กอ.รมน.ภาค 4 พร้อมประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานีแจงด่วน ชี้คลิปเสียงที่ปล่อยในโลกออนไลน์หวังสร้างความหวาดกลัว “ผบ.ฉก.ปัตตานี” ให้โอกาส เผยมีอีกเจอหนักแน่ ยิง 2 ศพยะลายังไม่สรุปเรื่องใด
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 พฤษภาคม ที่สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี, นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี พร้อมด้วย พ.อ.ธนาวีร์ สุวรรณรัตน์ รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้ชี้แจงต่อคลิปเสียงที่ถูกปล่อยในโลกออนไลน์ ที่ระบุให้คนมุสลิมใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ห้ามเข้าเมืองและอย่าออกนอกบ้านในวันที่ 28-30 พ.ค. เพราะจะมีการก่อเหตุการณ์
โดยได้ชี้แจงเพื่อไม่ให้เกิดความสับสนและหวาดกลัวกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ดังนี้ 1.ภาพข่าวที่ปรากฏ เป็นความพยายามปล่อยข่าวลือเพื่อสร้างความสับสนและหวาดกลัวกับพี่น้องประชาชน สร้างความกระทบกระเทือนต่อการปฏิบัติศาสนกิจของพี่น้องมุสลิม ในห้วงเดือนรอมฎอนอันประเสริฐ กอ.รมน. 4 ส่วนหน้า ขอให้ทุกคนเชื่อมั่นในมาตรการรักษาความปลอดภัย และอย่าได้ตื่นตระหนกกับข่าวลือดังกล่าว 
“จะใช้มาตรการทางกฎหมายเข้าดำเนินการกับผู้ก่อเหตุทุกราย เช่นเดียวกับการก่อเหตุป่วนเมือง ลอบวางระเบิดตู้เอทีเอ็ม เมื่อวันที่ 20 พ.ค. ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมมาได้แล้วหลายราย ขณะนี้อยู่ระหว่างขยายผลเพิ่มเติมการกระทำของกลุ่มคนเหล่านี้ ซึ่งไม่เคยได้แสดงความรับผิดชอบต่อความเดือดร้อนของประชาชน มุ่งแต่ก่อเหตุเพื่อประโยชน์ของกลุ่มตนเท่านั้น” คำชี้แจงระบุ
       และ 2.มีกลุ่มบุคคลได้พยายามแอบอ้างบิดเบือนคำสอนของศาสนา โดยเฉพาะความพยายามปล่อยข่าวว่าจะก่อเหตุในวันดังกล่าว ถือเป็นการจงใจขัดขวางการประกอบศาสนกิจของพี่น้องมุสลิม ถือเป็นคนบาปที่จะต้องถูกลงโทษ และจะไม่ได้สัมผัสแม้แต่กลิ่นของสวรรค์
ด้านนายแวดือราแมย้ำว่า การปล่อยคลิปเสียงนั้นทุกคนอย่ากังวล เดือนนี้เป็นเดือนรอมฎอน จงมั่นใจในสิ่งที่ดี ข่าวไม่ดีไม่สามารถทำให้แตกแยกหรือเกิดความรุนแรง จึงขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้ใส่ใจและหวาดกลัวกับการปล่อยข่าวลือดังกล่าว ขอให้มุ่งมั่นปฏิบัติศาสนกิจในห้วงเดือนรอมฎอนตามหลักศาสนาอิสลามที่ถูกต้อง และร่วมกันสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืน
        ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 26 พ.ค. หลังจากคนร้ายก่อเหตุลอบวางระเบิดตู้กดเงินเอทีเอ็มของธนาคารออมสิน ที่ ต.ปูยุด อ.เมืองฯ จ.ปัตตานี และที่อื่นรวม 3 จุดแล้ว ได้มีการปล่อยคลิปเสียงออกมาเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์กันอย่างแพร่หลาย โดยมีคลิปหลายประเภท ทั้งเสียงคลิปใช้ภาษาท้องถิ่น และคลิปเสียงสำเนียงภาคใต้ตอนบน
          พล.ต.จตุพร กลัมพสุต ผบ.ฉก.ปัตตานี เผยว่า ใครก็ตามที่สร้างสถานการณ์เพิ่มเติมข้อความก่อให้เกิดความขัดแย้ง หรือสร้างสถานการณ์ ทางเจ้าหน้าที่จะติดตามในสื่อดังกล่าว และจะดำเนินการอย่างจริงจัง ในข้อหาตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ จึงขอเตือน และถ้าก่อเหตุอีกครั้ง เราจะเข้าดำเนินการตามกฎหมายทันทีกับบุคคลที่สร้างสถานการณ์ 
“เรารู้หมดแล้วว่าใครทำอะไรตรงไหน ดังนั้นถ้าไม่เชื่อฟัง ยังสร้างสถานการณ์อีก ก็จะต้องเอาจริงบ้าง”พล.ต.จตุพรกล่าว
    วันเดียวกัน ในกรณีเหตุการณ์เมื่อวันที่ 26 พ.ค.เวลา 22.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บันนังสตา จ.ยะลา ได้รับแจ้งมีคนร้ายใช้อาวุธสงครามอาก้าและปืนพกสั้นขนาด 11 มม. กราดยิงนายมะรอพี ลาเกาะ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 134 หมู่ 3 ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา และ น.ส.ยูนัยน๊ะห์ มะรานอ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 95/3 หมู่ 3 ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา บ้านที่เกิดเหตุเสียชีวิตทั้งสองคน 
ล่าสุด พ.ต.อ.ธีรพจน์ ยินดี ผกก.สภ.บันนังสตา และ พ.ต.ต.วีระยุทธ มุณี สว.สืบสวน ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ภ.จว.ยะลา (ศรศึก-ศรชัย) นำกำลังทหารพราน กรมทหารพรานที่ 33 และฝ่ายปกครอง เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง ซึ่งที่เกิดเหตุชาวบ้านได้ช่วยกันนำศพผู้เสียชีวิตขึ้นรถกระบะ เพื่อนำไปฝังตามพิธีศาสนาอิสลาม ณ กุโบร์ของหมู่บ้าน และเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบภายในบ้าน พบรอยเลือดกองใหญ่หลายจุด และพบปลอกกระสุนปืนอาก้า 2 ปลอก,  ปลอกกระสุนปืนขนาด 11 มม. จำนวน 5 ปลอก ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เก็บไว้เพื่อนำไปตรวจสอบที่มาของอาวุธปืน
       จากการสอบสวนทราบว่า นายมะรอพี ลาเกาะ ผู้ตายเป็นญาติกับ น.ส.ยูนัยน๊ะห์ มะรานอ เจ้าของบ้านผู้ตายอีกคน โดยได้มาพูดคุยรวมกันจำนวน 3 คน  คือนายมะรอพี น.ส.ยูนัยน๊ะห์ และสามีของ น.ส.ยูนัยน๊ะห์ โดยมีลูกสาววัย 10 เดือนนอนอยู่ในเปลข้างๆ  น.ส.ยูนัยน๊ะห์ หลังจากคุยกันพอได้เวลา สามีของยูนัยน๊ะห์ขอตัวไปกรีดยาง ระหว่างที่ผู้ตายทั้งสองอยู่ในบ้าน ได้มีคนร้ายอาศัยความมืดแอบเข้ามาทางด้านหลังบ้าน จำนวน 2 คน ใช้อาวุธปืนอาก้าและปืนพกสั้นขนาด 11 มม. เข้ามาประกบยิงทั้งสองจนเสียชีวิตไป แล้วได้หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว  
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนประวัติของผู้ตายทั้งสองว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้าการขายยาเสพติดในหมู่บ้านหรือไม่อย่างไร หรือมีเรื่องส่วนตัวกับผู้ใด หรือการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ ซึ่งต้องนำปลอกกระสุนที่ตรวจพบในที่เกิดเหตุ ทั้งของปืนอาก้าและปืนพกสั้น ว่ามีประวัติเคยก่อเหตุในพื้นที่ใดบ้าง และแต่ละเหตุเกี่ยวกับความไม่สงบในพื้นที่หรือไม่อย่างไร.