่าคนเห็นต่าง  แยกขั้วทางการเมือง แยกความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ จากการกระทำของพวกอนุรักษ์นิยมขวาจัด อำนาจนิยมเผด็จการทหาร ทำการจับกุมคุมขังเข่นฆ่าคนเห็นต่างอย่างมืดหน้าตามัวไม่คำนึงถึงความชอบธรรมใดๆทั้งสิ้น 

โอกาสทางชีวิต โอกาสทางเศรษฐกิจในสังคมไทย หม่นหมองลงโดยสิ้นเชิง

จึงทำให้เป็นเรื่องธรรมดามากที่ คนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถมีศักยภาพทั้งหลาย ไม่ต้องการที่จะจมปลักในสังคมเช่นนี้อีกต่อไป 

จะไปก่นด่าว่าพวกเขาไม่รักประเทศ เป็นพวกชังชาติ ไม่ได้อีกต่อไป

เพราะพวกผู้มีอำนาจที่กุมอำนาจประเทศนี้มาอย่างยาวนานนั่นแหละ ได้ทำลายความสดใสรุ่งเรืองของประเทศนี้ไปแล้ว 

และกำลังกระทำย่ำยีให้มันแย่ยิ่งไปกว่านี้

ในที่สุดเมล็ดพืชพันธุ์ใหม่ๆที่สดใสรุ่งโรจน์มีศักยภาพ ก็จะไหลออกจากประเทศนี้่ไป  ทิ้งไว้ให้เหลือแต่ความหดหู่เศร้าหมองโรยรา.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"