ภาพดวงเมือง
พระอาทิตย์จร (1) ที่มังกรสวนกับพระราหูจร (8) ที่กรกฎระหว่าง 14 มกราคม-13 กุมภาพันธ์ 2561
พระราหูจร (8) เดินอยู่ในราศีกรกฎรออยู่
พระอังคารจร (3) เริ่มเดินในราศีพิจิกทำมุมร่วมธาตุกับพระราหูจร (8) วันที่ 17 มกราคม 2561 เป็นต้นไป
พระอังคารจร (3) เล็งใส่พระอังคารดวงเดิมของเมือง (๓)
พฤหัสบดีจร (5) ที่ราศีตุล/มฤตยูจรสถิตราศีเมษ
ปรากฏการณ์โชคเทวฤทธิ์ หรือเทวดาให้โชคในดวงเมืองรอบนี้ที่เริ่มมาตั้งแต่ 16 ธันวาคม 2560 เป็นต้นมาเกิดปรากฏการณ์ที่เห็นได้ชัด 2 อย่างคือสหรัฐปรับสถานะไทยพ้นจากบัญชีต้องจับตามองเป็นพิเศษปมทรัพย์สินทางปัญญาเหลือแค่ระดับจับตามอง และเป็นระยะที่ตลาดหุ้นโดดเด่นเป็นพิเศษทำลายทุกสถิติความสูงได้เห็นดัชนีพันแปดร้อยจุดนับตั้งแต่ซื้อขายกันครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน พ.ศ.2518 เป็นต้นมา
ต่อไปนี้หากเมืองจะมีโชคก็เป็นโชคธรรมดาจนกว่าโชคเทวฤทธิ์จะกลับมาอีกรอบระหว่าง 15 มิถุนายน-17 กรกฎาคม 2561
และตั้งบัดนี้เป็นต้นไปมีเกณฑ์ทางโหรที่น่าจับตาที่จะเกิดในเมืองที่น่าสนใจคือ
1.ระหว่าง 14 มกราคม-13 กุมภาพันธ์ 2561 (ก่อน-หลังประมาณ 7 วัน) อาจจะมีการออก-ปรับ-เปลี่ยน-ปลด-ถอด-ตั้งบุคคลสำคัญ (พระอาทิตย์จร-สวนกับพระราหูจร) อีกทั้งอิทธิพลของคำว่า..พอแล้ว..ยังคงอยู่ (เริ่มประมาณ 1 ธันวาคม 2560)
2.ปรากฏการณ์พระราหูจร (8) ที่ราศีกรกฎร่วมธาตุกับพระอังคารจรที่ราศีพิจิกระหว่าง 17 มกราคม-4 มีนาคม 2561 อาจนำพายุเข้ามาคือ
ตามหลักโหรด้านอุตุนิยมวิทยาที่ครูโหรอุตรภัทร์ หรืออาจารย์บรรเทา จันทรศรผู้ล่วงลับให้ไว้คือพระอังคาร (๓) เป็นดาวธาตุลมกรดเป็นธาตุลมเล็กหรืออนุกธาตุ ขณะที่พระราหู (๘) ก็เป็นดาวธาตุลมแต่เป็นลมเพลมพัดถือเป็นธาตุลมใหญ่หรืออธิกธาตุ เมื่อใดก็ตามที่ดาวสองดวงทำมุมร่วมธาตุกันจะส่งผลให้เกิดพายุขึ้นได้
ในอดีตที่ผ่านมาการร่วมธาตุกันดาวทั้ง 2 ดวงนี้เคยส่งผลให้เกิดพายุเข้าไทยแล้วหลายครั้งเช่นรูทที่ขึ้นฝั่งสุราษฎร์ธานีเมื่อ 26 พฤศจิกายน 2513-เบกกี้เข้าไทยในระดับดีเปรสชันปลายสิงหาคม 2533-เฟรดเข้าไทยที่นครพนม 17 สิงหาคม 2534-ฟอร์เรสที่เข้าไทยทางนครศรีธรรมราช, สุราษฎร์ธานี และพังงาเมื่อ 15 พฤศจิกายน 2535-ลินดาที่เข้าไทยทางทับสะแกประจวบคีรีขันธ์เมื่อ 4 พฤศจิกายน 2540 เพียงแต่จะแตกต่างกันในจุดที่พายุเกิดและเข้าไทยตามความแตกต่างของแต่ละราศีที่ดาวทั้งสองเดินอยู่เท่านั้น
และในระยะอันใกล้นี้การร่วมธาตุของดาวทั้ง 2 ดวงนี้กำลังจะเกิดขึ้นคือ
ก.ขณะนี้พระราหูจร (8) ยังเดินอยู่ในราศีกรกฎ ธาตุน้ำ
ข.ครั้นวันที่ 17 มกราคม 2561 เป็นต้นไปพระอังคารจร (3) จะยกจากราศีตุลเข้าราศีพิจิกธาตุน้ำอีก ทำมุมร่วมธาตุกับพระราหูจร ซึ่ง จะเป็นสื่อให้เกิดพายุใหญ่ เข้าไทยได้
ค.ประกอบกับพระอาทิตย์จร (๑)-พระพุธจร (4)-พระศุกร์จร (6) เดินคลอเคลียอยู่ใกล้กันอันจะเป็นสื่อของการเกิดฝนไปถึงปลายเดือนมกราคม-ยาวไปถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2561 อีกต่างหาก
สรุปคือด้วยลีลาการเดินของดาวจรดังกล่าว ผู้เขียนสงสัยว่าตั้งแต่ประมาณกลางเดือนมกราคม 2561 เป็นต้นไป จะมีพายุเข้าไทยหรือไม่ แม้จะเป็นทางภาคใต้ก็ตาม เพราะน่าจะใกล้หมดฤดูฝนแล้ว แต่ก็ยังอยากจะเขียนถึงไว้ เผื่อจะมีปรากฏการณ์พายุประหลาดปลายฤดูให้ แปลกใจเล่นได้ตามอาการของมฤตยูเจ้าของอาเพศที่ทับลัคนาเมืองอยู่
3.หรือไม่หากไม่มีพายุเข้า ระหว่างกลางเดือนมกราคม-ประมาณ 4 มีนาคม 2561 ก็ขอให้ระมัดระวังภัยอื่นๆ อันเนื่องจากปรากฏการณ์ที่จะอุบัติเนื่องจากดาว 2 ดวงนี้คือ
3.1.ภัยทางอากาศ หรือจากที่สูง
3.2.ภัยจากลม แก๊ส ไฟ ควัน การระเบิด ที่จะปรากฏเป็นข่าวโดดเด่นขึ้นในเมืองอันเป็นผลเนื่องจากพระอังคารจรที่ราศีพิจิกเล็งใส่พระอังคารดวงเดิมดวงเมือง (๓) ที่ราศีพฤษภเพิ่มเข้ามาด้วยตามโฉลก..ภุมโม ภุมมะ เล็งกันนั้นจะเกิดการกลีกลำภัย อันตรายราวี ห่อนมีสุขใจ เรือนโรงร้านไฟ และไฟจะฟอนอาตมา…
3.3.กลุ่มบุคคลที่ควรระวังตัวในระหว่างนั้นคือคนสำคัญในเมืองในข่ายที่พระอังคารเป็นตัวแทนอยู่คือ ทหาร ตำรวจ นายช่าง วิศวกร หมอผ่าตัด หมอฟัน นักกีฬา นักเคมี หรือคนสำคัญที่มีอาชีพดุๆ ฯลฯ เพราะราศีพิจิกที่พระอังคารเดินอยู่นี้คือภพที่แปดหรือมรณะดวงเมืองด้วย หรือไม่เราก็อาจจะได้เห็นความขัดแย้งอย่างน่าจับตามองในหมู่คนเหล่านี้
ทางโหรผู้เขียนก็หวังว่าพฤหัสบดีจรหัวหน้าเทวดาประจำเมืองที่กำลังคุ้มชะตาเมืองอยู่อย่างเจิดจ้าที่ราศีตุลจะทำให้เรื่องร้ายมากเป็นลดความร้ายแรงลง และเรื่องที่ไม่ร้ายมากก็อาจจะไม่เกิดเลยก็ได้.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |