27 เม.ย.64 - พ.ต.อ.ศราวุธ คนใหญ่ รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 6 เปิดเผยว่า ในห้วงวันที่ 26-29 เมษายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 6 สามารถจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ จ.ตาก จ.พิษณุโลก และ จ.สุโขทัย ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ต้องกวางล้างขวนการค้ายาเสพติด ในช่วงมีการแพร่ระบาดโควิด อาจทำให้ช่วงนี้ขบวนการค้ายา ฉวยโอกาสในการแพร่กระจายยาเสพติดได้ ทำให้ พล.ต.ท.อภิชาติ ศิริสิทธิ์ ผบช.ภ.6 ได้สั่งการให้ตำรวจในสั่งการทำการกวาดล้างในห้วงเวลาดังกล่าว
ทั้งนี้สามารถจับกุมเครือข่ายยาเสพติดสำคัญรายใหญ่ได้ 3 เครือข่ายคือ เครือข่าย นายกว่าง จากเมื่อวันที่ 18/10/62 ยึดยาไอซ์ 1.5 ตัน (จุดตรวจบ้านห้วยระอุ จ.ตาก) วันที่ 24/11/63 จับกุม น.ส.หลิน ชาล์ ที่ย่านมีนบุรี กทมฯ (ยึดทรัพย์มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท) วันที่ 04/4/64 จับกุม น.ส.ปาณิสรา ศิริกรไตรวิชญ์หรือเจน กับพวก ที่ย่านลาดพร้าว (ของกลางยาไอซ์ 100 กก., ยาเค 100 กก.)
จากนั้นได้ทำการขยายผล จนขอออกหมายจับนายกว่าง หรือ นายวิชิต อาพลรุ่งโรจน์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) พบพระ อ.พบพระ จ.ตาก กับพวกรวม 4 คน (เครือญาติ น.ส.เจน) ยืดทรัพย์สินนายกว่าง เป็นเงินในบัญชี 1.1 ล้าน รีสอร์ท และบ้านมูลค่า 7.5 ล้านบาท
เบื้องต้นนายวิชิต หรือ นายกว่าง ได้หลบหนีไปก่อน และสามารถจับกุมตัวผู้ร่วมเกี่ยวข้อง 1 ราย ล่าสุดมีรายงานว่า นายกว่าง จะมีการเจรจาขอมอบตัวเพื่อสู้คดี
เครือข่ายที่ 2 เป็นเครือข่าย “พี่แหลม พิโลก” ทีมีพฤติกรรมใช้เฟซบุ๊คชื่อ “พี่แหลม พิโลก” โพสต์ขายยาเสพติด ในพื้นที่ จ.สุโขทัย และ จ.พิษณุโลก ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภาค 6 ได้ตรวจสอบเฟซบุ๊ค “พี่แหลม พิโลก” พบว่ามีรายละเอียด ตรงกับเฟซบุ๊คชื่อว่า “อภิรักษ์ แก้วเพ็ชร (ฟอร์จูน)” อายุ 20 ปี เป็นชาวจังหวัดอุทัยธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบนายอภิรักษ์ แก้วเพ็ชร พบความผิดปกติทางการเงินที่มีเงินในบัญชีไม่ต่ำวกว่า 20 ล้านบาท ทั้งๆที่ไม่มีอาชีพอะไรเป็นหลักแหล่ง
ต่อมาวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับนายอภิรักษ์ แก้วเพ็ชร กับพวกจำนวน 4 ราย ข้อหาสมคบฯ ตาม พรบ.ยาเสพติด ยืดทรัพย์สิน นายอภิรักษ์ฯ และเครือข่าย มูลค่า 20 ล้านบาท โดยนายอภิรักษ์ แก้วเพ็ชร ได้ปฏิเสธข้อกล่าว และพยายามขอประกันตัว ทางเจ้าหน้าที่คัดค้าน และได้ฝากขังตัวนายอภิรักษ์ อยู่ที่ศาลจังหวัดพิษณุโลก
ส่วนเครือข่ายสุดท้าย เป็นเครือข่าย ของ “บอย ป่ามะคาบ” โดยเมื่อวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภาค 6 จับกุมนายศักดิ์ชัย เจริญสุข หรือตาล ที่ จ.สุโขทัย ได้ของกลางยาบ้า 1.2 ล้านเม็ด จากนั้นได้ทำการขยายผลจนทราบว่า นายปิยะณัฐ คัชมาตย์หรือบอย ชาว จ.พิจิตร อยู่ในเครือข่าย “โก๋แก่ มันทุกเม็ด” มีพฤติกรรมเชื่อมโยมคอยว่าจ้างให้ผู้นำยาไปวางตามจุดต่างๆ เพื่อให้แก๊งที่ร่วมขบวนการ มารับยาไปส่งให้กับลูกค้าอีกครั้ง
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับ นายปิยะณัฐ กับพวกจำนวน 4 ราย ข้อหาสมคบฯ ตาม พรบ.ยาเสพติด ยึดทรัพย์สิน นายปิยะณัฐ และเครือข่าย มูลค่า 2 ล้านบาท ส่วนตัวนายปิยะณัฐ หรือ บอย ป่ามะคาบ ได้หลบหนีไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้านแล้ว
พ.ต.อ.ศราวุธ คนใหญ่ รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 6 กล่าวอีกว่า ทั้ง 3 เครือข่ายยึดทรัพย์สิน มากกว่า 30.5 ล้านบาท ได้ผู้ต้องหา 6 รายคดี ถือว่าเป็นพ่อค้ายาเสพติดที่สำคัญมาก ทาง พล.ต.อ. มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร. จะมาแถลงข่าวด้วยตนเองในครั้งนี้แต่เนื่องด้วยสถานการณ์โควิดที่แพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้องยกเลิกการแถลงข่าวไป แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะทำการขยายผลแต่ละขบวนการอย่างต่อเนื่อง เพราะรูปแบบการค้ายาเสพติดในอนาคตจะเปลี่ยนไป จนน่าเป็นห่วง ทั้งการค้าขายทางออนไลน์ หรือ การใช้กลยุทธ์ตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจมีมากขึ้น
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |