ผลตรวจ อย.ผลิตภัณฑ์เครือเมจิก สกิน ล้วนผิดกฎหมาย ทั้งผลิตอาหารปลอม จดแจ้งสถานที่ผลิตไม่ตรงข้อเท็จจริง แสดงฉลากอาหารลวง มีโทษหนักจำคุกถึง 10 ปี ขณะที่ "วรรณภา" เจ้าของบริษัทเบี้ยวหมายเรียก "วิระชัย" ลั่นออกหมายจับ เผยเตรียมตั้งข้อหาดารารีวิวสินค้าหลังได้รับผลตรวจส่วนผสมชัดเจน

    เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมนี้ ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. ไปสอบปากคำนางวรรณภา พวงสน เจ้าของบริษัท เมจิก สกิน หลังผลการตรวจสอบของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) พบสารต้องห้ามในผลิตภัณฑ์หลายชนิดของเครือเมจิก สกิน โดยพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกมาให้การเพิ่มเติม แต่ปรากฏว่านางวรรณภาไม่ได้เดินทางมาแต่อย่างใด
    พล.ต.อ.วิระชัยเปิดเผยว่า ขณะนี้ผลตรวจผลิตภัณฑ์ในเครือเมจิก สกินจาก อย.ออกมาแล้ว มีผลต่อคดีอาญาที่ 20/2561 เดิมมีผู้ต้องหาคือ นางวรรณภา พวงสน และ น.ส.ธนัญพรรน์ บุญโญสิทธิ์ ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ผลการตรวจผลิตภัณฑ์คลอโรฟีล ดีท็อก ไฟเบอร์ ทาง อย.ยืนยันว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่แสดงส่วนประกอบสำคัญที่เป็นภาษาไทย และไม่มีการเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย, น้ำหนักสุทธิไม่ระบุเป็นภาษาไทย, ไม่ระบุข้อแนะนำการบริโภคว่า "ควรกินอาหารหลากหลายครบ 5 หมู่ ในสัดส่วนที่เหมาะสมเป็นประจำ" เป็นความผิดฐานฝ่าฝืนประกาศซึ่งออกตาม พ.ร.บ.อาหาร ม.60 (10) มีโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท
    คดีอาญาที่ 21/2561 ผลิตภัณฑ์แอปเปิ้ลสลิม อย.ตรวจสอบแล้วพบว่า ไม่พบข้อมูลสารบบอาหาร, ไม่แสดงสัดส่วนประกอบที่สำคัญเป็นภาษาไทย, ไม่แสดงคำเตือน “ไม่มีผลในการป้องกันหรือรักษาโรค”, ไม่ระบุข้อความวันที่ผลิตหรือหมดอายุ, แสดงฉลากเพื่อลวงหรือพยายามลวงให้ผู้ซื้อเข้าใจผิดในลักษณะพิเศษ ได้รับสารบบอาหาร ณ สถานที่ผลิต บ.เนเจอร์นิวทรี จำกัด เลขที่ 26/14 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งเลขดังกล่าวไม่มีอยู่ในระบบของ อย. เข้าฐานความผิดฝ่าฝืนประกาศซึ่งออกตาม ม.6 (10) ปรับไม่เกิน 30,000 บาท เและแจ้งข้อหาเพิ่มอีก 2 คนคือ นายกร พวงสน และว่าที่ร้อยตรีปวีร์ ปานดำรงสถิต ข้อหาร่วมกันผลิตเพื่อจำหน่าย หรือจำหน่ายอาหารปลอมอันเป็นเท็จ มีโทษจำคุก 6 เดือน-10 ปี ปรับตั้งแต่ 5,000-100,000 บาท
    ผลิตภัณฑ์สลิมมิลล์ สโนมิลล์ เดิมดำเนินคดีนางวรรณภา พวงสน และ น.ส.มธุรส แดงสัมฤทธิ์ ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ผลตรวจออกมา ผลิตภัณฑ์สลิมมิลล์ อย.แจ้งว่า ส่วนประกอบไม่ตรงกับความสำคัญที่ได้รับอนุญาต, ไม่แสดงส่วนประกอบที่เป็นภาษาไทย, แสดงสถานที่ผลิตไม่ตรงกับที่ได้รับอนุญาต, แสดงฉลากอาหารลวง หรือพยายามลวงผู้ซื้อให้เข้าใจผิดในคุณภาพและปริมาณ หรือเรื่องสถานที่และประเทศที่ผลิต, ผู้รับใบอนุญาตในการผลิตคือ บ.เนเจอร์นิวทรี แต่ข้างกล่องแสดง บ.เมจิก สกิน เป็นความผิดฐานฝ่าฝืนประกาศซึ่งออกตาม ม.6 (10) ปรับไม่เกิน 30,000 บาท และผลิตเพื่อจำหน่วยหรือจำหน่ายอาหารปลอม โทษจำคุก 6 เดือน-10 ปี ปรับตั้งแต่ 5,000-100,000 บาท
    คดีอาญาที่ 22/2561 ผลิตภัณฑ์ตรีชฎา เดิมมีผู้ต้องหาคือ นางววรณภา พวงสน, นายกร พวงสน และ น.ส.ตรีชฎา ใจสบาย ข้อหาร่วมกันฉ้อโกง ผลตรวจของ อย.พบว่า ขอจดแจ้งโดยนางวรรณภา พวงสน แต่ฉลากข้างกล่องระบุว่า บ.เมจิก สกิน ไม่ตรงกับที่จดแจ้ง, แสดงสรรพคุณช่วยลดเหงื่อ ผิวหนังไก่ใต้รักแร้ เป็นการแสดงไม่ถูกต้อง ระบุข้อความให้เข้าใจผิดในสาระเครื่องสำอาง เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ.2558, ชื่อของสารทุกชนิดไม่ตรงกับที่จดแจ้ง ถือว่าเป็นเครื่องสำอางปลอม จึงแจ้งข้อหาเพิ่มอีก 2 ราย คือ บ.เมจิก สกิน โดยนายกร พวงสน และ บ.ฮานิว โคเรีย จำกัด เพิ่มข้อหาร่วมกันผลิตเพื่อจำหน่าย รับจ้างผลิตหรือขายเครื่องสำอางปลอม มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
    คดีอาญาที่ 23/2561 ผลิตภัณฑ์เฟิร์น ชิโนบิ เมสโซ เดิมดำเนินคดีกับนางวรรณภา พวงสน และนายกร พวงสน ดำเนินคดีเพิ่มเติมกับนายพิร์นิธิ ดิรณวัตถุภรณ์, นายไมยสิทธิ์ สว่างธรรมรัตน์ และนายกสิทธิ์ วรชิงตัน ข้อหาร่วมกันผลิตเพื่อจำหน่าย หรือจำหน่ายอาหารปลอมอันเป็นเท็จ มีโทษจำคุก 6 เดือน-10 ปี ปรับตั้งแต่ 5,000-100,000 บาท
    พล.ต.อ.วิระชัยยังกล่าวถึงนางวรรณภา พวงสน ที่ไม่มาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกว่า ถ้าไม่มาพบพนักงานสอบสวนวันนี้จะต้องออกหมายจับ ขณะนี้นางวรรณภาได้รับประกันตัวในชั้นศาล เมื่อถึงวันให้การต่อศาลยังไม่มาอีก แสดงว่าหลบหนี ศาลต้องสั่งยึดหลักประกัน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องดำเนินการติดตามตัวมาดำเนินคดี ส่วนดาราที่มีส่วนในการรีวิวสินค้า ทาง อย.ยังไม่สามารถบอกได้ว่าสารประกอบแต่ละชนิดจะส่งผลตามที่โฆษณาหรือไม่ ต้องไปสอบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญต่อว่าสารประกอบแต่ละชนิดที่ใส่ในเครื่องสำอาง อาหารเสริม จะแสดงผลตามที่โฆษณาหรือไม่ เมื่อได้ผลมาแล้วจะสามารถวิเคราะห์ได้ว่าดาราจะมีความผิดฐานใด ส่วนคดีฟอกเงินแยกดำเนินการต่างหาก และขอฝากไปยังผู้ที่ช่วยกันยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินของกลุ่มผู้ต้องหา จะถูกดำเนินคดีฐานฟอกเงิน มีโทษจำคุกถึง 10 ปี.