คณะกรรมาธิการยุโรปเสนอคำแนะนำใหม่ต่อชาติสมาชิกสหภาพยุโรป 27 ประเทศ ที่จะอนุญาตให้นักเดินทางจากภายนอกอียูเดินทางเข้ายุโรปได้ในเดือนหน้า แต่ต้องเป็นผู้ที่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบถ้วนอย่างน้อย 14 วันก่อนเดินทางถึง และเป็นวัคซีนที่ผ่านการอนุมัติของอียูแล้ว
เอเอฟพีรายงานว่า ข้อเสนอของคณะกรรมาธิการยุโรปเกิดจากความประสงค์ให้ยุโรปเปิดพรมแดนรับนักเดินทางที่ผ่านเกณฑ์กำหนด เพื่อช่วยเหลืออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวฤดูร้อนที่สำคัญต่อชาติยุโรป "ถึงเวลาพลิกฟื้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของอียู และการก่อมิตรภาพข้ามพรมแดนได้อย่างปลอดภัย" อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ทวีต
แถลงการณ์ของคณะกรรมาธิการยุโรปเมื่อวันจันทร์ที่ 3 พฤษภาคม เป็นข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลชาติสมาชิกอียู ซึ่งแต่ละชาติสามารถพิจารณาตัดสินใจได้เองในประเด็นด้านสุขภาพ ให้ "ยกเลิกข้อจำกัดว่าด้วยการเดินทางที่ไม่จำเป็นสำหรับบุคคลที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วในการเดินทางเข้าอียู"
นอกจากนี้ ยังต้องการให้เปิดรับนักเดินทางจากประเทศที่สามารถควบคุมสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ได้ดี โดยอ้างอิงจากเกณฑ์จำนวนผู้ติดเชื้อเฉลี่ยต่อ 100,000 คนในช่วงเวลา 2 สัปดาห์ ซึ่่งเจ้าหน้าที่อียูผู้หนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการร่างข้อเสนอนี้เปิดเผยว่า เกณฑ์ดังกล่าวจากปรับเพิ่มจาก 25 รายต่อ 100,000 ราย เป็น 100 รายต่อ 100,000 ราย
เจ้าหน้าที่ผู้นี้กล่าวว่า ต่อไปนี้ชาติสมาชิกอียูอาจไม่ต้องเลือกรับนักเดินทางจากแค่ประมาณ 10-15 ประเทศ แต่จะสามารถรับนักเดินทางจากทั่วโลกที่มีมากถึง 100 ประเทศ หากสถานการณ์ยังพัฒนาไปในทิศทางบวกอยู่
ส่วนผู้ที่ได้รับวัคซีนครบแล้ว ซึ่งต้องรับโดสสุดท้ายอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนมาถึงอียูเพื่อให้ภูมิคุ้มกันทำงานเต็มที่ ยังต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของแต่ละประเทศ เช่นการตรวจเชื้อไวรัสโควิดไม่ว่าก่อนหรือหลังเดินทางมาถึง หรือการกักกันโรค
ข้อเสนอนี้ยังรวมถึงทางเลือก "การหยุดฉุกเฉิน" ที่เผื่อไว้สำหรับชาติสมาชิกเพื่อปิดรับนักเดินทางจากประเทศที่ "ตรวจพบไวรัสสายพันธุ์น่ากังวลหรือสายพันธุ์ที่ต้องให้ความสนใจ" ได้โดยทันที
ปัจจุบันมีไวรัส 4 ชนิดที่ผ่านการรับรองขององค์การยาแห่งยุโรป (อีเอ็มเอ) แล้ว ได้แก่ วัคซีนของไบออนเทค/ไฟเซอร์, โมเดอร์นา, แอสตร้าเซนเนก้า และจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน (เจแอนด์เจ) ทั้งหมดยกเว้นเจแอนด์เจต้องฉีด 2 โดส ส่วนวัคซีนชนิดอื่นๆ นั้นอาจเพิ่มในบัญชีได้ในภายหลัง โดยอีเอ็มเอกำลังเริ่มพิจารณาวัคซีนสปุตนิก 5 ของรัสเซีย แต่ยังไม่มีการประเมินวัคซีนของจีนซึ่งใช้อยู่ในหลายประเทศ
แถลงการณ์ของคณะกรรมาธิการยุโรปกล่าวว่า วัคซีนชนิดอื่นๆ อาจถูกเพิ่มในรายชื่อที่จะผ่านการอนุมัติให้เดินทางเข้าอียูได้ หากวัคซีนนั้นอยู่ในรายชื่อวัคซีนที่องค์การอนามัยโลกอนุมัติการใช้งานฉุกเฉิน
รายงานกล่าวว่า ณ เวลานี้อียูแนะนำชาติสมาชิกห้ามนักเดินทางโดยทั่วไปเข้าอียู ยกเว้นการเดินทางด้านธุรกิจที่จำเป็น ซึ่งชาติสมาชิกส่วนใหญ่ยึดตามคำแนะนำนี้ โดยมีเพียง 7 ประเทศที่อยู่ในรายชื่อสามารถเดินทางแบบไม่ใช่กิจธุระจำเป็นเข้าอียูได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับชาติสมาชิกจะพิจารณายกเว้นข้อจำกัดเอง "โดยลำดับ" ได้แก่ ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, รวันดา, สิงคโปร์, เกาหลีใต้ และไทย เนื่องจากตัวเลขจากประเทศเหล่านี้เผยว่าสามารถควบคุมการติดเชื้อโควิดได้
ส่วนจีนซึ่งอยู่ในลิสต์ดังกล่าวด้วยเช่นกันนั้น อียูกำหนดว่าจะผ่อนคลายข้อกำหนดด้านการเดินทางต่อเมื่อจีนตอบแทนในแบบเดียวกัน ซึ่งจีนยังไม่ผ่อนคลายให้ในเวลานี้
องค์ประกอบสำคัญของข้อเสนอนี้คือ "ใบรับรองสีเขียวแบบดิจิทัล" ที่อียูวางแผนไว้เป็นใบผ่านสำหรับการเดินทางของผู้ที่ผ่านการฉีดวัคซีนแล้ว, ผู้ที่ผลตรวจโควิดล่าสุดเป็นลบ หรือมีภูมิคุ้มกันภายหลังหายจากการติดเชื้อโควิด อียูมีแผนจะเริ่มออกใบอนุญาตนี้สำหรับการเดินทางภายในอียูในเดือนหน้า โดยมีเป้าหมายจะขยายถึงนักเดินทางจากนอกอียูด้วยในท้ายที่สุด.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |