27 เม.ย.64 - ห้องประชุมศรีนครา ศาลากลางจังหวัดปัตตานี นายราชิต สุดพุ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี/ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดปัตตานี และนพ.ชัยรัตน์ ลำโป นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปัตตานี ร่วมแถลงข่าวสถานการณ์โควิด-19 ในจังหวัดปัตตานีระลอกใหม่ โดยมุ่งเน้นให้ประชาชนเพิ่มความปลอดภัยในการระวังการติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นและอธิบายการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องของจังหวัดปัตตานี และสอดคล้องกับคำสั่งของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.)
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระลอกใหม่ จังหวัดปัตตานี มีจำนวนผู้ติดชื้อเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณในช่วงหลังสงกรานต์ ทำให้จังหวัดปัตตานี มีผู้ป่วยสะสม 55 ราย ซึ่งมีผู้ป่วยกระจายไปยังอำเภอต่างๆ ประกอบด้วย อำเภอเมือง 35 ราย หนองจิก 11 ราย ยะหริ่ง 3 ราย โคกโพธิ์ 3 ราย สายบุรี 1 ราย และอำเภอไม้แก่น 1 ราย และ 1 รายอยู่นอกเขตจังหวัด (อำเภอเทพาจังหวัดสงขลา)
นายราชิต สุดพุ่ม เปิดเผยว่า การ lock down ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี จะมีขึ้นหรือไม่นั้น จะต้องมองว่าในด้านของเศรษฐ์กิจต้องควบคู่ไปกับการป้องกันโรค โดยขณะนี้ ที่มีผู้ป่วยรวมสะสม 55 ราย และหากจังหวัดยังสามารถที่จะควบคุมโรคได้นั้น มาตรการในการ lock down คงเป็นไปไม่ได้ แต่ทั้งนี้จังหวัดปัตตานีก็อยู่ในเกณฑ์ของการ lock down แล้ว
ส่วนกรณีคลัสเตอร์บันเทิงแห่งหนึ่ง (ร้านติดลม) ที่พบว่ามีผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก ก็ได้มีการติดตามทามไลท์ของผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแล้ว 300 กว่าคน ซึ่งก็ได้มาตรวจเชื้อกันทุกคน ส่วนคนอื่นๆที่ยังไม่ได้มารายงานตัวและได้ออกนอกพื้นที่ไปแล้ว เราก็ได้ติดตาม พร้อมแจ้งไปยังจังหวัดอื่นๆให้รับทราบ ซึ่งล่าสุดร้านอาหารดังกล่าวก็ได้ปิดให้บริการไปแล้ว
นอกจากนี้ ร้านดังกล่าวจังหวัดก็ได้ตรวจสอบและเจาะลึกไปอีกว่าสาเหตุเริ่มแรกของเชื้อนั้น มาจากใครกันแน่ ซึ่งอาจจะไม่ใช่พนักงาน อาจจะเป็นไปได้ว่าเชื้อมาจากลูกค้าและมาแพร่ โดยทั้งหมดก็ได้ทำการสอบสวนกันหมดแล้ว
สำหรับผู้ประกอบการร้านอาหารต่างๆ เราก็ได้ดำเนินตามมาตรการตามที่ ศบค. ได้ประกาศ อย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเวลา เรื่องการนั่งกินที่ต้องเว้นระยะหาง เรื่องของการจำหน่ายสุรา เราก็ได้ออกมาตรการอย่างเคร่งครัวมาโดยตลอด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิท 19 ต่อไป
สุดท้ายนี้ปัตตานีก็ได้ประกาศให้ประชาชนได้ยึดใช้มาตรการ D-M-H-T-T ของกระทรวงสาธารณสุข อีกทั้งเน้นย้ำทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย ซึ่งเราได้เตือนและทำการจำกับมาแล้วหลายรายกับผู้ไม่ปฏิบัติ แต่ก็ยังมีหลายคนที่ยังไม่ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้เราก็ได้มีการเพิ่มความเข้มของมาตรการป้องกันต่างๆ เพื่อให้ประชาชนมีความตระหนักมายิ่งขึ้น โดยให้ทุกอำเภอตั้งหน่วยชุดเฉพาะกิจขึ้นมาให้มีการตรวจ หากพบผู้ไม่สวมหน้ากากอนามัยให้มีการดำเนินการตามกกหมายทันที โดยระหว่างโทษปรับไม่เกิน 20,000บาท และขณะนี้ได้ปรับไปหลายรายแล้ว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |