1 พ.ค.64 - นายแถน และนางมาน ชุมหิรัญ สองสามี ภรรยา ชาวบ้านโคกใหญ่ ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ได้ออกมาวิงวอนให้ชาวเน็ตและประชาชนทั่วไปช่วยแจ้งเบาะแส หากพบเห็นนายอาจองค์ ชุมหิรัญ อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นหลานชาย หลังจากนายอาจองค์ ได้เดินทางไปทำงานที่กรุงเทพฯตั้งแต่ปี 2555 แล้วหายไปไม่เคยติดต่อหรือกลับมาบ้านอีกเลย เป็นเวลาเกือบ 10 ปี
ซึ่งหลังจากหายออกจากบ้าน นายมีชัย ชุมหิรัญ อายุ 82 ปี ผู้เป็นพ่อ ก็ได้ไปแจ้งความกับ ร.ต.อ.พิทักษ์ สิงห์คำ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองบุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2558 เพื่อให้ช่วยตามหา ทั้งยังพยายามตามหาด้วยตัวเองมาตลอด ถึงขนาดเคยบอกว่าหากใครตามหาลูกชายเจอจะให้วัวที่เลี้ยงไว้ 1 ตัว ตอบแทนเพราะอยากเจอหน้าลูกชายมาก
กระทั่งเมื่อปี 2564 เริ่มมีอาการป่วยด้วยโรคปอดประกอบกับสังขารที่แก่ชราก็เข้า-ออกโรงพยาบาลเป็นประจำ และเมื่อเดือน เม.ย.2564 ได้เกิดเป็นลมที่ศาลากลางจังหวัดขณะไปทำธุระ จนมีพลเมืองดีนำส่ง รพ.บุรีรัมย์ ตอนนี้ในกระเป๋าของคุณตามีชัย พบเพียงกระดาษที่จดเบอร์โทรของ ร.ต.อ.พิทักษ์ สิงห์คำ พนักงานสอบสวน ที่นายมีชัยเคยไปแจ้งความให้ช่วยตามหาลูกชายที่หายเท่านั้น ไม่สามารถติดต่อลูกหรือญาติได้
ทาง รพ.จึงติดต่อไปยังพนักงานสอบสวนคนดังกล่าว เพื่อให้ช่วยประสานญาติ จนน้องชายตามีชัย ทราบและไปดูแลที่ รพ. กระทั่งเมื่อวันที่ 21 เม.ย.64 คุณตามีชัยได้เสียชีวิตลงโดยที่ไม่ทันได้เห็นหน้าลูกชายที่ตามหามาเกือบ 10 ปี และญาติได้ช่วยกันประกอบพิธีฌาปนกิจศพเมื่อวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา
นายแถน อายุ 74 ปี ซึ่งเป็นน้องชายคุณตามีชัย จึงอยากฝากถึงหลานชายหากยังมีชีวิตหรือได้เห็นภาพข่าวนี้หรือหากใครพบเห็นนายอาจองค์ หลานชาย ก็ให้ช่วยแจ้งข่าว เพื่อให้นายอาจองค์กลับมาทำบุญกระดูกให้กับผู้เป็นพ่อด้วย ทั้งอยากจะให้หลานกลับมาดูแลบ้าน ที่ดินและทรัพย์สินของพ่อที่เหลือด้วย เพราะมีลูกชายเพียงคนเดียว ซึ่งก่อนที่ตามีชัยจะล้มป่วยและเสียชีวิตก็ได้ตั้งเสาและซื้ออุปกรณ์มาไว้เพื่อเตรียมสร้างบ้านหลังใหม่ให้กับลูกชาย แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เห็นหน้าลูกชาย
ด้าน ร.ต.อ.พิทักษ์ สิงห์คำ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองบุรีรัมย์ ระบุว่า หลังจากที่คุณตามีชัยแจ้งความไว้เมื่อปี 2558 ว่าลูกชายหายออกจากบ้านติดต่อไม่ได้อยากให้ช่วยตามหาให้ด้วย เพราะเป็นห่วงลูกชายและอยากให้กลับมาดูแลบ้านและทรัพย์สินที่เหลือ เพราะเหลือลูกชายเพียงคนเดียว หลังรับแจ้งก็ได้ส่งข้อมูลคนหายไปยังศูนย์คนหาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งประสานขอข้อมูลไปยังที่ที่นายอาจองค์ เคยทำงานเป็น รปภ. และ รพ.ที่มีสิทธิรักษาประกันสังคม แต่ก็ไร้วี่แวว
กระทั่งเมื่อประมาณปี 2563 มีใบสั่งของนายอาจองค์ ส่งมาที่บ้านว่า ขับรถจักรยานยนต์ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร ที่เขต สน.สำราญราษฎร์ จึงได้ให้เพื่อนที่ สภ.พลับพลาชัย กรุงเทพฯ ช่วยไปตรวจสอบให้แต่ก็ไม่มีเบาะแส ส่วนใบสั่งก็ไม่มีคนไปชำระเงิน จากข้อมูลต่างๆเชื่อว่านายอาจองค์น่าจะยังมีชีวิตอยู่แต่ไม่ทราบสาเหตุว่าทำไมไม่ติดต่อหรือเดินทางกลับบ้านก็อยากฝากถึงคนที่พบเห็นช่วยแจ้งเบาะแสเพราะอยากให้นายอาจองค์ กลับมาทำบุญให้กับพ่อตัวเอง และกลับมาดูแลบ้านและมรดกที่เหลือด้วย เพราะมีลูกชายแค่คนเดียว
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |