ส.ส.ใต้ พปชร.ตอก ปชป.ขอเปลี่ยน รมต.ดูแลพื้นที่ภาคใต้สะท้อนความล้มเหลวอยู่มา 30 ปีไม่มีอะไรดีขึ้น ยันคำสั่งนายกฯ เป็นแนวคิดที่ดีพร้อมให้การสนับสนุน โฆษก ปชป.ไล่ "สัณหพจน์" ถามบรรพบุรุษว่า ปชป.พัฒนาปักษ์ใต้อย่างไรบ้าง จี้ พปชร.อบรมเล่นการเมืองสร้างสรรค์ ส.ส.ใต้ ก้าวไกลเหน็บแค่เปลี่ยนผีเน่ามาดูแลคนใต้แทนโลงผุ พท.ปัดร่วมรัฐบาลแทนภูมิใจไทย ชี้รัฐบาลปล่อยข่าวกันเองสะท้อนความไม่เป็นเอกภาพ
เมื่อวันจันทร์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กับพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ยังคงตอบโต้กันกรณี คำสั่งนายกรัฐมนตรี เรื่อง มอบหมายให้รัฐมนตรีรับผิดชอบแนวคิดการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันระดับพื้นที่จังหวัด โดยนายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.นครศรีธรรมราช และรองโฆษกพรรค พปชร. กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 อยู่ในช่วงวิกฤติ ซึ่งพรรคการเมืองต่างๆ โดยเฉพาะพรรคร่วมรัฐบาล ต้องช่วยกันให้ความรู้ และประชาสัมพันธ์เรื่องการป้องกันและควบคุมโควิดแก่ประชาชน รวมทั้งช่วยเหลือในด้านต่างๆ เพื่อให้เราสามารถฝ่าฟันวิกฤติไปได้ กรณีที่มีพรรคการเมืองบางพรรคออกมากล่าวถึงเรื่องการเมือง โดยเฉพาะเรื่องที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม มีคำสั่งที่ 85/2564 เรื่องมอบหมายให้รัฐมนตรีรับผิดชอบแนวคิดการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันระดับพื้นที่จังหวัด ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมที่จะพูดเรื่องของการเมือง
"คำสั่งนายกฯ ถือเป็นแนวคิดที่ดี ดังเช่นในภาคใต้ที่มีการเปลี่ยนแปลงรัฐมนตรีที่จะเข้ามาดูแลพื้นที่ ซึ่งถือเป็นคนใหม่ ที่จะมีแนวคิดใหม่ๆ และตนหวังว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง และการพัฒนาใหม่เกิดขึ้นในพื้นที่ หลังจากที่ผ่านมาพบว่า มีเพียงกลุ่มการเมืองเดิมที่อยู่มากว่า 30 ปี แต่ภาคใต้กลับไม่ได้รับการพัฒนาเท่าที่ควร กรณีที่พรรคการเมืองบางพรรคออกมาตีโพยตีพายเรื่องการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีดูแลพื้นที่ภาคใต้นั้น ผมเห็นว่าคำสั่งดังกล่าวถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดี ไม่ว่าใครเข้ามาดูแล หากสามารถช่วยขับเคลื่อนให้พื้นที่ภาคใต้พัฒนากว่าที่ผ่านมา ผมก็พร้อมจะสนับสนุนทุกคน เนื่องจากเราเคยให้โอกาสพรรคการเมือง และกลุ่มการเมืองเดิมๆ บริหารพื้นที่มานานกว่า 30 ปี แต่กลับไม่มีอะไรดีขึ้นเลย ซึ่งการเปลี่ยนบุคคลดูแลดังกล่าวจึงเท่ากับสะท้อนความล้มเหลวของกลุ่มการเมืองเดิมๆ” นายสัณหพจน์กล่าว
นายสัณหพจน์กล่าวว่า สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ได้มีคำสั่งดังกล่าวออกมานั้น แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลรับฟังสิ่งที่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ได้สะท้อนปัญหาความเดือดร้อนความต้องการผ่านตัวแทนของประชาชนคือ ส.ส.ภาคใต้ทั้ง14 คนของพรรค พปชร. ต่อจากนี้ ส.ส.ภาคใต้ของพรรค พปชร.สนับสนุนการทำงานในพื้นที่อย่างเต็มกำลัง เพื่อช่วยเหลือและขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ของรัฐบาล ที่จะเป็นประโยชน์กับประชาชนทุกคน
ด้าน นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรค ปชป. กล่าวตอบโต้นายสัณหพจน์ว่า ที่วิจารณ์ว่าขณะนี้ไม่ใช่เวลาที่จะพูดเรื่องการเมืองนั้น เห็นว่านายสัณหพจน์พูดถูก แต่ปฏิบัติตัวผิดไปจากคำพูดของตัวเอง ถ้าทำตามที่พูด นายสัณหพจน์ก็ไม่ควรออกมาสัมภาษณ์ให้ร้ายพรรคอื่นเช่นนี้ ทุกคนมองออกถึงเจตนา และการที่ระบุว่าที่ผ่านมามีเพียงกลุ่มการเมืองเดิมที่อยู่มากว่า 30 ปี แต่ภาคใต้กลับไม่ได้รับการพัฒนาเท่าที่ควรนั้น พี่น้องชาวปักษ์ใต้ทราบดีว่าประชาธิปัตย์ได้ทำอะไรให้กับประชาชนบ้าง ทั้งวางโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคม รถไฟทางคู่ ถนน 4 ช่องจราจร พัฒนารายจังหวัดให้มีศักยภาพในด้านการท่องเที่ยว ราคายาง ราคาปาล์ม เรื่องแบบนี้คนปักษ์ใต้ทราบดี และเมื่อครั้งที่รัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เลือกปฏิบัติ จนภาคใต้ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการจัดสรรงบประมาณ ฉะนั้นการกล่าวหาว่า 30 ปี ไม่มีอะไรดีขึ้นเลยนั้น ให้กลับไปถามบรรพบุรุษในปักษ์ใต้ดูก็จะได้ความจริง
นายราเมศกล่าวว่า ที่อ้างว่าการเปลี่ยนตัวบุคคลสะท้อนความล้มเหลวของกลุ่มการเมืองเดิม เห็นว่าคำพูดนี้พูดเพื่อให้ดูดีในทางการเมือง ชาวปักษ์ใต้ตอบรับการเมืองที่ดี ส่วนการเมืองที่เลวร้ายเชื่อว่าวันหนึ่งสังคมจะรู้ การมอบหมายงานรัฐมนตรี ประชาธิปัตย์ก็บอกตรงๆ ไปแล้วว่าไม่พอใจ เพราะไม่มีความเหมาะสมใดๆ เลย พื้นที่ภาคใต้มีพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยาง สวนปาล์ม แต่มันสำปะหลังไม่ค่อยมี อาจจะเป็นเพราะดินฟ้าสภาพอากาศ ก็ควรหารัฐมนตรีคนที่เหมาะสมไปทำงานที่เหมาะสมจะเกิดประโยชน์มากกว่า
"พรรคพลังประชารัฐควรตักเตือนให้พูดจาในทางการเมืองที่สร้างสรรค์ เรื่องบางเรื่องควรเปลี่ยนวิธีการพูด ก่อนจะออกเป็นคำพูดต้องผ่านกระบวนการกลั่นกรองจากส่วนสำคัญของร่างกายที่ทำหน้าที่คิดก่อน ถ้าจะออกมาพูดแบบนี้เหมือนส่วนสำคัญดังกล่าวหายไป พรรคร่วมควรช่วยกันคิดร่วมกันทำงานเพื่อประชาชน แต่ถ้าคิดแต่ประโยชน์ส่วนตน เชื่อว่านับถอยหลังได้เลย" นายราเมศกล่าว
ด้าน นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ สัดส่วนภาคใต้ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า รู้สึกสังเวชใจเมื่อเห็นพรรคประชาธิปัตย์ยุคนี้ต้องมาโอดครวญต่อคำสั่งของนายกรัฐมนตรี ที่มอบหมายให้รัฐมนตรีรับผิดชอบโครงการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันระดับพื้นที่จังหวัด ซึ่งลึกๆ แล้วก็คือการแบ่งเค้กงบฟื้นฟู 45,000 ล้านบาท จากวงเงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ไปหาเสียงล่วงหน้าในจังหวัดฐานเสียงรัฐมนตรี แต่กลับโดนเพื่อนแทงข้างหลัง เพราะในพื้นที่ภาคใต้ซึ่งเป็นฐานเสียงสำคัญของตนเองกลับมีการโยก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเดิมดูแลพื้นที่ภาคเหนือมาให้ดูแลพื้นที่จังหวัดสงขลา นครศรีธรรมราช และภูเก็ต แทนนายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยจากพรรคประชาธิปัตย์ มองด้านหนึ่งก็น่าเห็นใจ เพราะเหมือนโดนตกปลาในบ่อเพื่อน
"จะเอารัฐมนตรีแป้งมาดูแลพื้นที่ภาคใต้ คนใต้บางส่วนคงคิดได้ว่า ระหว่างผีเน่ากับโลงผุๆ อะไรจะเปรตกว่ากัน ไปย้อนดูผลงานทั้งคู่ พรรคก้าวไกลเคยแฉไว้ยิบในสภาฯ ไม่ว่าตั้งกระทู้ถาม อภิปรายงบประมาณ และอภิปรายไม่ไว้วางใจ เชื่อว่าคนใต้ ‘ตาแจ้ง’ ครับ” นายประเสริฐพงษ์ระบุ
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีมีการเสนอข่าวว่า มีความพยายามหาพรรคสำรองไปร่วมรัฐบาล และมีการเตรียมดึงพรรคเพื่อไทยเข้าร่วมแทนพรรคภูมิใจไทย พร้อมทั้งอ้างข่าวว่าพรรคเพื่อไทยพร้อมเข้าร่วม โดยไม่มีข้อต่อรองและไม่มีเงื่อนไขในการเข้าร่วมใดๆ นั้น ขอปฏิเสธข่าว และยืนยันว่าไม่มีมูลความจริงแต่อย่างใด เป็นเฟกนิวส์เต้าข่าวเพื่อหวังผลทางการเมือง เบี่ยงเบนประเด็นปัญหาในวิกฤติเสถียรภาพของพรรคร่วมรัฐบาลที่ขัดแย้งแตกแยกกันอย่างหนัก สะท้อนความล้มเหลวในการบริหารงาน จนเกิดสภาพความแตกแยกและความไม่เป็นเอกภาพของรัฐบาลประยุทธ์
นายอนุสรณ์กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเป็นสถาบันทางการเมืองในฝ่ายประชาธิปไตย ที่ได้รับความเชื่อมั่นและความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนคนไทยทั่วทั้งประเทศจนมีจำนวน ส.ส.มากที่สุดในสภาฯ หากไม่เจอกลไกลับลวงพรางของรัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้นมาเพื่อให้พรรคพลังประชารัฐเป็นรัฐบาล พรรคเพื่อไทยต้องได้เป็นรัฐบาล จึงไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะไปเป็นพรรคอะไหล่สำรอง รัฐบาลประยุทธ์กำลังเข้าตาจน โควิดระบาด สิ่งที่รัฐบาลประยุทธ์ควรทำมากกว่าการหาพรรคสำรอง คือ ลาออก หรือยุบสภาฯ คืนอำนาจให้ประชาชน เพราะเมื่อคนไทยได้รับการฉีดวัคซีนมากขึ้น ถนนทุกสายจะไหลรวมไปสู่การออกมาขับไล่รัฐบาลประยุทธ์
นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวเช่นกันว่า ไม่เป็นความจริง และมองว่าอาจเป็นข้อเสนอของรัฐบาล หรือรัฐบาลเป็นฝ่ายปล่อยข่าวเอง สะท้อนให้เห็นความไม่เป็นเอกภาพของรัฐบาล และสะท้อนการจัดการภายในที่ล้มเหลว ขณะนี้เป็นเวลาที่ประชาชนต้องช่วยกัน ทุกฝ่ายต้องทำให้ภาวะวิกฤติโควิดนี้ผ่านพ้นไปด้วยดีและเร็วที่สุด รัฐบาลต้องฟังให้มาก และนำความเห็นจากฝ่ายต่างๆ ไปบริหาร อย่าเบี่ยงเบนประเด็นให้คนอื่นรับผิดชอบ ต้องสร้างความมั่นใจให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าให้รู้สึกว่าจะผ่านพ้นไปให้ได้ โดยต้องทำคู่ขนานกับการฟื้นฟูเศรษฐกิจ เพื่อให้ประชาชนสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |