สมอ.จ่อคุมเข้มคุณภาพเหล้ากลั่น เป็นมาตรฐานบังคับ ชี้ข้อกำหนดเดิมใช้มา 20 ปีล้าสมัยไม่ครอบคลุม หลังสรรพสามิตรื้อใหม่ ส่งผลคุณสมบัติทางเคมีไม่ตรงกัน หวั่นนักดื่มเพลินรับสารเมทานอลเกินลิมิตอันตรายถึงชีวิต
เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม แหล่งข่าวจากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยว่า สมอ.อยู่ระหว่างพิจารณายกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมสุรากลั่น หรือ มอก.2088-2544 เป็นมาตรฐานบังคับ จากปัจจุบันเป็นภาคสมัครใจ เนื่องจากมาตรฐานเดิมใช้มานานแล้วตั้งแต่ปี 44 อาจล้าสมัย ไม่ครอบคลุมและไม่สะท้อนกับสภาพการณ์ปัจจุบันที่ไทยมีวัตถุดิบจากสุรานำเข้าที่หลากหลายมากขึ้น และมากกว่าผู้ผลิตในประเทศที่มีกฎหมายควบคุมไว้ และที่ผ่านมากรมสรรพสามิตได้แก้ไขมาตรฐานเกี่ยวกับคุณสมบัติทางเคมีของสุรากลั่นบางรายการ แตกต่างไปจากมาตรฐานเดิมของ สมอ. ซึ่งมีบางรายการ สมอ.เห็นว่าหากผู้บริโภคดื่มเข้าสู่ร่างกายมากเกินไปจะส่งผลอันตรายต่อสุขภาพได้ หากได้ข้อสรุปแล้ว สมอ.จะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (กมอ.) พิจารณาต่อไป
“ตอนนี้ข้อกำหนดมาตรฐานคุณภาพสุรากลั่นระหว่าง สมอ. กับประกาศของกรมสรรพสามิตยังมีข้อแตกต่างกัน ส่งผลให้เกิดปัญหาสองมาตรฐานในการดำเนินงานของทั้งผู้ประกอบการและผู้ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาสรรพสามิตได้แก้ไขรายการปริมาณเมทิลแอลกอฮอล์ให้อยู่ที่ 1,000 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เดซิเมตร จากเดิมที่กำหนดเป็นมาตรฐานเดียวกันอยู่ที่ 420 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เดซิเมตร โดยให้เหตุผลว่าปริมาณดังกล่าวอยู่ในระดับที่ร่างกายรับได้ ประกอบกับมาตรฐานที่เคยถือปฏิบัติร่วมกันมากับ สมอ. ตาม มอก.2088-2544 เขียนไว้ตั้งแต่ปี 44 อาจล้าสมัย จึงมีความเป็นไปได้ที่ สมอ.อาจนำเสนอให้สินค้ากลุ่มนี้เป็นมาตรฐานบังคับ” แหล่งข่าวระบุ
อย่างไรก็ตาม จากผลการศึกษาทางการแพทย์พบว่า หากผู้บริโภคได้รับปริมาณเมทิลแอลกอฮอล์หรือเมทานอลเข้าสู่ร่างกายสูงมากเกินไป อาจมีผลต่อทางเดินอาหาร เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง อาการที่ค่อนข้างจำเพาะ ได้แก่ พิษทางตา ผู้ป่วยอาจมีอาการตาพร่า ตามัว แพ้แสง เห็นภาพขาวจ้าไปหมด ร่วมกับอาการอื่นๆ เช่น ปวดเวียนศีรษะ อ่อนเพลีย สับสน มึนงง ในบางรายที่เป็นมาก อาจมีอาการชักหรือหัวใจเต้นผิดจังหวะ หากผู้ป่วยที่ได้รับเมทานอลในระดับสูงและเข้ารับการรักษาไม่ทันมักเสียชีวิต ขึ้นอยู่กับสุขภาพร่างกายแต่ละคน
นอกจากนี้ กรมสรรพสามิตได้ยกเลิกข้อกำหนดหลายรายการต่างจากมาตรฐานของ สมอ. เช่น สารฟูเซลออยส์และเอสเทอร์ในสุราแช่ จากข้อกำหนดของ สมอ. ตาม มอก.2089-2544 กำหนดให้สารฟูเซลออยล์มีอยู่ในสุราแช่ปริมาณไม่เกิน 2,500 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เดซิเมตร สารเอสเทอร์มีปริมาณไม่เกิน 1,200 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เดซิเมตร และสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ที่กรมสรรพสามิตแก้ไขเป็น 400 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เดซิเมตร จากที่กำหนดไว้ 300 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เดซิเมตร
สำหรับนิยามสุรากลั่นตามที่กรมสรรพสามิตกำหนด ได้แก่ สุราขาว สุราผสม สุราปรุงพิเศษ สุราพิเศษและสุรากลั่นชุมชน ขณะที่นิยามที่ สมอ.กำหนดรายละเอียดยังรวมถึงวอดก้า ยิน วิสกี้ บรั่นดี รัม มีข้อกำหนดตาม มอก.2088-2544 เกี่ยวกับคุณลักษณะทางเคมีให้มีสารฟูเซลออยล์ไม่เกิน 5,500 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เดซิเมตร เฟอร์ฟิวรัลไม่เกิน 50 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เดซิเมตร เอสเทอร์คิดเป็นเอทิลแอซีเทตไม่เกิน 1,200 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เดซิเมตร แอลดีไฮด์คิดเป็นแอซีทัลดีไฮด์ไม่เกิน 160 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เดซิเมตร เอทิลคาร์บาเมตไม่เกิน 400 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เดซิเมตร.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |