ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจเพื่อการปฏิรูป คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เผยเศรษฐกิจปีที่ 5คสช. ขยายตัว4.1-4.7 แนะเก็บภาษีเว็บไซต์ต่างชาติ แทนขึ้นแวต จับตาครึ่งปีหลังเงินเฟ้อสูง ชี้ไทยยังเจอปัญหาเลื่อมล้ำสูง รวยแค่ไม่กี่ตระกูล
นายอนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ได้ประเมินทิศทางเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังภายใต้ปีที่5ของ คสช ว่า ยังคงยืนยันการคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไว้ที่4.1-4.7%ตามที่ได้ประมาณการไว้ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาแม้นว่าอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในไตรมาสแรกปีนี้จะขยายตัวสูงสุดในรอบห้าปีที่ 4.8% เนื่องจากตนมองว่าอัตราการขยายตัวในไตรมาสแรกที่ 4.8% นั้นจะเป็นการเติบโตรายไตรมาสที่สูงที่สุดในปีนี้
โดยหลังจากนี้อัตราการเติบโตรายไตรมาสจะชะลอตัวลงและน่าจะอยู่ในระดับต่ำกว่า 4.8% โดยที่ในช่วงครึ่งปีหลังอัตราเงินเฟ้อจะเร่งตัวขึ้น ค่าครองชีพปรับตัวสูงขึ้น อันเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนการผลิตและราคาพลังงาน อัตราการว่างงานจะเพิ่มขึ้นสูงกว่า 1% สภาวะการทำงานต่ำระดับมากขึ้นเราจะเห็นคนจบปริญญาตรีทำงานที่อาศัยความรู้และทักษะระดับ ม. ปลาย เห็นคนจบ ป. โท ทำงานที่อาศัยความรู้และทักษะระดับ ป. ตรี เนื่องจากมีคนจำนวนมากไม่สามารถพัฒนาตัวเองไปสู่ผู้ประกอบวิชาชีพชั้นสูงได้จึงทำงานต่ำระดับเพื่อไม่ให้ว่างงาน
นอกจากนี้เทคโนโลยีเครื่องจักรอัตโนมัติและสมองกลอัจฉริยะได้ทำหน้าที่แทนแรงงานคนมากขึ้น การปรับเพิ่มอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มในช่วงปลายปีอาจทำให้ภาคบริโภคชะลอตัวลงควรเน้นจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มผู้ประกอบการอิเลคทรอนิกส์ที่มีถิ่นฐานนอกประเทศที่ค้าสินค้าและบริการในไทยแทน รวมถึงการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้ประกอบการทางอิเล็กทรอนิกส์ต่างประเทศ โดยเฉพาะการขายสินค้าดิจิทัลที่ไม่มีการส่งมอบสินค้า ไม่มีการนำเข้าสินค้า ทำให้การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มขาดหายไป เมื่อมีเก็บภาษีจากผู้ประกอบการธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ โดยมุ่งไปที่ผู้ประกอบการต่างประเทศที่ไม่มีถิ่นฐานในประเทศไทยเมื่อมีการเก็บภาษีจากผู้ประกอบการต่างประเทศได้เพิ่มขึ้นแล้วก็ไม่มีความจำเป็นต้องรีบปรับเพิ่มอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มในช่วงปลายปีนี้ที่อาจส่งผลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจได้ รายได้ภาษีมูลค่าเพิ่มที่ลดลงเป็นผลมาจากการเติบโตธุรกรรมออนไลน์ที่ตามเก็บภาษีไม่ได้มากกว่าอัตราภาษี การเพิ่มอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มอาจไม่ได้ทำให้รัฐมีรายได้เพิ่มแต่อย่างใด
ปัจจัยเสี่ยงทางการเมืองยังคงส่งผลต่อภาคการลงทุนในช่วงครึ่งปีหลัง ขณะที่การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกและปริมาณการค้าโลกยังคงเป็นบวกต่อภาคส่งออกและท่องเที่ยวของไทย ค่าเงินบาทจะมีความผันผวนมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังและต้องจับตาผลของการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยสหรัฐอเมริกาและมาตรการ QE Exit อัตราการขยายตัวของการส่งออกจะไม่เร่งตัวเหมือนช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา ในระยะยาวแล้ว เศรษฐกิจไทยจะต้องเติบโตบนฐานนวัตกรรมและผลิตภาพเนื่องจากการขยายตัวของแรงงานและทุนมีข้อจำกัดและเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ประเทศไทยนั้นยังลงทุนทางด้านนวัตกรรมน้อยมากเมื่อเทียบกับประเทศพัฒนาแล้ว
นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่า การกระเตื้องขึ้นของการลงทุนภาคเอกชนยังคงกระจุกตัวอยู่ในธุรกิจขนาดใหญ่ การเติบโตของเศรษฐกิจในระดับ 4.8% ในไตรมาสแรกไม่ได้หมายความว่า ทุกคนมีรายได้เพิ่มขึ้น 4.8% คนส่วนใหญ่อาจจนลงก็ได้หากรายได้ที่เพิ่มขึ้น 4.8% นั้นกระจุกตัวอยู่ในคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น และจากข้อเท็จจริงก็ชี้ชัดว่า กลุ่มคนเพียง 6 ตระกูลถือครองความมั่งคั่งเท่ากับคนเกือบ 50 ล้านคนและครอบครองทรัพย์สินมากกว่า 1 ใน 4 ของทั้งระบบ การกระจายรายได้และความมั่งคั่งที่ไม่เป็นธรรมเป็นผลจากโครงสร้างเศรษฐกิจสังคมที่มีความเหลื่อมล้ำสูง ระบบการเมืองแบบอำนาจนิยมที่มีการผูกขาด รวมทั้งความผิดผลาดทางนโยบายของหลายรัฐบาล ตลอดจนความไม่สามารถปรับตัวได้กับสภาพแวดล้อมและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป การขยายตัวทางเศรษฐกิจยังคงกระจุกตัวอยู่ในโครงสร้างเศรษฐกิจส่วนบน ยังไม่กระจายตัวมายังเศรษฐกิจฐานรากมากนัก และโครงสร้างเศรษฐกิจยังไม่ได้มีการแปรเปลี่ยนอย่างมีนัยสำคัญจึงยังทำให้ปัญหาการกระจายรายได้และความมั่งคั่งยังคงเป็นปัญหายืดเยื้อต่อไป เศรษฐกิจไทยต้องขยายตัวในระดับ 5-6% และต้องกระจายรายได้และความมั่งคั่งมายังคนส่วนใหญ่จึงแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำได้
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |