'ไทยแอร์เอเชีย'ปรับโครงสร้างใหญ่ได้เงินทุนใหม่เติม 6 พันล้านฝ่าวิกฤติรับเหลือบินแค่ 15 ลำ


เพิ่มเพื่อน    

 

30 เมษายน 2564 นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV และสายการบินไทยแอร์เอเชีย เปิดเผยถึงแผนการปรับโครงสร้างกิจการไทยแอร์เอเชีย (TAA) และ AAV ผ่านระบบ Zoom ว่า ในช่วงเวลาเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ พยายามดูแลตัวเอง และดิ้นรนทุกวิถีทาง เพื่อให้บริษัทฯ เดินต่อไปได้ ซึ่งปลายปีที่แล้วเที่ยวบินเริ่มกลับมาดีขึ้นจนเกือบจะปกติ แต่เมื่อเจอการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รอบ 2 ทำให้เที่ยวบินลดลงมาครึ่งหนึ่ง ก่อนที่โควิด-19 รอบ 3 จะลดลงไปอีกจนปัจจุบันใช้เครื่องบินให้บริการเพียงแค่ 15 ลำ จากเดิม 40 ลำ หายไปประมาณ 60% ผู้โดยสารใช้บริการประมาณ 70-80 คนต่อเที่ยวบิน

นายธรรศพลฐ์ กล่าวต่อว่า ถึงเวลาแล้วที่บริษัทฯ จำเป็นต้องทำอะไรที่มีความยั่งยืน จึงได้ปรับโครงสร้างกิจการขึ้นใหม่ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้แก่บริษัทฯ และเตรียมพร้อมให้ไทยแอร์เอเชียสามารถกลับมาบินได้ เมื่อรัฐบาลเปิดประเทศ โดยบริษัทฯ จะได้รับสินเชื่อจากนักลงทุนรายใหม่ในรูปแบบของสัญญาเงินกู้แปลงสภาพ หรือหุ้นกู้แปลงสภาพปลอดดอกเบี้ย มูลค่าประมาณ 3,100 ล้านบาท คาดว่าจะได้เงินส่วนนี้ประมาณปลายเดือน มิ.ย.64 และอีกส่วนจะได้จากนักลงทุนใหม่ ประมาณ 3 พันล้าน ประมาณปลายปี 64 หรือต้นปี 65 ทำให้จะได้เงินทุนรวมประมาณ 6,000 ล้านบาท มั่นใจว่าเงินก้อนใหม่นี้จะเพียงพอสำหรับพยุงการบริหารจัดการได้ในระยะเวลา 3 ปีหลังจากนี้

นายธรรศพลฐ์ กล่าวอีกว่า บริษัทฯ มีแผนจะนำ TAA เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แทน AAV เพราะมองว่า TAA ซึ่งบริษัทปฏิบัติการโดยตรงจะสร้างโอกาสให้นักลงทุนได้ดีกว่า AAV ซึ่งเป็นบริษัทโฮลดิ้ง อย่างไรก็ตามเงินในส่วนนี้จะนำไปใช้เป็นทุนหมุนเวียนบริหารจัดการในการทำการบิน และชำระหนี้ที่ครบกำหนดเป็นงวดๆ คาดว่าไตรมาสที่ 1 (ม.ค.-มี.ค.65) จะสามารถเริ่มทำการบินเส้นทางระหว่างประเทศได้ ซึ่งเมื่อนั้นกระแสเงินสดของบริษัทฯ ก็จะดีขึ้น ปัจจุบันการทำการบินเส้นทางภายในประเทศเกือบจะไม่ขาดทุนกำไรแล้ว หากได้ทำการบินต่างประเทศ คาดว่าในปี 66 จะกลับมาทำกำไรได้ โดยเวลานี้บริษัทฯ เตรียมพร้อมแล้ว เมื่อเปิดประเทศเมื่อใดก็สามารถกลับมาบินได้อย่างแข็งแรงทันที

นายธรรศพลฐ์ กล่าวต่อว่า หลังจากเปิดประเทศแล้ว ต้องเร่งอัตราการเจริญเติบโต เพราะเชื่อว่ามีหลายสายการบินที่จะยังไม่สามารถทำการบินได้ จึงต้องใช้โอกาสนี้เพื่อให้ส่วนแบ่งการตลาดของไทยแอร์เอเชียเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามในระหว่างนี้จะพยายามบริหารจัดการไม่ให้ขาดทุนเกิน 200 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งการที่มีเงินเพิ่มเข้ามาจะทำให้เราหลุดพ้นช่วงโควิดนี้ไปได้ ส่วนการขอสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) จากรัฐบาลนั้น เวลานี้สะกดไม่เป็นแล้ว หากรัฐบาลยังพร้อมจะช่วยเหลือก็จะรับเหมือนเดิม เพราะดอกเบี้ยถูก แต่ขณะนี้ในเมื่อรัฐบาลยังไม่มีข้อสรุปเรื่องนี้ และเรายังนั่งงอมืองอเท้าอยู่บริษัทก็คงจะเจ๊งไปแล้ว ความอดทนมีจำกัด จึงไม่ได้รอรัฐบาล เพราะหากจะช่วยเหลือคงช่วยนานแล้ว

นายธรรศพลฐ์ กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันไทยแอร์เอเชียทำการบินอยู่ 15 ลำ และในสิ้นปีนี้มีแผนคืนเครื่องบินอีก 6 ลำ ก็จะเหลือเครื่องบิน 54 ลำ ซึ่งหากโควิดคลี่คลายคงก็จะใช้เครื่องบินครบทุกลำอยู่แล้ว แต่จำนวนชั่วโมงในการบินอาจจะน้อยลงจากปกติ สำหรับแผนภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ เปิดรับนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนแล้วเข้า จ.ภูเก็ต ที่จะเริ่มในเดือน ก.ค.นี้นั้น เบื้องต้นทราบว่ารัฐบาลยังคงนโยบายเดิม แต่ส่วนตัวเชื่อว่าน่าจะต้องขยับออกไปอีกเล็กน้อย เพราะขณะนี้ชาวบ้านในภูเก็ตยังไม่ได้รับวัคซีนทุกคนเลย ขณะที่ในส่วนของไทยแอร์เอเชียพร้อมรองรับแล้ว และพร้อมทำการบินจากภูเก็ตไปยังทุกประเทศ โดยประเทศใดพร้อมให้ทำการบิน ไทยแอร์เอเชียก็จะทำการบินทันที


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"