ช่วงนี้แม้ คสช.ยังไม่ปลดล็อกให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมการเมืองได้ แต่พรรคการเมือง กลุ่มการเมืองทั้งหน้าใหม่-หน้าเก่า ก็ต้องเร่งเครื่องขยับใส่เกียร์เดินหน้ากันแล้ว เพราะหากช้าไปกว่านี้อาจไม่ทันการ ยิ่งเมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าร่าง พ.ร.บ.การได้มาซึ่ง ส.ว.ไม่ขัด รธน. ขณะเดียวกันร่าง พ.ร.บ.การเลือกตั้ง ส.ส. ศาลก็มีคิววินิจฉัยชี้ขาดพุธที่ 30 พ.ค.นี้ ซึ่งถึงตอนนี้หลายฝ่ายมองว่าโอกาสจะไม่ขัด รธน.น่าจะมีเปอร์เซ็นต์สูงกว่าขัด แต่ถึงหากขัดจริงการแก้ไขก็คงใช้เวลาไม่นานเพราะรัฐบาลและ สนช. เตรียมการไว้หมดแล้ว
หากเป็นไปตามนี้ จึงมีแนวโน้มที่โรดแมปการเลือกตั้งจะไม่ขยับออกไปไกลเกินกว่า ก.พ.62 หลายพรรคเลยต้องรีบขยับเตรียมการเลือกตั้ง
เห็นได้จากที่ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคตามแนวทาง กปปส.ต้องรีบส่งคนไปยื่นจดแจ้งตั้งพรรค รวมพลังประชาชาติไทย เมื่อวันศุกร์ที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา และมีข่าวจะแถลงทิศทางพรรคอย่างเป็นทางการในวันอาทิตย์ที่ 3 มิ.ย.ที่สวนลุมพินี จากเดิมที่วางไว้ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากคีย์แมนหลายคนที่ร่วมตั้งพรรคยังไม่พร้อม
ขณะที่เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 พ.ค. พรรคอนาคตใหม่ก็มีการประชุมใหญ่สมาชิกพรรคเพื่อก่อตั้งพรรคและเลือกกรรมการบริหารพรรค
โดยในที่ประชุมสมาชิกได้ร่วมกันเลือกกรรมการบริหารพรรค โดยมีสมาชิกร่วมประชุมทั้งสิ้น 474 คน และมีมติเลือก ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรค ให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ด้วยมติ 473 เสียง และงดออกเสียง 1 เสียง
ส่วนตำแหน่งอื่นๆ มีดังนี้ 1.ปิยบุตร แสงกนกกุล เป็นเลขาธิการพรรค 2.กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ เป็นรองหัวหน้าพรรคคนที่ 1 3.ชำนาญ จันทร์เรือง เป็นรองหัวหน้าพรรคคนที่ 2 4.พล.ท.พงศกร รอดชมภู เป็นรองหัวหน้าพรรคคนที่ 3 5.รณวิต หล่อเลิศสุนทร เป็นรองหัวหน้าพรรคคนที่ 4 6.นิติพัฒน์ ต้มไพโรจน์ เป็นเหรัญญิกพรรค 7.ไกลก้อง ไวทยาการ เป็นนายทะเบียนสมาชิกพรรค 8.พรรณิการ์ วานิช เป็นโฆษกพรรค
ตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคสายภูมิภาค ได้แก่ 1.สุรชัย ศรีสารคาม เป็นกรรมการบริหารพรรคภาคกลาง 2.เยาวลักษณ์ ภักดีประภา เป็นกรรมการบริหารพรรคภาคเหนือ 3.ขัน ภักดีศรี เป็นกรรมการบริหารพรรคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4.เจนวิทย์ ไกรสินธุ์ เป็นกรรมการบริหารพรรคภาคใต้
ขณะที่ตำแหน่งอื่นๆ ได้แก่ 1.สุนทร บุญยอด เป็นกรรมการบริหารพรรคสายเครือข่ายผู้ใช้แรงงาน 2.วิภาพรรณ วงษ์สว่าง เป็นกรรมการบริหารพรรคสายเครือข่ายเยาวชนรุ่นใหม่ 3.จารุวรรณ ศรัณย์เกตุ และ นิรามาน สุไลมาน เป็นกรรมการบริหารพรรค
รายชื่อกรรมการบริหารพรรคที่น่าสนใจมีเช่น สุรชัย ศรีสารคาม เป็นอดีตปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ที่เป็นอดีตลูกหม้อกระทรวงมหาดไทย โตมาจากสายงานด้านงานทะเบียนของกรมการปกครอง จนเป็นผู้อำนวยการสำนักงานบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง ที่คุมงานด้านทะเบียน-บัตรประชาชนทั้งหมดของกระทรวงมหาดไทย จากนั้นก็ไปเป็นรอง ผวจ.หลายแห่ง เช่น ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี จนในยุครัฐบาลเพื่อไทยก็ได้ขึ้นเป็นผู้ว่าฯ ครั้งแรกที่จังหวัดนครนายก เป็นได้ปีกว่าก็ย้ายข้ามห้วยไปเป็นปลัดไอซีทีแบบที่หลายคนคาดไม่ถึง แต่ก็เป็นที่รู้กันดีว่านายสุรชัยมีความใกล้ชิดกับแกนนำเพื่อไทยหลายคน ทั้งจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตหัวหน้าพรรค อดีต รมว.มหาดไทย, คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รวมถึงยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ
เลยทำให้เมื่อ คสช.ทำรัฐประหาร จึงไม่รอด โดนย้ายเข้ากรุสำนักนายกรัฐมนตรีไปตามระเบียบ
ขณะที่ พล.ท.พงศกร รอดชมภู รองหัวหน้าพรรค ก็คืออดีตรองเลขาธิการ สมช.ที่รู้กันดีว่าทำงานใกล้ชิดกับ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการ สมช. จนทำให้ถูกย้ายออกจากรองเลขาธิการ สมช.ในยุค คสช. ไปเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ ซึ่งที่ผ่านมา พล.ท.พงศกรก็ออกมาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล คสช.อย่างต่อเนื่องในช่วงหลัง
สำหรับ ชำนาญ จันทร์เรือง รองหัวหน้าพรรค อีกคนหนึ่ง เป็นอดีตข้าราชการกองสารนิเทศ กระทรวงมหาดไทย ทำงานในมหาดไทยมาหลายสิบปี จนกระทั่งมีการเปิดศาลปกครองเมื่อปี 2542 จึงโอนย้ายไปอยู่ศาลปกครอง ก่อนที่ต่อมาจะเริ่มบทบาทนักวิชาการ นักสิทธิมนุษยชนอยู่ที่เชียงใหม่ เช่น การเคลื่อนไหวกับกลุ่มนักวิชาการมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน รวมถึงเคยเป็นประธานแอมเนสตี อินเตอร์เนชันแนล ประเทศไทยอยู่ช่วงหนึ่ง ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวและเสนอแนวคิดเรื่อง จังหวัดจัดการตัวเอง ผ่านแนวทาง การเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดโดยตรงทั่วประเทศ มาตลอด จนถูกนายธนาธร โทรศัพท์ชักชวนให้มาร่วมงานกับพรรคอนาคตใหม่ เพื่อทำเรื่องการกระจายอำนาจ
ส่วนกรรมการบริหารพรรคคนอื่นๆ อย่าง เจนวิทย์ ไกรสินธุ์ กรรมการบริหารพรรคภาคใต้ พบว่าเป็นน้องชาย สิริวัฒน์ ไกรสินธุ์ อดีต ส.ว.นครศรีธรรมราช ที่ใกล้ชิดกับแกนนำเพื่อไทยอย่างสุธรรม แสงประทุม ก่อนหน้านี้เคยลงสมัครนายกฯ อบจ.นครศรีธรรมราช ส่วน น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรค เป็นอดีตผู้ประกาศข่าววอยซ์ทีวี
สำหรับทิศทางพรรคอนาคตใหม่ ปิยบุตร แสงกนกกุล ว่าที่เลขาธิการพรรค ยืนกรานว่าพรรคอนาคตใหม่มุ่งทำการเมืองระยะยาว ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจที่ตั้งขึ้นเพื่อลงเลือกตั้งเป็นครั้งคราว โดยพรรคจะทำงานทางการเมืองทั้งฤดูเลือกตั้งและไม่ใช่ฤดูเลือกตั้ง เพื่อผลักดันนโยบายของพรรคไปสู่ประชาชน
ส่วน ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ว่าที่หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พูดถึงเส้นทาง-อนาคตพรรคไว้ว่า แนวคิดหลักของพรรคอนาคตใหม่คือการทำงานทางความคิด ไม่ว่าพรรคจะเป็นพรรคฝ่ายค้านหรือรัฐบาลก็สามารถทำงานทางความคิดได้ทั้งสิ้น
“ในวันที่เรามีอำนาจทางการเมือง เราจะนิรโทษกรรมกลุ่มคนที่โดนคดีการเมืองในยุค คสช. เพราะคนเหล่านี้คือคนหนุ่มสาวที่มีความฝัน และเป็นประชาชนธรรมดาที่ใช้สิทธิเสรีภาพที่ตนเองพึงมีแสดงออกในการชุมนุม ซึ่งเรื่องเหล่านี้ควรเป็นเรื่องที่ได้รับการรับรองเป็นพื้นฐานของรัฐธรรมนูญ”
ทั้งหมดคือทิศทาง-ความเป็นไปของ พรรคอนาคตใหม่ ที่แม้เปิดตัวได้ไม่นาน แต่ก็ถูกจับตามองไม่น้อย และสุดท้ายพรรคจะไปได้ไกลแค่ไหน จะเป็นของจริงหรือของปลอม ต้องดูกันยาวๆ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |