บุกยึดคืนป่าชายเลนบางปู 136 ไร่ นายทุนรุกล้ำสร้างโกดังสินค้า ลานจอดรถ ท่าเรือ


เพิ่มเพื่อน    

28 เม.ย.64 - นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้สนธิกำลังร่วมกับชุดปฏิบัติการกรมป่าไม้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสมุทรปราการ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดสมุทรปราการ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสมุทรปราการ ตำรวจ และฝ่ายปกครอง เข้าทำการตรวจยึดพื้นที่ป่าชายเลนที่ถูกนายทุนใหญ่ภาคเอกชน ที่เข้ามาปลูกสร้างโกดังสินค้าขนาดใหญ่และมีการถมดินสร้างลานจอดรถและท่าเรือ บุกรุกเข้ามาในพื้นที่ป่าชายเลนซึ่งมีพันธุ์ไม้ป่าโกงกางที่ยังมีความอุดมสมบูรณ์ เอามาเป็นประโยชน์ของตัวเองกว่า 136 ไร่ ในพื้นที่หมู่ 4 บริเวณด้านหลังสถานีตำรวจภูธรบางปู ต.บางปูใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ พร้อมวางแผนปราบปรามการบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนทั่วประเทศ

หลังจากที่ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน ผลการเข้าตรวจสอบสามารถตรวจยึดที่ดินป่าชายเลนซึ่งเป็นสมบัติของชาติคืนได้จำนวน 2 แปลง พื้นที่รวมกว่า 136 ไร่ ที่ถูกบุกรุก แปลงที่แรกเป็นการบุกรุกครอบครองทำเป็นบ่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและที่พัก เนื้อที่ 5 ไร่ 3 งาน 72 ตารางวา ส่วนแปลงที่สองมีการบุกรุกถมดินสร้างสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่โดยมีการถมดินทำลานจอดรถและเตรียมสร้างท่าเรือ มีการกั้นรั้วห้ามเข้าออกพื้นที่และจัดทำบ่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เนื้อที่ 130 ไร่ 58 ตารางวา โดยพื้นที่ ที่ถูกบุกรุกเป็นพื้นที่ป่าชายเลนน้ำทะเลท่วมถึงเป็นพื้นที่ป่าตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484  ซึ่งมีการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีตามกฎหมายต่อพนักงานสอบสวน สภ.บางปู เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่าในวันนี้ทางกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้รับคำสั่งจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ลงมาตรวจสอบพื้นที่ ซึ่งเราได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่ามีการบุกรุกยึดถือครอบครองพื้นที่ป่าชายเลนซื้อเป็นป่าตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 จำนวน 2 แปลง ขนาดพื้นที่ 130 ไร่ และ 105 ไร่ ซึ่งจากการตรวจสอบแล้วเราพบว่าเป็นที่ดินที่เป็นป่า 2484 จริงและเราได้ทำการตรวจพิสูจน์ทางเอกสารสิทธิ์จากกรมที่ดินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมปฏิบัติการในวันนี้หลายหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นกรมเจ้าท่า กรมที่ดิน สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสมุทรปราการ ตำรวจ และผู้ใหญ่บ้าน หลังตรวจสอบแล้วเรายืนยันชัดเจนว่าเป็นการบุกรุกยึดถือครอบครองเพื่อใช้ประโยชน์ส่วนตนอย่างชัดเจน หลังจากนี้จะมีการลงชื่อร่วมกันบันทึกจับกุมลงนามโดยทุกหน่วยงานที่มาร่วมสนธิกำลังในวันนี้ไปกล่าวโทษร้องทุกข์กับเจ้าพนักงานตำรวจให้เป็นรูปคดี หลังจากนั้นก็จะมีการฟ้องศาล ซึ่งจากการดำเนินคดีก็คาดว่าจะต้องมีทั้งโทษจำและโทษปรับ ซึ่งโทษปรับทั้งสองแปลงนี้ประมาณ 14-15 ล้านบาท

นอกจากนี้ตนยังได้สั่งการให้หน่วยงานทีเกี่ยวข้องทุกหน่วยตั้งใจปฏิบัติงานอย่างเข้มแข็ง และเป็นกำลังสำคัญในการอนุรักษ์และปกป้องผืนป่าและทรัพยากรทางทะเลในระดับพื้นที่ อย่างไรก็ตาม กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้กำหนดแนวทางในการเร่งปราบปรามการบุกรุกทำลายพื้นที่ป่าชายเลนทั่วประเทศ พร้อมใช้มาตรการทางการกฎหมายดำเนินการต่อผู้กระทำผิดอย่างจริงจัง


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"