30 เม.ย.64 -  นายพริษฐ์ วัชรสินธุ หรือ ไอติม ผู้ก่อตั้งกลุ่มรัฐธรรมนูญก้าวหน้า โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า การนิ่งเฉยต่อความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นกับคนหนึ่งคน เท่ากับเรากำลังยอมรับให้ความอยุติธรรมนั้นอาจเกิดขึ้นกับใครก็ได้ รวมถึงตัวเราเองและคนที่เรารัก

สิ่งที่เกิดขึ้นตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา – และถูกตอกย้ำอีกครั้งหนึ่งในวันนี้ ด้วยคำสั่งของศาลอาญา ที่ยืนยันไม่ให้ปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยคดีการเมืองอย่าง เพนกวิน รุ้ง ทนายอานนท์ และ กลุ่ม – เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นในประเทศที่บอกว่ามี ‘กระบวนการยุติธรรม’ ซึ่งต้องยึดหลักว่าพวกเขาควร “ถูกสันนิษฐานว่ายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษา” (presumption of innocence until proven guilty) และดังนั้น จึงสมควรได้รับสิทธิในการประกันตัว เพื่อไม่ต้องติดคุกจนกระทั่งมีคำตัดสินว่าผิด ตามสิทธิขั้นพื้นฐานที่ถูกคุ้มครองโดยทั้งหลักสากล หรือแม้กระทั่งรัฐธรรมนูญของประเทศไทยเอง

สำหรับใครที่เห็นด้วยกับข้อเสนอของพวกเขาและกลุ่มคณะราษฎร คำพูดใดๆก็ตาม คงไม่สามารถอธิบายความรู้สึกปวดร้าวของคุณ ที่อาจไม่แปลกใหม่ แต่สะเทือนใจไม่น้อยกว่าเดิม กับการต้องเห็นประชาชนในประเทศ ถูกคุมขังพรากอิสรภาพและพรากจากครอบครัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพียงเพราะสิ่งที่เขาต้องการเห็นในประเทศ ไม่ตรงกับสิ่งที่เป็นผลประโยชน์ของผู้มีอำนาจ
.
แต่สำหรับใครที่ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอหรือแนวทางของกลุ่มคณะราษฎร พวกคุณก็ควรออกมายืนยันสิทธิเหล่านี้ให้กับพวกเขาเช่นกัน เพราะ “สิทธิ” โดยพื้นฐาน เป็นสิ่งที่ทุกคนควรได้รับการคุ้มครอง ไม่ว่าคุณจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับเขา ไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ชอบเขา และ ไม่ว่าเขาจะเป็นตัวแทนของคนทั้งประเทศ หรือ เขาเป็นเพียงคนเดียวที่ยืนอยู่อย่างเดียวดาย

“สิทธิ” จึงไม่ใช่อะไร ที่เราออกมาเรียกร้องแค่เฉพาะเมื่อต้องการคุ้มครองคนที่เรารักหรือเมื่อกลุ่มของเราได้ประโยชน์ แต่เป็นสิ่งที่เราต้องยืนหยัดให้กับทุกคนทุกกลุ่ม แม้กระทั่งคนที่เราเกลียด หรือแม้กระทั่งเมื่อกลุ่มของเราเองอาจเสียประโยชน์

จริงอยู่ว่าการออกมาเรียกร้อง “สิทธิ” ให้กับคนที่คุณเห็นด้วย เป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ยาก

ในขณะที่การออกมาเรียกร้อง “สิทธิ” ให้กับคนที่คุณเห็นต่าง เป็นเรื่องที่อาจลำบากใจกว่า

แต่นั่นไม่ใช่หรือครับ คือความเป็นมนุษย์ ที่ทำให้เราแตกต่างจากสิ่งมีชีวิตประเภทอื่น

นายพริษฐ์ ยังโพสต์ข้อความบนทวิตเตอร์ ย้ำว่า "สิ่งที่เกิดขึ้นกับ เพนกวิน รุ้ง อานนท์ และกลุ่ม ไม่ควรเกิดขึ้นในประเทศที่บอกว่ามี ‘กระบวนการยุติธรรม’ ซึ่งต้องยึดหลักว่าพวกเขายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษา

เราต้องยืนยันสิทธินี้ให้กับทุกคนทุกกลุ่ม ไม่ว่าเราจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับความคิดทางการเมืองของเขา"