4 พ.ค.64-   นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย วิพากษ์วิจารณ์เรื่องการให้เอกชนร่วมจัดหาวัคซีนทางเลือก โดยนายเสกสกลฯยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ปิดกั้นภาคเอกชน และเรื่องนี้ประธานกรรมการ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้ชี้แจงไปแล้วว่าบริษัทผู้ผลิตวัคซีนได้ประกาศแล้วว่า จะขายวัคซีนให้กับรัฐบาลของแต่ละประเทศเท่านั้น รวมถึงจากการเจรจาร่วมกับบริษัทผู้ผลิตวัคซีนพบว่า มีความพร้อมในการส่งมอบวัคซีนในช่วงไตรมาส 4/2564 ซึ่งเป็นกำหนดเดียวกับรัฐบาล ที่จะนำเข้าวัคซีนจำนวนมากเข้ามา เอกชนจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องจัดหาวัคซีนเอง

ส่วนการหาวัคซีนมาฉีดให้กับประชาชนนั้น รัฐบาลไม่ได้ผูกขาดเพียง 2 บริษัทเท่านั้น เพราะนอกจากแอสตราเซเนกา และซิโนแวค แล้ว อย.ยังได้อนุมัติ Johnson & Johnson นำเข้าโดย บริษัทแจนเซ่น-ซีแลก จำกัด และมีวัคซีนที่อยู่ระหว่างดำเนินการอีก  3 ราย

"ขอหมอชลน่านอย่าเอาแต่เรื่องเดิมๆมากล่าวโจมตีนายกฯ รัฐบาล เพราะไม่ใช่ข้อเท็จจริง และในขณะนี้นายกฯและ รัฐบาล ก็ต้องการความร่วมมือจากทุกฝ่ายในการแก้ไขปัญหา ดังนั้นก็ขออย่าทำอะไร พูดอะไร ให้ให้ประชาชนเกิดความสับสนได้"

นายเสกสกล กล่าวว่านอกจากนี้หากหมอชลน่านไม่มีประเด็นที่จะนำมากล่าวโจมตีนายกฯ รัฐบาลแล้ว ก็ควรที่หยุดได้แล้ว และเอาเวลาไปทำประโยชน์ให้ประชาชนจะดีกว่า เห็น ส.ส. หลายคนในพรรคเพื่อไทยก็เริ่มทำแล้ว ขณะเดียวกันการออกมาพูดซ้ำๆแบบนี้ ประชาชนได้ฟังแล้วจะเบื่อหน่ายหมอชลน่านได้ พร้อมขออย่าเห็นแก่ประโยชน์ทางการเมืองของตัวเองเท่านั้น ขอให้เห็นแก่ประชาชนและประเทศชาติบ้าง ยิ่งออกมาพูดมากในข้อมูลที่เป็นเท็จ ไม่มีมูลความจริง ประชาชนจะยิ่งมองว่า ไม่ใช่หมอรักษาคน แต่เป็นหมอความชอบหาเรื่องมากกว่า อยากให้รักษาภาพพจน์ความเป็นหมอด้วย อย่าเอาแต่ความเป็นนักการเมืองที่ชอบตีกินอย่างเดียว จะทำให้หมอชลน่านเสื่อมเสียได้.