กองทัพเรือสหรัฐเปิดเผยเมื่อวันอังคารว่า เรือลาดตระเวนลำหนึ่งของกองทัพเรือสหรัฐยิงเตือนเรือสปีตโบ๊ต 3 ลำของกองทัพอิหร่าน ที่แล่นด้วยความเร็วเข้าหาเรือลำนี้และเรือป้องกันชายฝั่งของสหรัฐในน่านน้ำสากลเมื่อวันจันทร์

แฟ้มภาพ เรือลาดตระเวนชายฝั่ง ยูเอสเอส ไฟร์โบลต์ ของสหรัฐ แล่นผ่านช่องแคบฮอร์มุซ เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2564 (U.S. Navy/Mass Communication Specialist 2nd Class Indra Beaufort via military.com)

    คำแถลงจากกองเรือที่ 5 ของกองทัพเรือสหรัฐ เมื่อวันที่ 27 เมษายน กล่าวว่า เรือเร็วโจมตีชายฝั่ง 3 ลำของกองทัพเรือแห่งกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน (IRGCN) แล่นเข้าใกล้เรือลาดตระเวน ยูเอสเอส ไฟร์โบลต์ และเรือป้องกันชายฝั่ง บารานอฟ ในระยะ 62 เมตร ขณะที่เรือสหรัฐ 2 ลำลาดตระเวนในน่านน้ำสากลทางตอนเหนือของอ่าวอาหรับเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ลูกเรือสหรัฐออกคำเตือนหลายครั้งผ่านวิทยุระหว่างหอบังคับการเรือและเครื่องขยายเสียง แต่เรือของอิหร่านยังคงแล่นเข้ามาใกล้อีก "ลูกเรือของไฟร์โบลต์จึงยิงเตือนหลายนัด และเรือของ IRGCN ก็แล่นออกไปในระยะปลอดภัยจากเรือของสหรัฐ

    กองทัพเรือสหรัฐกล่าวว่า การกระทำของอิหร่าน "เพิ่มความเสี่ยงของการคำนวณผิดพลาด และ/หรือการชน" พร้อมกับเตือนว่า ผู้บัญชาการเรือของสหรัฐมีสิทธิป้องกันตนเอง

    เอเอฟพีกล่าวว่า เมื่อวันที่ 2 เมษายน เรือ 4 ลำของกองทัพเรืออิหร่าน ซึ่งประกอบด้วยเรือโจมตีเร็ว 3 ลำ และเรือคาตามารัน ฮาร์ธ55 แล่นเข้าใกล้เรือลาดตระเวนป้องกันชายฝั่งของสหรัฐ 2 ลำในลักษณะเดียวกันนี้ โดยแล่นตัดหน้าเรือสหรัฐโดยไม่ฟังคำเตือน

    วิดีโอของกองทัพเรือสหรัฐเผยให้เห็นเรือฮาร์ธ 55 แล่นตัดหน้าเรือของสหรัฐลำนี้ ที่เบนหัวเรือกะทันหันเพื่อหลีกเลี่ยงการชน

    การเผชิญหน้าในทะเลครั้งนี้เกิดในช่วงเวลาที่อิหร่านและชาติมหาอำนาจหลายชาติเจรจากันที่กรุงเวียนนาว่าด้วยกลไกที่จะทำให้สหรัฐกลับเข้าสู่ความตกลงนิวเคลียร์ปี 2558 ที่รัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ นำสหรัฐถอนตัวเมื่อปี 2561

    ในข้อเสนอกลับเข้าสู่ความตกลงฉบับนี้อีกครั้งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เน้นย้ำถึงความจำเป็นที่ต้องลด "กิจกรรมบั่นทอนเสถียรภาพของอิหร่านทั่วตะวันออกกลาง".