29 เม.ย.64-นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมติดตามนโยบาย เรื่อง การใช้พื้นที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) มาทำประโยชน์ให้ประชาชน ผ่านระบบแอปพลิเคชั่น ZOOM ว่า กทพ. ได้รายงานว่า ปัจจุบัน กทพ. มีเขตทางรวมทั้งหมด ประมาณ 2,900 ไร่ สามารถนำมาใช้เป็นสาธารณประโยชน์ได้ประมาณ 1,136 ไร่ หรือคิดเป็น 39.17% โดยที่ผ่านมา กทพ. ได้ดำเนินการพัฒนาพื้นที่บางส่วน เพื่อสาธารณประโยชน์ไปบางแล้ว เช่น การพัฒนาสวนหย่อมสวนสาธารณะ เส้นทางจักรยาน และการจัดทำเส้นทางลัด เป็นต้น
สำหรับการพัฒนาพื้นที่เพื่อประโยชน์ของประชาชน ตามนโยบายของนายศักดิ์สยามนั้น กทพ. ได้พิจารณาพื้นที่ที่มีศักยภาพ จำนวน 7 แห่ง ขนาดเนื้อที่ประมาณ 189.5 ไร่ ดังนี้ 1.บริเวณใต้ทางด่วน ด่านอโศก 1 เนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ พัฒนาเป็นพื้นที่สีเขียว พร้อมลู่วิ่ง ลานพักผ่อน และกิจกรรม โซนสันทนาการและลานจอดรถ คาดว่าจะส่งมอบพื้นที่ให้พันธมิตรรับไปพัฒนาได้ใน พ.ย. 2564 2.บริเวณพื้นที่ร่วมบริการทางพิเศษเพลินจิต เนื้อที่ประมาณ 4.5 ไร่ พัฒนาเป็นพื้นที่ร่วมบริการ และลานกิจกรรม คาดว่าจะส่งมอบพื้นที่ให้พันธมิตรรับไปพัฒนาได้ใน ก.ค. 2566
3.บริเวณศูนย์บริการทางพิเศษบางโปรง เนื้อที่ประมาณ 50 ไร่ พัฒนาเป็น Service Center ครบวงจร (เป็นโครงการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน หรือ PPP ซึ่งจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป)4.บริเวณพื้นที่บริการสังคมทางพิเศษสีลม เนื้อที่ประมาณ 4 ไร่ พัฒนาเป็นพื้นที่ร่วมบริการ และลานกิจกรรม คาดว่าจะสามารถส่งมอบพื้นที่ให้ผู้ที่ได้รับคัดเลือกได้ประมาณ ก.ย. 25665.บริเวณสถานที่บริการทางพิเศษอุดรรัถยา กม.16 เนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ พัฒนาเป็น Service Area ครบวงจร (เป็นโครงการ PPP ซึ่งจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป)
6.พื้นที่ทางพิเศษอุดรรัถยา บริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รังสิต เนื้อที่ประมาณ 98 ไร่ พัฒนาเป็น Park & Ride และโลจิสติกส์ (เป็นโครงการ PPP ทั้งนี้ อาจพิจารณาความเป็นไปได้ที่จะพัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์) และ7.พื้นที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ พัฒนาเป็น ศูนย์บริการรัฐวิสาหกิจ ร้านค้า Skywalk และพื้นที่สาธารณะ คาดว่าจะส่งมอบพื้นที่ให้ผู้ที่ได้รับคัดเลือกได้ ประมาณ ก.ย. 2567
นายศักดิ์สยาม กล่าวต่ออีกว่า ตนได้มีข้อสั่งการเพิ่มเติมให้ กพท. กล่าวคือ การพัฒนาพื้นที่ ขอให้ กทพ. พิจารณาภายใต้หลักการว่า การพัฒนาจะต้องสร้างรายได้ให้เพียงพอต่อการบริหาร และไม่เป็นภาระต่อภาครัฐ ทั้งนี้ การออกแบบโครงการจะต้องออกแบบให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการใช้พื้นที่ด้วย ขณะเดียวกัน ขอให้ กทพ. ทำความเข้าใจกับประชาชนถึงวัตถุประสงค์ของการพัฒนาให้มีความชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการดำเนินการตามที่ได้วางแผนไว้ รวมถึงเพื่อลดปัญหาที่จะเกิดจากการพัฒนาพื้นที่
นอกจากนี้ สำหรับพื้นที่ที่การพัฒนาจะเป็นการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) ขอให้ กทพ. พิจารณาแนวทางร่วมลงทุนที่ดีที่สุดในการดำเนินการ โดยจะต้องมีความชัดเจน ทั้งในส่วนของวงเงินการลงทุน และผลตอบแทน ขณะที่ การพัฒนาพื้นที่ต่างๆ นั้น กทพ. จะต้องจัดทำ Action Plan ให้มีความชัดเจน และจะต้องสื่อสารการดำเนินการตามแผนงานเพื่อสร้างการรับรู้อย่างกว้างขวาง
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |