ถ้า "หัวสมอง" นายกฯ เป็น "ถังขยะ"
คง "ล้นแล้วล้นอีก"!
release ทิ้งมันไปบ้างก็ได้นะครับ ไม่งั้นสมองจะ error
error แล้ว จะเปะปะไปหมด ด้วยไม่รู้จะหยิบ-จะฉวยอะไร-ตรงไหนทำก่อน
ด้วยทุกเรื่องในหัว มันสำคัญที่ต้องทำด้วยกันทั้งนั้น!
"สติ" คือหางเสือ ท่านมีอยู่แล้ว
ท่านก็ใช้เคล็ดลับวิชาฝ่ามืออรหันต์ "ฉันทะ-วิริยะ-จิตตะ-วิมังสา"
จัดลำดับ "ความสำคัญ" ก่อน-หลัง แต่ละเรื่อง ให้สอดคล้องกับปัญหาและสถานการณ์ไป
เดี๋ยวก็มีเสียง "สาธุการ" เองแหละ เชื่อเหอะ!
เมื่อทายาตรงแผล เดือน-ครึ่งเดือนแรก แผลยังไม่หาย แต่มันจะหยุดกลัดหนอง ค่อยๆ แห้ง แสดงว่า "เอาอยู่" และหายแน่!
ตอนนี้ ดูว่าวัตถุดิบ "เครื่องแกง" ท่านจัดหามาครบแล้ว และพอจะเลี้ยงคน ๗๐ ล้านได้แล้ว
จาก มิ.ย.-ธ.ค. ๑๐๐ ล้านโดส ชัวร์อยู่แล้ว ท่านบอกจะจัดหามาอีกเดือนละ ๕-๑๐ ล้านโดส "เผื่อเหลือ-เผื่อขาด"
ทั้งภาคเอกชน กว่า ๔๐ CEO "บริษัทชั้นนำ" แห่ขันหมากมาช่วยอีก ทั้งสิ่งของ-ทั้งแรง น่าปลื้ม
ดังนั้น รัฐบาล โดยนายกฯ ผู้เป็นแม่งานตอนนี้ จะสนเสียงหมาเห่า-หมาหอนให้เสียเวลาและอารมณ์ทำไม?
ที่ต้องสน อันเป็นความสำคัญอันดับต่อไป คือ การตระเตรียมงาน ตระเตรียมคนพลพรรคให้พร้อม ที่เรียกแผนงาน
ฝ่ายจัดงาน-จัดสถานที่, ฝ่ายออกการ์ดเชิญ, ฝ่ายต้อนรับ, ฝ่ายที่พักแขก, ฝ่ายยานพาหนะ, ฝ่ายการจราจร, ฝ่ายจัดคิว-คุมคิวคนมาฉีด
แค่นี้ยังไม่พอ....
แขกเหรื่อที่จะมาเป็น ๔๐-๕๐ ล้าน คนที่จะทำหน้าที่คิดเมนู คำนวณวัตถุดิบกับจำนวนคนให้ลงตัว คนปรุง คนเสิร์ฟ คนบริการ คนจัดคิวในการรับวัคซีน
ต้องแบบ "พรึ่บ" ชนิดปูพรม!
ประเภท กรุงเทพฯ ฉีดแล้ว แต่ต่างจังหวัดรอก่อน หรือฉีดจังหวัดนี้แล้ว ส่วนจังหวัดโน้น "ไม่ได้เลือกพรรคเรา" เอาไว้ทีหลัง อย่าให้เกิดเชียว
และอย่าลืม ไม่ว่ายุคนี้หรือยุคไหน ต่อให้ยุคมนุษย์ถ้ำด้วย การสื่อสารคือหัวใจ "ครองโลก-ครองมนุษย์"
แผนดี เนื้องานดี การบริการเยี่ยมขนาดไหน ก็ไร้ประโยชน์ ถ้าข่าวสารไม่ไปถึงให้คนตื่นรู้ ทั้ง ๗๗ จังหวัด
ว่า "วัคซีน ๑๐๐ ล้านโดส มาแล้วจ้า"
ได้ฉีดกันทุกคนแน่ โควิดหายไปจากบ้านเมืองเราแน่ พ่อแม่พี่น้อง ขึ้นรถ ลงเรือ ไปเหนือ ล่องใต้
ลืมอะไรก็ลืมได้........
แต่อย่าลืม "สวมหน้ากากอนามัย" กันไว้นะจ๊ะ!
เตรียมไปลงชื่อ "จองวัน-จองคิว" กันไว้ จะที่นั่น-ที่นี่ ก็ว่ากันไป สุดแต่ละจังหวัดจะกำหนดจุด เมื่อถึงวันนัดหมาย จะได้ไม่สับสนอลหม่าน ได้ฉีดกันแบบสมูธๆ
การโฆษณาประชาสัมพันธ์เชิงรุก ลีลา "หนึ่งนิดชิดใกล้" ไม่เพียงปลุกคนหลับทั้งหมู่บ้านให้ตื่นเท่านั้น
มันคือ HOPE ไฟแห่ง "ชีวิตหวัง" ของชาวบ้าน
ยิ่งคนห่างไกลในป่า-ในดง เสียงจากประชาสัมพันธ์ของรัฐ ทำให้เขารู้สึกเหมือนหัตถาครองภพจบแดน ประมาณนั้น
มันกระตุ้นให้เขามีพลัง....
ว่าพวกเขาไม่ได้ถูดทอดทิ้ง ยังมีดวงตาคู่หนึ่งดูแลพวกเขาอยู่ตลอด และนั่น พลัง "อยู่อย่างมีความหวัง" ในสังคม-ในชาติร่วมกันของเขา จะคุโชนตลอด
การที่คนไทยในทุกหน-ทุกแห่ง อยู่โดยไม่เกิดความรู้สึกว่า "เป็นส่วนเกินของสังคม" มันเป็นอะไรที่วิเศษมาก ในส่วนลึกของสายเลือด "พี่น้องร่วมชาติ"
พรุ่งนี้ ๒๘ เม.ย......
เห็นว่า นายกฯ มีนัดกับ CEO บริษัทเอกชน ถกกันถึงแผน "พรึ่บเดียวทั่วหล้า" ภายในเวลา ๖ เดือน ๗๐% คนไทย ต้องได้ฉีดวัคซีน!
ผมเห็นที่คุณ "สนั่น อังอุบลกุล" นำแผนงานจากเบรนสตรอม ๔๐ CEO แถลงแล้ว นายกฯ คงสบใจ
การบริหาร-จัดการปัญหา "ระบบรัฐ" จะเหมือนเพลงไทยเดิม น้ำจะเจิ่งนองเป็นลีลามาก่อนเนื้อ
ส่วนภาคเอกชน "หนักเนื้อ-เบาน้ำ" เขาเข้าประเด็น-เค้นเนื้อหา จัดลำดับงานเป็นหมวดหมู่ ใครชำนาญส่วนไหน รับส่วนนั้นไปบริหาร เรียกว่าเวลาคือเงินทอง
ในมิติแต่ละฟันเฟืองผลักหมุนเชื่อมต่อ ก่อเกิดพลังขับเคลื่อนผ่านแกนอย่างเป็นระบบ
ให้งานจัดหาวัคซีน, กระจายวัคซีน, กระจายข่าวสาร และการฉีดวัคซีน เกิดมหิทธานุภาพ "สยบโควิด" ฉับพลัน
เพื่อไปฉุดเครื่องยนต์เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวไทยให้ "สตาร์ทติด" เดินหน้ากันต่อไป
เห็นชัด การทำงานของ CEO "มาปุ๊บ-แผนปั๊บ" ๔๐ กว่าบริษัท จัดเป็น ๔ ทีม ตามความจัดเจนแต่ละเจ้า
-ทีมสนับสนุนการกระจายและฉีดวัคซีน
สนับสนุน สถานที่ บุคลากร อาสาสมัคร และอุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น คอมพิวเตอร์ เครื่องพิมพ์เอกสาร เครื่องอ่านบัตรประชาชน ให้ กทม.
เพิ่มจากโรงพยาบาลรัฐและเอกชน ตอนนี้ลงพื้นที่สำรวจกับ กทม.แล้ว
ระยะแรก ๑๐ พื้นที่ใน กทม.ที่เอกชนจะนำร่อง เช่น
กลุ่มเซ็นทรัล, SCG, เดอะมอลล์, สยามพิวรรธน์, เอเชียทีค, โลตัส, บิ๊กซี, ทรูดิจิตัลพาร์ค เป็นต้น
สรุปงานกันแล้ว เข้าสู่ขั้นตอนจัดทำหน่วย "ฉีดวัคซีนเคลื่อนที่" ไปตามจุดต่างๆ คือหน่วยงานไปหาคน คนไม่ต้องมาที่หน่วยให้ยุ่งยาก
-ทีมการสื่อสาร
ปัญหาคือ ยังมีคนไม่เข้าใจเรื่องการฉีดวัคซีน บางคนไม่อยากฉีด ทีมสื่อสารจะทำความเข้าใจในส่วนนี้
ทางภาครัฐ ทำ "หมอพร้อม" ซึ่งจะช่วยให้ระบุสถานที่ที่จะลงทะเบียนฉีด การจัดคิว-จัดลำดับการฉีด ไม่เกิดการกระจุกตัว
Google, LINE, Facebook, VGI และ Unilever เป็นต้น ซึ่งเป็นโคตรเซียนด้านสื่อสาร รับงานส่วนนี้ไปทำ
-ทีมเทคโนโลยีและระบบ
การลงทะเบียนที่มีประสิทธิภาพ ขั้นตอนฉีดที่รวดเร็ว และมีระบบติดตามตัว พร้อมออกใบรับรองการฉีดวัคซีน
IBM นำทีม อีกหลายบริษัท เป็นเจ้าภาพเข้ามาสำรวจและปรับปรุงกระบวนการ
-ทีมจัดหาวัคซีนเพิ่มเติม
ภาครัฐและเครือข่ายโรงพยาบาลเอกชนร่วมกัน ในหลักการ ต้องหาเพิ่มอีก ๓๐ ล้านโดส ให้ครบ ๑๐๐ ล้านโดส เพื่อฉีดให้ครอบคลุม ๗๐% ของประชากรทั้งประเทศ
ตรงนี้อาจเกิดคำถาม....
แล้วอีก ๗๕-๗๖ จังหวัดล่ะ ภาครัฐ-ภาคเอกชน ไม่เห็นออกแผนเลยว่า จะปูพรมฉีดเหมือนที่ปูพรมใน กทม.หรือไม่ อย่างไร?
จะเน้นเฉพาะ กทม.แล้วเนือยๆ ในต่างจังหวัด หรือจะอย่างไร ฝากท่านนายกฯ มีคำอธิบายต่อพี่น้องต่างจังหวัดด้วยครับ
ผมเข้าใจว่า ตั้งแต่ มิ.ย.ไป ภาครัฐจะตระเวนฉีดชนิดปูพรม แต่ไม่เห็นมหาดไทยกระดิกอะไรเป็นสัญญาณให้แต่ละจังหวัดตื่นตัว และเตรียมงาน?
ช่วง ๑ เดือนนี้ แต่ละจังหวัด ควรจัดทำข้อมูลพื้นที่ สถานที่ จำนวนคนรับฉีดให้ลงตัว
แล้วส่งข้อมูลนั้นไปบริหารกับการจัดหาวัคซีนและการฉีดที่ทั่วถึงและพร้อมพรึ่บ
อาจทำอยู่แล้ว แต่ยังไม่เห็นข่าวสาร ที่สำคัญ รัฐบาลยังไม่พูดให้ชัดลงไป เพียงพูดลักษณะครอบจักรวาล ภายใน ๖ เดือน ๗๐% ของคนไทยได้ฉีด เท่านั้น
เอาให้ชัดเพื่อหล่อเลี้ยงความหวังการรอคอยอีกนิดซิครับ ว่า จากเดือน มิ.ย.ไป รูปธรรมกระจายฉีดวัคซีน ในแต่ละจังหวัด จะเป็นแบบไหน?
จะได้ถลกแขนรอแบบไม่เก้อ!
เฉพาะประเด็น "ตัววัคซีน" ยังมีอีกหลายคำถาม ที่คนอยากฟังคำตอบชัดๆ จากรัฐบาล
เพื่อ "จับถูก" น่ะครับ ไม่ต้องผวา
หน้าตาผมไม่ใช่คนชอบ "จับผิด" ซักหน่อย!.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |