ตลาดรองเท้าชะลอต่อเนื่อง "โกลด์ซิตี้" แตกไลน์สู่ธุรกิจโลจิสติกส์ ทุ่มงบเพิ่มขนาดคลังสินค้า พร้อมทำตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่ ควบเจาะโรงงานอุตสาหกรรม หวังสร้างยอดเติบโต 10%
นายสุรศักดิ์ จินาพันธ์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท โกลด์ซิตี้ ประเทศไทย จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรองเท้า แบรนด์ GoldCity, Fast, Chang, GC, Gold Sport เปิดเผยว่า บริษัทฯมีแผนที่จะแตกไลน์จากกธุรกิจเดิม คือตลาดรองเท้าไปสู่การเป็นผู้ให้บริการขนส่งหรือโลจิสติกส์ เพื่อเป็นการขยายธุรกิจและสร้างรายได้ให้กับองค์กรอย่างยั่งยืนมากขึ้น พร้อมกับลดความเสี่ยงจากการทำตลาดแค่รองเท้าอย่างเดียว โดยที่ผ่านมามีพันธมิตรอย่างเคอรี่ เอ็กซ์เพรสที่ทำงานร่วมกันอยู่แล้ว และยังจะมีการขยายพันธมิตรเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ทั้งนี้บริษัทได้ลงทุนไปมากกว่า 70 ล้านบาท ในการสร้างระบบคลังสินค้าที่มหาชัย พื้นที่มากกว่า 7,000 ตารางเมตร จากเดิมมีเพียงคลังเดียวพื้นที่ 5,000 ตารางเมตร รองกับการขยายธุรกิจดังกล่าว ขณะนี้แล้วเสร็จและได้เริ่มทดลองการทำธุรกิจโลจิสติกส์บ้างแล้ว แต่คาดว่าจะจริงจังและเต็มที่ได้ภายในปี 2562
สำหรับกลุ่มเป้าหมายของบริษัทฯจะจับกลุ่มผู้ประกอบการที่หลากหลาย แต่จะเน้นไปที่ผู้ประกอบการรายเล็กหรือระดับเอสเอ็มอี ครอบคลุมไปยังผู้ประกอบการที่ทำตลาดออนไลน์ที่ต้องจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้า ที่ไม่ต้องเสียเวลาและไม่ต้องพบกับความยุ่งยากในการจัดส่งสินค้าเอง
นายสุรศักดิ์ กล่าวว่า ตลาดรวมรองเท้านักเรียนมูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท แม้จะเป็นรายได้หลักของบริษัทฯ แต่ที่ผ่านมาตลาดรวมแทบจะไม่มีการเติบโตเลย หรือเติบโตต่ำมาก เนื่องจากอัตราการเกิดเด็กใหม่น้อยลง และการแข่งขันก็มีความรุนแรง มีผู้ประกอบการในตลาดเป็นจำนวนมาก ทั้งจากแบรนด์ของไทย และแบรนด์ด่างประเทศที่ผลิตมาจากจีนเป็นหลัก เข้ามาแย่งตลาดด้วยการทำราคา บริษัทฯต้องปรับตัว นอกจากปรับกลยุทธ์การตลาดของรองเท้าแล้ว ยังต้องขยายธุรกิจใหม่สร้างฐานรายได้ใหม่ด้วย ซึ่งยอดขายรวมบริษัทฯปีที่แล้วประมาณ 1,000 กว่าล้านบาท เติบโตเพียง 2% เท่านั้น
ส่วนแผนการทำธุรกิจรองเท้า จากนี้จะเน้นการทำตลาดเชิงกิจกรรมมากขึ้น รวมทั้งการเปิดตัวสินค้าใหม่ และเน้นนวัตกรรม ตลอดจนการขยายช่องทางใหม่และกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆเพิ่มขึ้น โดยปีนี้ตั้งบการตลาดไว้ถึง 30 ล้านบาท เพื่อทำตลาดเต็มที่ จะเน้นไปในการใช้สื่อโซเชียลมีเดียเพื่อตอบรับกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ จากเดิมที่เน้นโฆษณาประชาสัมพันธ์ในสื่อแบบเดิม และเน้นกิจกรรมมากขึ้นด้วย และตั้งเป้าหมายปีนี้จะมีอัตราการเติบโต 10%
ขณะที่ปัจจุบันบริษัทเป็นผู้นำอันดับ 3 ในตลาดรวมรองเท้าผ้าใบนักเรียนโดยมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 25% ซึ่งรองเท้าผ้าใบนักเรียนคือตลาดหลักของบริษัทฯที่มีสัดส่วนรายได้มากถึง 70% แยกเป็นตลาดนักเรียน 50% และตลาดของโรงงานอุตสาหกรรม 20% ส่วนอีก 30% เป็นรองเท้ากลุ่มอื่น ๆ เช่น รองเท้าแฟชั่น รองเท้าทำงาน รองเท้าลำลอง รองเท้าแตะ รองเท้าเซฟตี้ รองเท้าผจญเพลิง รองเท้ากีฬา รองเท้าบูธ ถุงเท้า เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ขยายตลาดในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมด้วยในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา เพื่อให้พนักงานโรงงานนำไปใส่ในการปฎิบัติงาน ถือว่าเป็นตลาดที่เติบโตดีมาก ปัจจุบันก็มีผู้ประกอบการหลายแบรนด์เข้าสู่ช่องทางนี้เหมือนกัน บริษัทฯมีทีมงานในการเจาะตลาดนี้โดยเฉพาะ นอกจากนี้ก็มีช่องทางออนไลน์ที่เริ่มทำมาแล้ว1-2ปี พบว่าตลาดโตต่อเนื่อง แม้ว่าจะยังมีสัดส่วนรายได้น้อยอยู่ก็ตาม โดยมีเคอรี่เอ็กซ์เพรสเป็นพันธมิตรจัดส่งสินค้าในช่องทางออนไลน์ให้เรา ขณะที่ช่องทางจำหน่ายหลักที่เป็นออฟไลน์ ทั้งโมเดิร์นเทรด และเทรดดิชันนัลเทรด มีรวมกันมากกว่า 10,000 จุด
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |