แม้จะเกิดเหตุการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด ระลอกที่ 3 ทำให้เวทีขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกจากตำแหน่งของกลุ่มไทยไม่ทน สามัคคีประชาชน เพื่อประเทศไทย ที่มี จตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. อดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 2535 ต้องปรับรูปแบบ 

                เดิมทีเดียว วางรูปแบบกันเอาไว้ว่า หลังสงกรานต์จะเปิดศึกยกสองกับระบอบประยุทธ์ หาสถานที่จัดเวทีปราศรัย นัดหมายการชุมนุมอย่างเต็มรูปแบบ วางกำหนดการเอาไว้ 1-2-3-4 

                แต่เนื่องจากสถานการณ์ไวรัสโควิดที่มาถึงทุกวันนี้ ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูงจนน่าตกใจ แตะระดับ 2,000 ราย มาหลายวันแล้ว ประกอบกับข้อห้ามทางการ ข้อห้ามทางกฎหมาย ห้ามจัดชุมนุม ประชุม รวมตัวของคนหมู่มาก ทำให้ต้องมีการปรับรูปแบบให้เข้ากับยุคสมัย

                จัดเวทีปราศรัยออนไลน์ที่ได้ชิมลางมาแล้วรอบหนึ่ง เมื่อเสาร์-อาทิตย์ 24-25 เม.ย.ที่ผ่านมา ในงานก็มีทั้งนักไฮปาร์กหน้าเดิมๆ ขาประจำ บวกกับนักไฮปาร์กหน้าใหม่ที่ลิ้มลองขึ้นเวที อาทิ ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีต รมว.คลัง ในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็ขอแจม คว้าไมค์ ชำแหละระบอบประยุทธ์ด้วย โดยเฉพาะปมประเด็นความล้มเหลวในการรับมือ แก้ไขสถานการณ์ไวรัสโควิด-19

                แม้รูปแบบเวทีปราศรัย จัดชุมนุม จะแตกต่างจากครั้งที่ผ่านมา ไม่มีแนวร่วม ผู้ชุมนุมคอยปรบมือ ตะโกนเชียร์ให้กำลังใจ ทำได้เพียงคอยกดไลค์ ร่วมแสดงความคิดเห็นผ่านช่องทางออนไลน์เท่านั้น พลันเวทีใกล้เสร็จสิ้นลง

            จตุพร ออกมานัดหมายแนวร่วมกลุ่มไทยไม่ทนกันล่วงหน้าเลย ว่า ‘จะจัดรูปแบบปราศรัยออนไลน์กันอีก ในเสาร์-อาทิตย์ต่อไป การจัดครั้งนี้ใช้เวลาวันละ 6 ชั่วโมง ครั้งต่อไปก็อาจจะเพิ่มเป็น 8 ชม. หรือ 24 ชม. โดยมีการจัดสรรเวลา แบ่งหัวข้อการพูด ถือเป็นการซักซ้อมของเรา เชื่อว่าสัปดาห์หน้าจะมีคนมาร่วมอภิปรายมากกว่านี้’

                แม้การปราศรัย รูปแบบเวทีหยุดชะงักไปเล็กน้อย เป็นผลให้รวมตัวกันไม่ได้ ปรับรูปแบบจัดเวทีปราศรัยออนไลน์ ถือเป็นการซักซ้อมเสมือนจริงเอาไว้ก่อน หากวันใดไวรัสร้ายคลี่คลาย สถานการณ์ดีขึ้นมาก ก็พร้อมกลับมาจัดการชุมนุมเต็มรูปแบบ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะใช้เวลาอีกนานขนาดไหน ถึงตอนนั้น ตู่-จตุพร หรือ ตู่-ประยุทธ์ ใครจะไปก่อนกัน. 

ม้าไม้