ต้องเรียกว่า “โควิด-19” ระลอก 3 ครานี้ นอกจากทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อของ “ไทย” พุ่งสร้างสถิติรายวันแล้ว โดยตัวเลขล่าสุดที่ “พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์” ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงนั้น มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,012 ราย ซึ่งส่งผลให้ยอดรวมผู้ป่วยของไทยอยู่ที่ 61,699 คน อยู่ในอันดับ 103 ของประเทศผู้ติดเชื้อ ที่สำคัญแซงหน้า “สิงคโปร์” ที่มีผู้ติดเชื้อ 61,063 คน และ หากแนวโน้มยังไต่ระดับกว่า 2 พันอีกก็อาจขยับระดับขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่พึงปรารถนาแต่อย่างใด โดยเฉพาะการเป็นประเทศ 2 หลักของผู้ติดเชื้อ ...๐
“ระลอก 3” ครานี้นอกจากตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตพุ่งแล้ว เสียงกระหึ่มในการไล่ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ดังก้องกว่าครั้งไหนๆ ซ้ำร้ายยังแซงหน้า “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ที่มีเสียงขับไล่พ้นเก้าอี้มาก่อนด้วยซ้ำไป ...๐
งานนี้ จะโทษ “ฝ่ายค้าน” และ “ฝ่ายแค้น” ก็ไม่ได้ เพราะปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นมันก็ตอกย้ำความไม่เด็ดขาดในการจัดการกับการระบาดระลอก 3 ครั้งนี้ เพราะ “รัฐบาล” เองก็รู้ดีว่าเป็นสายพันธุ์อังกฤษที่มีการติดเชื้อที่รวดเร็วและรุนแรง ซึ่ง บรรดา “อาจารย์หมอ” ทั้งหลายก็ได้แนะนำให้ “เจ็บแล้วจบ” มาตั้งแต่ต้นช่วงต้นเดือนเมษายน แล้ว แต่ “ลุงตู่” ที่เคยรับปากว่าปีนี้จะให้มี “สงกรานต์” และยังหวังจับปลาสองมือในการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วย จึงทำให้ “สงกรานต์” กลายเป็น “มหกรรมแพร่เชื้อโรค” ไปสู่ทุกภูมิภาค และทุกจังหวัดแทนที่จะอยู่เพียงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เหมือนเมื่อครั้งระบาดรอบ 2 ที่ระบาดในตลาดกลางกุ้ง สมุทรสาครไม่ได้ ...๐
การยักแย่ยักยันจะเอาทั้งเศรษฐกิจ และกลัว “เสียหน้า” จากที่ประกาศไปแล้วที่จะให้มีสงกรานต์นั่นแล จึงทำให้ “บิ๊กตู่” ต้องโดนตะเพิดให้พ้นเก้าอี้ผู้นำประเทศ แม้ ล่าสุด “พล.อ.ประยุทธ์” จะรวบอำนาจตามกฎหมาย 31 ฉบับในมือรัฐมนตรีต่างๆ มาอยู่ในมือตอนนี้แล้ว แต่ก็กลายเป็น “วัวหายแล้วล้อมคอก” เสียมากกว่า ...๐
นี่ยังไม่นับเรื่องการจัดตั้ง “โรงพยาบาลสนาม” เป็นดอกเห็ด เพราะล่าสุด “พญ.อภิสมัย” ก็บอกว่า ในส่วนของ กทม.นั้นไม่สอดรับกับสถานการณ์ เนื่องจากมีแต่ผู้ป่วยที่อยู่ในขั้นปานกลางและรุนแรง หรือโคม่า ที่จะต้องมีเตียงในโรงพยาบาลเท่านั้น ซึ่งนั่นจะเท่ากับทำให้ปัญหา “ระลอก 3” นี้รุนแรงมากยิ่งขึ้น หากพินิจตัวเลขของ “คน กทม.” ที่ยังติดเชื้อในระดับสูงสุดที่ 830 ราย ...๐
แต่ที่ขำไม่ออกจริงๆ ก็คือ การออกแถลงการณ์ของพรรคฝ่ายค้านที่ขับไล่ “พล.อ.ประยุทธ์” ให้พ้นเก้าอี้ โดยยังมีของแถมว่าให้แก้รัฐธรรมนูญมาด้วย พิโธ่! ถ้านายกฯ ไขก๊อกแล้วจะแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ที่ไหน แล้วที่สำคัญ การ “เปลี่ยนม้ากลางศึก” ก็ไม่ยิ่งทำให้สถานการณ์ดิ่งเหวเข้าไปเหรอ ...๐
ยิ่งได้ฟัง “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล เสนอให้รัฐบาลมืออาชีพเข้ามาทำหน้าที่แทน นี่ยิ่งหัวเราะไม่ออกจริงๆ เพราะ “รัฐบาลมืออาชีพ” ตามความหมายของ “ลูกหาบ” คณะก้าวหน้านั้นคือใคร อย่างไร เป็น “รัฐบาลแห่งชาติ” หรืออย่างไร ที่สำคัญการประชุมรัฐสภาก็ยังไม่เปิด ถ้านายกฯ ออกตอนนี้แล้วรัฐสภาจะกล้ามาประชุมเพื่อเลือกรัฐบาลใหม่หรืออย่างไร ...๐
แล้วที่เห็นแล้ว “แปร่งปร่า” อย่างยิ่งสำหรับพลพรรคของ “พิธา” นั้น วันๆ เห็นแต่ด่าอย่างเดียว บางที่เสนอโน่นนี่ก็เป็นเรื่องเก่าหรือทำไปแล้วบ้าง บางเรื่องก็มโนแบบไกลสุดกู่ แต่ไม่เคยเห็นลงพื้นที่ไปช่วยบรรเทาความเดือดร้อนชาวบ้านแต่ประการใดเลย ในขณะที่ “พรรคเพื่อไทย” หรือ “พรรคไทยสร้างไทย” ของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หรือพรรคกล้าของ “กรณ์ จาติกวณิช” ยังมีการไปช่วยเหลือ โดย ล่าสุดก็ “ลูกชายป๋าเหนาะ” อย่าง “สุรชาติ เทียนทอง” ก็ผุดไอเดีย “ตะกร้ากักตัว” ให้กับผู้ที่กักตัว ในขณะที่ “รณกาจ ชินสำราญ” และ “ดร.สุวดี พันธุ์พานิช” ของไทยสร้างไทยก็งัด “ถุงขยะแดง” ให้กับผู้ติดเชื้อและผู้อยู่ในกลุ่มเสี่ยง แต่กรณีนี้ก็สุ่มเสี่ยงที่จะทำให้เกิดปัญหาการรังเกียจ หรือแบ่งแยกในชุมชนได้ ซึ่งก็ต้องพิจารณาให้รอบคอบ ...๐
แต่ที่ตลกไม่ออกคือ แนวนโยบายของ ขสมก.ที่ประกาศปรับลดเที่ยววิ่งรถโดยสารทุกประเภทเพื่อให้สอดคล้องกับประกาศ ขบ. และจำนวนผู้ใช้บริการ ซึ่งเริ่ม 28 เม.ย. ทั้งนี้ประกาศ ที่ลงนามโดย “จิรุตม์ วิศาลจิตร” อธิบดีกรมการขนส่งทางบกนั้น เป็นกรณีรถข้ามจังหวัด ส่วนในเขตเมืองนั้นขอความร่วมมือปรับลดการบริการในช่วง 5 ทุ่มถึงตี 4 ทั้งที่ในความจริงการแก้ไขและป้องกันปัญหาควรเป็นเพิ่มเที่ยวเสียมากกว่า เพราะหากลดเที่ยวก็ยิ่งทำให้ผู้โดยสารสะสมแล้วก็แออัดยัดเยียด ยิ่งเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ เพราะ อย่าลืมว่าคนหาเช้ากินค่ำหรือมนุษย์เงินเดือนที่ไม่สามารถ WFH นั้น ก็ยังต้องอาศัยรถเมล์ในการดำเนินชีวิตอยู่ การคิดแบบนี้ก็สะท้อนชัดเจนว่าผู้บริหาร ขสมก.นั้นนั่งอยู่บนหอคอยงาช้าง ไม่เคยมานั่ง “รถเมล์” จริงๆ เลยนั่นแล ...๐
...ท.ศักดิ์
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |